สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ว่า กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 13 คน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย หลังเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) ปฏิบัติการจู่โจมค่ายผู้ลี้ภัย ที่เมืองเจนิน ในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ขณะที่แถลงการณ์ของไอดีเอฟระบุว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในบริเวณนั้น และมีการยิงต่อสู้กับกลุ่มมือปืนชาวปาเลสไตน์ ส่วนผู้ที่เสียชีวิต คือนายอาหมัด อัล-ซาดี เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มอัล-คุดส์ หนึ่งในกองกำลังติดอาวุธของปาเลสไตน์

ผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์จุดไฟเผายางรถยนต์ ระหว่างปะทะกับทหารอิสราเอล ที่เมืองเจนิน ในเขตเวสต์แบงก์


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังเจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ ชิน เบต ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองภายในของอิสราเอล วิสามัญนายราอัด ฮาเซ็ม ชาวปาเลสไตน์ วัย 28 ปี ก่อเหตุกราดยิงภายในบาร์แห่งหนึ่ง ในเขตใจกลางกรุงเทลอาวีฟ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 12 คน


ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา อิสราเอลเผชิญกับเหตุรุนแรงหลายระลอก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 14 ราย ส่วนผู้ก่อเหตุมีทั้งชาวปาเลสไตน์ และชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ ด้านนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ประกาศว่า หน่วยงานความมั่นคงทุกแห่งในอิสราเอล “มีอำนาจและอิสระอย่างเต็มที่” เพื่อป้องปรามและยับยั้งการเกิดเหตุรุนแรงในอนาคต.

เครดิตภาพ : REUTERS