เมื่อวันที่ 12 เม.ย. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมคณะร่วมตรวจสภาพการจราจร สายเหนือ อีสาน และตะวันออก ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565

โดยคณะผู้บังคับบัญชาของ ตร. ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจไปยังทางภาคตะวันออก โดยเริ่มจากต่างระดับชำขวาง ทล.304 ตัด ทล.359 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมายังมีการก่อสร้างอยู่ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก แต่ขณะนี้การก่อสร้างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว 100 % ทำให้ขาไปการจราจรคล่องตัว แต่อาจจะมีปัญหาช่วงขากลับ เนื่องจากรถที่มาจาก จ.สระแก้ว ทล.359 จะมาตัดกระแสรถทางตรงที่มาจาก จ.นครราชสีมา ได้จัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและตำรวจจราจร เข้ามาบริหารจัดการจราจรในจุดนี้ ทั้งนี้ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และ พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ให้เตรียมจัดกำลังให้เพียงพอ โดยจะต้องสลับสับเปลี่ยนอย่าให้กำลังพลอ่อนล้า เนื่องจากต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ประกอบกับสภาพอากาศค่อนข้างร้อน

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังได้กำชับให้ชุดเคลื่อนที่เร็วเป็นรถจักรยานยนต์ เตรียมความพร้อมให้ดี และต้องกระจายอยู่ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่การจราจรหนาแน่น หากเกิดอุบัติเหตุสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันที และต้องแยกรถให้เร็วเพื่อเร่งระบายการจราจรให้กลับสู่สภาวะปกติ

จากนั้นคณะได้บินตรวจการจราจร ตลอดถนน ทล.304 นาดี-วังน้ำเขียว ไปจนถึง จ.นครราชสีมา ทุกจุดการจราจรยังคล่องตัว ไม่หนาแน่นมากรถยังวิ่งได้ ก่อนจะลงเฮลิคอปเตอร์ บริเวณถนนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา M6 ต.บึงอ้อ อ.​ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา โดยมี พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภ.3 , พล.ต.ต.พรชัย นวลชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ รอง ผบก.ฯ ให้การต้อนรับ

ก่อนจะเดินทางมาตรวจการเปิดใช้ทางหลวง M6 ซึ่งเปิดใช้เฉพาะเทศกาลสงกรานต์ช่วง ปากช่อง-สีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กม. โดยเริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 11 ไปจนถึง 14 เม.ย. และเที่ยวกลับจะเปิดใช้งานวันที่ 15-18 เม.ย. จากสถิติปริมาณรถที่วิ่งผ่าน M6 เมื่อวันที่ 11 เม.ย พบว่ามีรถวิ่งผ่านไปทางลงสีคิ้ว 10,311 คัน แบ่งเบาปริมาณรถสายมิตรภาพได้ 15% และวิ่งไปถึงขามทะเลสอ จำนวน 6,843 คัน คิดเป็น 15% ของสายมิตรภาพในช่วงเดียวกัน สำหรับเรื่องอุบัติเหตุขณะนี้ยังไม่พบ มีเพียงรถเสียบางราย ซึ่งจะมีจุดบริการประชาชน 4 ชุดตลอดเส้นทางด้วยกัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมบริเวณเต๊นท์บริการประชาชนขามทะเลสอ เพื่อรับฟังปัญหาการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งมอบนโยบายให้กับผู้ปฏิบัติงาน โดยระบุว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องรักษามาตรการป้องกันโควิด 19 โดยต้องตรวจ ATK ก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง จนกว่าจะผ่านพ้นห้วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งกำชับ เรื่องประสิทธิภาพของผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ต้องผ่านการตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และมีส่วนช่วยกันรับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ต้องบริหารกำลังพลให้เหมาะสมเพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้น รอง ผบ.ตร. ได้กล่าวขอบคุณพร้อมทั้งมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ส่วนกรณีอุบัติเหตุรถบัสตกถนน ที่บริเวณโค้งอุทยานแห่งชาติภูผายล ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร รองผบ.ตร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเป็นรถบัสโดยสาร บริษัท ภักดีทัวร์ รับผู้โดยสารจากจังหวัดสงขลา เดินทางไปไหว้พญาเต่า มีผู้โดยสารบนรถ 35 คน พบมีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 25 คน รวม 28 คน จากคำให้การของผู้ขับขี่ทราบว่า บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางลงเขา ตนไม่ชำนาญเส้นทางจึงแตะเบรคยาวเกินไป ทำให้เบรคแตกจนตกถนน ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เต่างอย จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับผู้ขับขี่ในข้อหา ขับขี่รถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย และได้รับอันตรายสาหัสต่อไป

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นมา พบว่าถนนทุกเส้นทางโล่ง ไร้อุบัติเหตุ ปริมาณรถบางเบา ไม่มากเหมือนกับช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาที่ปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่นเนื่องจากผู้เดินทางเตรียมแผนเดินทางล่วงหน้าก่อนหยุดยาว ซึ่งถือเป็นการวางแผนที่ดี แต่ที่น่าเป็นห่วงคือช่วงเวลาเดินทางกลับ โดยเฉพาะวันที่ 16-17 เม.ย. เพราะประชาชนจะเดินทางกลับพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเริ่มทำงานในวันจันทร์ จึงอยากฝากให้ประชาชนวางแผนการเดินทางและเตรียมตัวให้ดี ทั้งความพร้อมด้านร่างกายและพาหนะหากเจ็บป่วยไม่สบาย หรือง่วงควรหยุดพัก หรือสับเปลี่ยนคนขับเพื่อความปลอดภัย ซึ่งในช่วงเดินทางกลับ จุดที่น่าเป็นห่วงคือถนนมิตรภาพ เนื่องจากเป็นจุดบรรจบของภาคอีสานที่จะมุ่งหน้าเข้ากทม. โดยเฉพาะตั้งแต่บริเวณปากช่องถึงสี่คิ้ว บางช่วงมีการบีบถนนเหลือ 1 ช่องทางการจราจร เจ้าหน้าที่ได้วางแผนรับมือ หากปริมาณรถหนาแน่นจะเปิดช่องทางพิเศษบนถนนมิตรภาพเพื่อระบายรถ เชื่อว่าจะสามารถทำให้รถสามารถเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น ลดปัญหาการจราจรติดขัด

จากนั้นคณะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อตรวจการจราจรไปตามเส้นทาง ถนนมิตรภาพจาก ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา มุ่งหน้า เนินกลางดง เนินทับกวาง จ.สระบุรี เชื่อมต่อ อ.วังน้อย จนถึงต่างระดับบางปะอิน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อ ทล.1 (พหลโยธิน) ทล.32 (เอเชีย) ทลพ.9 วงแหวนตะวันตก และวงแหวนตะวันออก บริเวณต่างระดับอ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าการจราจรหนาแน่นนับตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นมา โดย รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการลงมายังผู้ปฏิบัติที่อยู่ภาคพื้นดินตลอดเส้นทาง และให้มีการเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถในจุดที่การจราจรหนาแน่นเป็นระยะๆ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ผบ.ตร.พอใจกับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยการจราจรและบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยในวันแรกของช่วง “7 วันควบคุมเข้มข้น” สถิติในภาพรวมเมื่อเทียบกับวันเดียวกันสงกรานต์ปีก่อน ลดลงทุกตัวเลข ข้อมูลสถิติของวันที่ 11 เม.ย.2565 เกิดอุบัติเหตุ 237 ครั้งวันเดียวกันปี 2564 อุบัติเหตุ 345 ครั้ง สถิติลดลง 108 ครั้ง คิดเป็น 31.30% มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 238 ราย ลดจากวันเดียวกันของปีที่แล้ว 105 คน คิดเป็นลดลง 30.61% ผู้เสียชีวิต 26 คน ลดจากวันเดียวกันของปีที่แล้ว 10 ราย คน คิดเป็น 27.78%

ขณะเดียวกัน สำหรับการบังคับใช้กฎหมายใน 10 ข้อหาหลัก วันแรกของช่วงควบคุมเข้มข้น (11 เม.ย.) มีจำนวน 47,643 ราย จำแนกเป็น ไม่สวมหมวกนิรภัย 6,717 ราย, มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 1,218 ราย, เมาแล้วขับ 1,162 ราย, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 2,012 ราย, ไม่มีใบขับขี่ 9,311 ราย, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 25,207 ราย, ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 1,195 ราย, ขับรถย้อนศร 546 ราย, แซงในที่คับขัน 81 ราย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 194 ราย

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า วันนี้จากการคาดการณ์ของกรมทางหลวง และจะมีประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยรถมากที่สุดถึง 6 แสนคัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีความกังวลในเรื่องอุบัติเหตุ และการจราจรติดขัด รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สั่งกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอำนวยความสะดวกการจราจรให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน พร้อมทั้งรักษามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาวินัยจราจร สวมหมวกนิรภัย ใส่แมสก์ เมาไม่ขับ ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควบคู่ป้องกันโควิดฯ ตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 65

ล่าสุดมีรายงานว่า ถนนหลายสายที่มุ่งหน้าออกต่างจังหวัด เริ่มมีปริมาณรถมาก แต่การจราจรยังไม่ติดขัด