ยังคงเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ที่หลายคนสนใจอย่างมากมายสำหรับเรื่องราวของนักร้องดัง ปู แบล็กเฮด ที่ต้องสูญเสียหวานใจสาวสวย นุ๊กซี่ ที่รักและดูแลกันมานานจากโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งเธอรักษามาพักใหญ่และเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่เธอจะจากไปอย่างสงบ ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว ญาติและคนใกล้ชิด

โดยวันนี้ 27 มี.ค. ที่ศาลา 1 วัดบึงทองหลาง เขตบางกะปิ กรุงเทพ ได้มีพิธีสวดพระอภิธรรมศพสาวนุ๊กซี่เป็นคืนแรก โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีหนุ่มปูได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุว่า “อาการของนุ๊กที่ดูเหมือนดีขึ้น จริงๆจากคำวินิจฉัยของหมอ นุ๊กจริงๆไม่ได้ดีขึ้น เขาไม่อยากบอกใครว่าไปถึงไหน อาการยังไงบ้าง ผมก็ไม่ได้บอกนุ๊กหมดอาการเป็นยังไง จริงๆหลังจากผ่าเต้านมออกก็เข้าต่อมน้ำเหลืองก็เลาะต่อมน้ำเหลืองออกข้างนึงแล้วก็ไปที่สมองและลงมาปอด จริงๆก็คือตอนนี้ทั้งหมดทั้งสิ้นอยู่ในระยะแพร่กระจายไปทุกที่แล้ว ไปทางเลือด และต่อมน้ำเหลือง จนมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด น้องก็เลยหายใจเหนื่อยหายใจไม่ออกและหลับ อยู่โรงพยาบาลล่าสุดคือเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมาเกือบเดือน เดิมทีหมอบอกว่าถ้ารักษาไวรัสคือภูมิเขาตกมากๆ ก็เกิดภาวะแทรกซ้อนได้เยอะ เข้าไปเป็นไวรัสที่ปอด เอ็กซเรย์มาเห็นเป็นฝ้าที่ปอด เขาก็เลยไปวินิจฉัยน่าจะเป็นไวรัสเลยให้ยาฆ่าเชื้อ พอให้ยาฆ่าเชื้อก็ต้องชะลอการให้คีโมอีกครั้งหนึ่งไป ใช้เวลาเกือบเดือน เลยพอให้คีโมช้าเลยทำให้ภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นเยอะมากอย่างที่บอกว่ามีลิ่มเลือดอุดตันปอดเลยหายใจไม่ออกครับ”

“เริ่มต้นตอนแรกผ่าตัดเต้าออก พอเช็คเจอพวกต่อมน้ำเหลืองก็ยังมีอยู่และมีส่วนเต้านมและปอดเลยให้คีโม จากนั้นมาเจอที่สมองและฉายแสง ตอนนั้นให้คีโม 18 ครั้ง ฉายแสงอีก 10 ครั้ง และก็ต้องให้คีโมแบบเม็ดรับประทานเป็นยาเม็ดอีกรอบ แต่ยังไม่ทันได้ให้ แต่เราต้องรักษาไวรัสที่ปอดก่อน คุณหมอบอกว่า 29-30 มีนาคมนี้น่าจะได้กลับบ้านเพราะค่าของไวรัสประมาณ 3 หมื่นล่าสุดหมอบอกว่าเหลือ 200 ถ้าเหลือ 50 ให้กลับบ้านเลย และให้ยากินคีโมได้กลับบ้าน แต่มันเป็นภาวะเฉียบพลันมาก ตรวจไม่รู้มาก่อนว่ามีภาวะนี้ พอดีผมออกไปทำงานคืนนั้น เสร็จแล้วอีกคืนต่อมาพยาบาลเฝ้าและบอกว่าพี่ปูพี่นุ๊กไม่ไหวแล้ว เขาเหนื่อย และผมก็บอกว่าเดี๋ยวเข้าไป เขาก็ให้ตรวจ ATK ของโรงพยาบาลก็รีบไป และขึ้นไปเขาก็ปั๊มหัวใจแล้ว ก็ปั๊มอยู่ 10 ครั้งและครั้งสุดท้ายรอให้เขาคือพอชีพจรเขาหยุดเมื่อไหร่ก็ต้องปล่อย”

“เขาเคยพูดกับผมว่าถ้าอยู่ในภาวะนี้ อย่าปล่อยให้เขารู้เรื่องแต่ทำอะไรไม่ได้ แต่ให้ถอดท่อแล้วปล่อยเขาไป พูดมาประมาณเดือนนึง เขาสู้มาตลอด ไม่อยากให้คนใกล้ตัว แม่ผมหรือพ่อแม่เขาเอง ก็อย่าบอกนะว่าตอนนี้เราถึงไหนแล้ว ไม่อยากให้ใครเป็นห่วงเลย แม้สื่อมวลชนก็ไม่อยากให้สัมภาษณ์เพราะพอปากต่อปากไปถึงพ่อแม่จะเสียใจมาก เขากำลังใจดีมาตลอดคิดคนอื่นตลอด ไม่เคยคิดถึงตนเองเลย พอเป็นโรคแบบนี้สภาพร่างกายเปลี่ยนเยอะ เขาเองยังไม่อยากรู้เลยว่าเป็นยังไง ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวก็หาย พอตัวบวมเดี๋ยวก็หายตอนแรกหมอโรคอย่างนี้ปีหนึ่ง แต่นี้ไม่ถึงเดือน เขาร้องไห้บ่อยนะ เขาอยากกลับบ้าน อยากกลับไปหาคนนั้นคนนี้ ดูรูปหมาก็ร้องไห้(เสียงสั่น)จริงๆผมคิดไว้ด้วยซ้ำว่าถ้าเขาดีขึ้นกว่านี้นิดนึง คือความฝันของเขาอยากมีงานแต่งงานเล็กๆ แบบไหนก็ได้ เอาเท่าที่ทำได้ตอนนี้ ผมก็คิดว่าแค่ออกจากโรงพยาบาลครั้งนี้ก็จัดเล็กๆกันนะ มีครอบครัว พี่น้อง แต่ก็ไม่ทัน ก่อนที่เขาจะไปไม่ทันได้พูดอะไรเลย ทุกอย่างปุ๊บๆหมดเลย ผมเข้าไปเห็นแต่ภาพการปั๊มหัวใจอย่างเดียว เขาบอกว่าเขามีความตั้งใจดูแลเรา หลายคนเป็นห่วงผมตอนนี้ก็บอกเลยว่าคิดอะไรไม่ออก แต่เดี๋ยวคงจะดีขึ้น ไม่รู้ด้วยอะไรหลายๆอย่าง มันทำให้รู้สึกรักเขาที่สุด ตอนนี้เขาสบายแล้ว ขอบคุณทุกคนด้วยที่เอ็นดูน้องนุ๊กและสนใจเรื่องราวของนุ๊กมาตลอด”

“หลังจากงานศพ นุ๊กเขาชอบทะเล ชีวิตเขามีทะเล ใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ ก็คิดว่าลอยอังคารที่ทะเลแต่ต้องปรึกษาสองครอบครัวก่อนครับและฝากถึงแฟนๆที่ส่งกำลังใจมาและขอบคุณหมอคุณพยาบาลและแฟนๆทุกคน เวลาที่นุ๊กลงอะไรไปคนก็สนใจเขา ขอบคุณแทนนุ๊กด้วยครับ และขอเป็นกำลังใจให้คนที่ป่วยเป็นมะเร็งทุกคนด้วยครับ บางคนก็โชคดีหาย แต่นุ๊กเขาอาจจะไม่โชคดีแต่เขาก็สู้มากๆครับ”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม blackheadpoo