เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 3 ของ 7 วันอันตราย (13 เม.ย. 65) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า มีคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติทั้งสิ้น 1,225 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,083 คดี ศาลสั่งติด EM 7 ราย คดีขับรถประมาท 5 คดี คดีขับเสพ 137 คดี สุรินทร์ยังคงครองคดีเมาขับอันดับหนึ่ง 190 คดี รองลงมา กรุงเทพมหานคร 131 คดี และ อุบลราชธานี 123 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีในวันที่ 3 ของ 7 วันอันตรายปี 2564 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 1,398 คดี และปี 2565 จำนวน 1,083 คดี ลดลงจำนวน 315 คดี คิดเป็นร้อยละ 22.53 ส่วนการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM กับผู้กระทำผิดเมาแล้วขับมีตัวเลขสะสม 3 วันอยู่ที่ 9 ราย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ในช่วงเวลาตั้งแต่ 19.00-05.00 น. เป็นระยะเวลา 7 วัน ทั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center – EMCC) พร้อมประสานเครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครคุมประพฤติ เตรียมพร้อมลงพื้นที่หากมีการผิดเงื่อนไขคุมความประพฤติ

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า สำหรับยอดสะสม 3 วันของ 7 วันอันตราย (11-13 เม.ย. 65) 2,807 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 2,334 คดี คิดเป็นร้อยละ 83.15 คดีขับเสพ 455 คดี คิดเป็นร้อยละ 16.21 คดีขับรถประมาท 18 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.64 ทั้งนี้ วันนี้สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 78 จุด โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่ายศูนย์เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ประชาชนและผู้ถูกคุมความประพฤติ เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 1,485 คน ร่วมกันแจกน้ำดื่มทำความสะอาด ตรวจวัดอุณหภูมิ เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ใช้รถ ใช้ถนนอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ สำนักงานคุมประพฤติได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสำนักงานคุมประพฤติช่วงวันหยุดยาว เพื่อให้คำแนะนำด้านกฎหมาย บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว.