เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนักการเมืองฉาว หลังเคยก่อเหตุลวนลามผู้เสียหายที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อต้นปี 64 ที่ผ่านมา
นางสาวเอ เปิดเผยว่า เมื่อ 2 ปีก่อนนั้น ตนได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุในงานสัมนาที่เชียงใหม่ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาทักทายพูดคุยด้วย ซึ่งด้วยโปรไฟล์ผู้ก่อเหตุเป็นคนมีชื่อเสียง ตนจึงได้พูดคุยและแลกเบอร์โทรศัพท์และมีไลน์คุยกัน ต่อมาเมื่อช่วงต้นปี 64 ผู้ก่อเหตุได้โทรฯ มาหา โดยบอกว่าจะมีการสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจและคริปโตที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตนสนใจจึงได้ตอบตกลงและนัดกับผู้ก่อเหตุเจอกันที่โรงแรมที่จะจัดงาน แต่เมื่อไปถึงที่โรงแรมกลับไม่พบว่ามีการจัดงาน ตนจึงโวยวายและพูดเสียงดัง ซึ่งผู้ก่อเหตุก็พยายามทำท่าทางให้ตนเบาเสียงลงและทำทีโทรฯ หาคนจัดงานเพื่อให้ตนตายใจ ก่อนจะอ้างว่า คนจัดงานให้ไปรอที่ห้องพักภายในโรงแรมก่อน ซึ่งตนก็เดินตามไปเพื่อไปรอ แต่ระหว่างรอนั้นผู้ก่อเหตุก็พยายาม ชวนพูดคุยเรื่องการศึกษาก่อน หลังจากนั้นเริ่มพูดคุยเรื่องเพศสัมพันธ์ ถามตนว่าเคยมีแฟนหรือไม่ ตนบอกว่าไม่มี ซึ่งผู้เสียหายก็ย้ำว่าไม่มีจริงๆ เหรอ ก่อนจะจับมือของตนไปดูลายมือ ซึ่งตนก็ตกใจที่จู่ๆ มาจับมือ ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน ก่อนผู้ก่อเหตุจะบอกว่าลายมือตนดีนะ วาสนาดี จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขยับมานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเข้ามาจูบปากตน ซึ่งตนตกใจมาก จึงรีบลุกและใช้มือขยี้ปากอย่างขยะแขยงแล้วรีบลุกขึ้นเปิดประตูวิ่งออกมาที่ลานจอดรถเพื่อจะขับรถกลับ จะร้องให้คนช่วยก็ไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะมีลูกน้องของผู้ก่อเหตุอยู่ที่นั่น
นางสาวเอ เผยต่อว่า เมื่อถึงลานจอดรถ ผู้ก่อเหตุก็ตามตนจนทันและหอมแก้มตนไปหนึ่งครั้ง ซึ่งตนตกใจมากก่อนจะรีบขับรถกลับมาบ้านและมาเล่าให้ครอบครัวฟังถึงเรื่องดังกล่าว รับไม่ได้กับพฤติกรรมของชายคนนี้ จึงได้แต่เก็บไว้เรื่อยมาเพราะเขาเป็นคนมีชื่อเสียง หากไปบอกใครก็จะไม่มีใครเชื่อ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุยังโทรฯ มาหาตนอีก ตนจึงได้บล็อกเบอร์โทรฯ ไป แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม มีการใช้เบอร์ใหม่โทรฯ มาหาเรื่อยๆ รวมแล้วประมาณ 5 เบอร์ ซึ่งตนก็ได้บล็อกทั้งหมด ทุกวันนี้ตนอยู่อย่างหวาดระแวงเมื่อมีเบอร์โทรฯ แปลกๆ โทรฯ เข้ามา จนกระทั่งมีคนออกมาเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้ติดต่อไปยังทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ว่าตนก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ต้องการมาเปิดเผยความจริงถึงเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้หญิงทุกคน โดยต้องการให้ผู้ก่อเหตุออกมารับความจริงว่าได้ก่อเหตุจริง กล้ารับแบบลูกผู้ชาย อย่ามองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนที่ไปหานั้นจะชอบเขาทุกคน เพราะที่ไปหาก็เนื่องจากเขาสร้างความเชื่อถือ นำเรื่องงาน เรื่องความรู้เรื่องที่น่าสนใจมาหลอกล่อ จึงทำให้ผู้หญิงทุกคนต้องเป็นเหยื่อ วันนี้ตนจึงขอออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง โดยยืนยันว่าสำหรับเรื่องของตนนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองแน่นอน
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายว่ามีความประสงค์จะมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ก็ได้จัดพนักงานสอบสวนหญิงทำการสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว จากนั้นเข้าสู่กระบวนการสอบสวนในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยพบว่าผู้เสียหายมีความกังวัลเกี่ยวกับชื่อเสียง แต่ในส่วนทางคดีนั้น ก็ต้องดูพยานหลักฐานในรายละเอียดที่ผู้เสียหายมอบให้นั้น มีความครบถ้วนอย่างไร ถ้าหากพยานหลักฐานครบถ้วน ก็ใช้เวลาไม่นานในการสรุปสำนวนคดีได้.
