สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ว่า พรรคชาตินิยมชาวฮินดู ภาราติยะ ชนตะ (บีเจพี) ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เอาชนะพรรคคองเกรส ได้อย่างขาดลอย ในการเลือกตั้งแห่งชาติอินเดีย 2 ครั้งล่าสุด ในปี พ.ศ. 2557 และ 2562 โดยพรรคคองเกรส หรือชื่อเต็มว่า อินเดียน เนชั่นแนล คองเกรส (Indian National Congress : INC) ซึ่งครองอำนาจเป็นรัฐบาล เป็นเวลายาวนาน นับตั้งแต่อินเดียได้เอกราชในปี พ.ศ. 2490 ล่าสุดคุมอำนาจเพียง 3 ใน 31 รัฐและดินแดนสหภาพทั่วประเทศ

สัปดาห์ที่แล้ว พรรคคองเกรสสูญเสียอำนาจในรัฐปัญจาบ ให้กับพรรคบีเจพี ที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียงแค่ 10 ปี และบีเจพียังรักษาอำนาจในอีก 4 รัฐไว้ได้ ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว
โฆษกพรรครองเกรส กล่าวว่า นายซอนญ่า คานธี ประธานพรรคได้ร้องขอให้ประธานสาขาพรรค ประจำรัฐอุตตรประเทศ รัฐอุตตราขัณฑ์ รัฐปัญจาบ รัฐกัว และรัฐมณีปุระ ลาออก เพื่อให้เกิดความสะดวก ในการปรับโครงสร้างสาขาพรรคในแต่ละรัฐ

แกนนำพรรคคองเกรสนัดพบหารือกัน เมื่อวันอาทิตย์ (13 มี.ค.) เพื่อวิเคราะห์ความพ่ายแพ้ โดยในระหว่างการหารือ นางคานธีและลูก 2 คน ซึ่งมีตำแหน่งสำคัญในพรรค ได้ขอลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่แกนนำพรรครายอื่นๆ กล่าวว่า จะสนับสนุนคนในตระกูลเนห์รู-คานธี ต่อไป หลังจากควบคุมพรรคคองเกรสมาหลายทศวรรษ นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย ยาวาฮาร์ลัล เนห์รู
โมดีกล่าวโจมตีพรรคคองเกรสซ้ำหลายครั้ง ว่าเป็นสมบัติของตระกูลเนห์รู-คานธี และเล่นการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจสำหรับคนในตระกูลนี้
พรรคคองเกรสกล่าวในแถลงการณ์ หลังการหารือของแกนนำพรรคเมื่อวันอาทิตย์ ว่า สมาชิกพรรคยืนยันเป็นเอกฉันท์ ความเชื่อถือศรัทธาต่อความเป็นผู้นำพรรค ของนางซอนญ่า คานธี และตกลงมอบหมายให้เธอมีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว ในการปรับปรุงพรรค เพื่อต่อสู้กับความท้าทายต่างๆ ทางการเมือง.
เครดิตภาพ – Reuters
เครดิตคลิป – Hindustan Times