นายสุทธิพันธุ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสกิต โซลูชั่น จำกัด ผู้นำในการ ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยี เอไอ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ด้าน แมชชีน เลิร์นนิ่ง กำลังถูกองค์กรต่างๆ นำมาใช้งาน ในทุกหน่วยของโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจ ในสิ่งที่มนุษย์ถ่ายทอด จนเสมือนเป็นมนุษย์ สามารถต่อยอดด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย จนทำในสิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้ โดยกระแสความนิยมสะท้อนจากมูลค่าของธุรกิจ เอไอ ในตลาดโลก ที่มีมูลค่าประมาณ 2.48 ล้านล้านบาท ในปี 64 ที่ผ่านมา ซึ่ง 60% ของตลาด เป็นแอพพลิเคชั่น หรือโซลูชั่นที่มีการใช้ แมชชีน เลิร์นนิ่ง คิดเป็นมูลค่า 1.48 ล้านล้านบาท ส่งผลให้เกิดเทรนด์เทคโนโลยีเอไอนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประสิทธิภาพและขยายขีดความสามารถให้กับธุรกิจและองค์กรของภาครัฐ
ในปีนี้บริษัทจึงเตรียมรุกตลาดเต็มที่ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านผู้จัดจำหน่ายและพันธมิตร เพื่อขยายฐานลูกค้า ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยี เอไอ โซลูชั่น ให้เกิดความสามารถใหม่ ๆ เช่น พัฒนาเพิ่มความสามารถของเอไอ ในการเข้าใจภาพการปฏิบัติงานในโรงงานและในเรื่องการจราจรให้มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการด้านสมาร์ท ซิตี้ จากหน่วยงานภาครัฐ ตั้งเป้าธุรกิจเติบโตมากกว่าเท่าตัว หรือกว่า 100% จากปัจจุบัน มีลูกค้ามากกว่า 60 องค์กร แบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าในประเทศ 80% และลูกค้าในต่างประเทศ 20% ครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มธุรกิจรีเทลค้าปลีก กลุ่มธุรกิจอาหาร กลุ่มอีคอมเมิร์ซ กลุ่มภาคการผลิต กลุ่มการเงินและประกันภัย หรือ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
“ปัจจุบันทั้งภาครัฐหรือภาคเอกชนมีการนำ แมชชีน เลิร์นนิ่ง เอไอ มาใช้งานแล้ว เช่น ภาคการเงินเกือบ 100% ค้าปลีกกว่า 60% โดยเป็นการใช้เพื่อช่วยสร้างประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงสร้างโอกาสสำหรับภาคธุรกิจ อาทิ แมชชีน เลิร์นนิ่ง คอมพิวเตอร์ วิชั่น สามารถแยกพนักงานกับลูกค้า ซึ่งสามารถใช้ในการควบคุมการบริหารจัดการ ของร้านค้า วิเคราะห์การทำงานของพนักงาน ในหน่วยงานภาครัฐก็ได้นำไปใช้ในการพัฒนา สมาร์ท ซิตี้ หรือใช้ในการตรวจจับภัยธรรมชาติต่าง ๆ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศได้” นายสุทธิพันธุ์ กล่าว