จากกรณีคดีคนร้ายจี้ทอง 51 เส้น น้ำหนัก 153 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ห้างโลตัสกลางเมืองโคราช เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 3 สนธิกำลังชุดสืบสวนภูธร จ.นครราชสีมา ไล่ล่าจับกุม นายกิตติพงษ์ หรือ เบส แพไธสง อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ หนีไปกบดานที่โรงแรม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนควบคุมตัวมาดำเนินคดี

หลังใช้เวลาสืบสวน 62 ชั่วโมง ติดตามจับกุมนายเบสได้สำเร็จ สามารถติดตามทองคำรูปพรรณของกลางมาได้แล้ว 30 เส้น ประกอบด้วย ซ่อนฝังดินที่หลังบ้านพ่อตาแม่ยายหลังเก่าที่ ต.บ้านใหม่ อ.เมืองนครราชสีมา จำนวน 28 เส้น สร้อยทองตกหล่นหาย มีคนเก็บได้อีก 2 เส้น ยังตามหาไม่เจออีก 21 เส้น ในจำนวนนี้ นายเบสอ้างว่า แบ่งให้คู่ขาสาวประเภทสองนำไปขาย 2 เส้น และแบ่งให้เพื่อนฝากขาย 11 เส้น และยังไม่รู้อยู่ไหนอีก 8 เส้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 16 เม.ย. พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบหาของกลางสร้อยคอทองคำเพิ่มเติม ที่บริเวณหลังบ้านพ่อตาแม่ยายหลังเดิม โดยนายเบส ถูกสอบเค้นอย่างหนัก ก่อนรับสารภาพว่า นำสร้อยทองบางส่วนใส่ถุงพลาสติก ปิดห่อมิดชิด แล้วนำไปซุกซ่อนไว้ในป่า ห่างจากจุดที่นำทอง 28 เส้น ขุดดินฝังไว้แค่ 20 เมตร กระทั่งพบของกลางสร้อยคอทองคำใส่ถุงพลาสติกซุกซ่อนไว้ในป่าที่เป็นพุ่มไม้ สภาพรกทึบอีก 17 เส้น จึงตรวจสอบบันทึกไว้เป็นหลักฐาน รวมขณะนี้สามารถยึดสร้อยคอทองคำได้ รวม 47 เส้น

โดยนายเบส ยอมรับ ว่า แบ่งแยกสร้อยทองที่จี้มาได้ 51 เส้น ออกเป็นส่วน ๆ คือ ขุดดินฝัง 28 เส้น ใส่ถุงทิ้งป่า 17 เส้น แบ่งให้คู่ขาสาวประเภทสอง นำไปขาย 2 เส้น ทำหล่นหาย 2 เส้น เท่ากับว่า ตอนนี้ยังหาไม่เจออีก 2 เส้น.