เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์เป็นภาพรถกระบะ ที่อ้างว่าคนขับเป็นชายหญิงชาวต่างชาติ ใช้เชือกผูกขาสุนัขติดกับท้ายรถ แล้วลากไปตามถนนบนทางหลวงหมายเลข 225 ถนนสายหนองบัว-ชัยภูมิ ใกล้กับ 4 แยกไฟแดงบ้านราหุล ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามสื่อต่างๆ อย่างหนักว่า เป็นการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ และไม่รู้ว่าสุนัขตัวดังกล่าวขณะที่โดนลากไปนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สองสามีภรรยา ที่อยู่บ้านเลขที่ 444 หมู่ 4 ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นคนที่ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สตราด้า 4 ประตู หมายเลขทะเบียน บธ 2186 เพชรบูรณ์ คันที่อยู่ในคลิป ได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

โดย นางแน่งน้อย แสงทอง อายุ 65 ปี ภรรยา เปิดเผยว่า ก่อนอื่นตนต้องขอแก้ข่าวว่า ตนเป็นคนไทยไม่ใช่ชาวต่างชาติ ตามที่มีการเสนอข่าวไป และรถกระบะที่อยู่ในคลิปก็เป็นรถของตน ส่วนหมาที่อยู่ในคลิป ก็เป็นหมาที่ถูกรถชนตายอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของตน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นหมาใคร ทางแฟนจึงจะนำไปทิ้ง โดยได้พยายามที่จะยกขาหมาขึ้นรถแล้ว แต่ปรากฏว่าหมามีกลิ่นเหม็นขึ้นอืดแล้ว และที่สำคัญหมาตัวใหญ่มาก ตนและแฟนจึงได้ตัดสินใจเอาเชือกมามัดลากไปทิ้งในป่าข้างทาง ให้ห่างจากแหล่งชุมชน ประมาณ 1 กิโลเมตร

ขณะที่ นายจีระศักดิ์ แสงทอง อายุ 66 ปี สามีซึ่งเป็นคนขับ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา มีหมาถูกรถชนตายหลายตัว ซึ่งตนก็จะนำไปทิ้งให้ตลอด เพราะจุดดังกล่าว นอกจากจะเป็นหน้าบ้านที่ตนเปิดให้เช่าแล้ว ยังเป็นแคมป์คนงานมีคนงานอาศัยอยู่ 50 คน และเป็นแหล่งชุมชน ถ้าไม่นำหมาไปทิ้งก็กลัวว่าทั้งคนงานและชาวบ้านก็จะพากันเดือดร้อนเรื่องกลิ่นเหม็น และยิ่งไปกว่านั้น เวลาช่วงเย็นใกล้มืด รถที่สัญจรไปมาแถวนี้ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถบรรทุก แต่ละคันก็วิ่งเร็วกันทั้งนั้น รถอาจจะชนหรือไม่หักหลบซากหมาที่ตาย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนจะรอให้ใครมาเก็บก็คงไม่มีนอกจากตน

ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกไปว่า มีรถกระบะลากหมาไปตามถนนหมายเลข 225 สายหนองบัว-ชัยภูมิ นั้น ตนสองคนรู้สึกเสียใจมากว่า ทำไมไม่ถามตนก่อนว่า สาเหตุที่แท้จริงคืออะไร แล้วใครจะกล้ามัดหมาที่ยังไม่ตายแล้วลากไปแบบนั้น เพราะตนก็มีจิตใจที่เป็นมนุษย์ รักสัตว์เหมือนกัน

“ฝากถึงคนที่ถ่ายคลิปดังกล่าวว่า ก่อนจะลงข่าวอะไร ควรจะถามตนให้รู้ความจริงเสียก่อน ถ้าวันนั้นบอกให้ตนจอดรถตนก็จะจอดรถ เพื่ออธิบายว่าเรื่องราวเป็นมายังไง แต่นี่บีบแตรรถใส่ตน แล้วก็ขับแซงไปเลย ซึ่งทำให้ตนรู้สึกเสียใจจนถึงตอนนี้” นายจีระศักดิ์ กล่าว

ส่วนเรื่องที่ว่าจะเอาผิดกับเจ้าของคลิปหรือไม่ ที่ให้ข่าวไปแบบนั้น จนทำให้คนเข้าใจผิด จนตนเสียหาย ซึ่งตนไม่คิดจะเอาเรื่องแต่อย่างใด เพราะเด็กคงทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์.