สวัสดีค่ะทุกคน หลายคนอาจจะเอ๊ะในใจว่านี่เธอเป็นใครกันนะ?? แหม่..ไม่ต้องสงสัยหรอกค่า ถ้าใครเป็นแฟนๆ ของคอลัมม์ “คันปากอยากเมาท์” บนหนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” ก็คงจะรู้จักพวกเราอยู่แล้วกับ “ชาวบ้าน 1/4” ที่ทุกสัปดาห์พวกเราแต่ละคนก็จะผลัดกันสาละวนมาเมาท์มอยเรื่องราวของวงการบันเทิงให้ทุกคนได้รับฟัง เพื่ออินเทรนด์ให้ทุกได้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย หลังจากนี้พวกเราเหล่าชาวบ้าน 1/4 ขอกระทบไหล่เหล่าแฟนๆ ให้ได้ใกล้ชิดกันมาก โดยพากันย้ายสำมะโนครัวมาอยู่บ้าน “เดลินิวส์ออนไลน์” อีกหลังหนึ่ง เพื่อที่เราจะได้เมาท์กันให้สนุกปาก ออกรส ออกชาติมากยิ่งขึ้นทวีคูณ

และสำหรับน้องใหม่อย่างดิฉัน “เมี้ยนฤดี” ก็ต้องขอแนะนำตัวกราบแทบอกมิตรรักแฟนคลับ ฝากเนื้อฝากตัว ฝากหัวใจดวงน้อยๆ ของดิฉันไว้ในอ้อมออกอ้อมใจอีกคนนะคะ..เอาเป็นว่าดิฉันอารัมภบทมาพอหอมปากหอมคอแล้ว เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะ

สำหรับดิฉันเรื่องราวที่จะประเดิมพามาเมาท์สัปดาห์นี้ก็คงหนีไม่พ้นความเป็นสาววายแบบดิฉัน ที่จะมาว่าด้วยเรื่อง “ละครวาย” หลังข่าว อย่างเรื่อง “คุณหมีปาฏิหาริย์” The Miracle of Teddy Bear ‘ ซึ่งเป็นละครวายเรื่องแรกที่กล้าหาญชาญชัยยิ่งนัก ฉีกกฎออกอากาศหลังข่าวในช่วงเวลาไพร์ไทม์ทางหน้าจอฟรีทีวีบ้านเรา เพราะปกติเรื่องแนวนี้มักจะถูกออกอากาศช่วง 4-5 ทุ่มอย่างต่ำ ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา บลาๆ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ขนาดโลกหมุนมาปี 2565 แล้ว ก็ยังคงไม่พ้นเรื่องโบราณคร่ำครึซะที แต่ก็ช่างมันเถอะ รู้สึกชินชาแล้ว แถมยังมาออนแอร์ช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อีกนะ ยิ่งไปกันใหญ่เลย

ซึ่งอย่างที่เราๆ รู้กัน แม้ปัจจุบันสังคมไทยนั้นจะเปิดกว้างเรื่องเพศมากขึ้น แต่แนวละครที่คู่หลักเป็น “ชายชาย” ก็ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งเรื่อง “คุณหมีปาฏิหาริย์” ก็ไม่ตกเทรนด์โดนหางเลขดราม่าจากกลุ่มแฟนละครช่องสามเช่นกัน ถึงขั้นบอกว่านำมาฉายหลังข่าวแบบนี้ จะทำให้เด็กเลียนแบบหรือไม่อย่างไร บ้างก็บอกว่าอยากให้เด็กเป็น LGBT นักหรืออย่างไร (เอิ่ม ส่วนตัวได้แค่ทำตาปริบๆ ก่อนหน้านี้ละครชายหญิง ตบตีกันอร่อยเลย ไม่เห็นมีปัญหาเลย) ซึ่งอย่างที่บอกมีคอมเมนต์ในแง่ลบ ไม่ยอมรับและไม่อยากให้ออนแอร์เป็นละครหลังข่าว แถมไล่ให้ไปฉายในช่วงเวลาดึกๆ อีกด้วย

แต่หากเราเปิดใจถึงเรื่องราว มองข้ามผ่านเรื่องเพศ และมองให้ลึกไปถึงหัวใจ เราจะเข้าใจความรักของคนสองคนที่เกิดขึ้นมา โดยไร้กฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเรื่องความรักของคนสองคนที่เกิดขึ้นโดยได้ซึ่ง เพศ อายุ หรือแม้กระทั่งสถานะ ซึ่งทั้ง “อิน-สาริน รณเกียรติ” รับบท ‘เต้าหู้’ ตุ๊กตาหมีที่กลายเป็นมนุษย์ ประกบคู่ “จ๊อบ-ธัชพล กู้วงศ์บัณฑิต” ที่รับบท ‘พีรณัฐ’ นักเขียนบทภาพยนตร์อารมณ์ศิลปินผู้มีปมในอดีต ก็สามารถถ่ายถอดเรื่องได้ออกมาเป็นอย่างดี และนำเสนอผ่านความละมุนละไม แม้จะมีจุดที่ต้องขยี้ให้คนดูน้ำตาแตกอยู่บ่อยครั้งก็ตามที เรียกได้ว่าแสดงกันได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้ละครหลังข่าวเรื่องอื่นๆ ของช่องเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเปิดมาแบบแฟนตาซี และปรับเรื่องให้มีกลิ่นวาย แต่เนื้อเรื่องของ “คุณหมีปาฏิหาริย์” นั้นก็หนักหน่วงเอาการเช่นกัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นบนความแฟนตาซีที่เราได้เห็นกันนั้น นำไปสู่ยาขมของประเด็นปัญหาสังคมและครอบครัวอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ ทำให้เห็นว่าแม้ในความแฟนตาซี ตัวเนื้อเรื่องก็ยังให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคม และตัวละครที่เป็นมนุษย์มากขึ้น แถมยังมีเรื่องราวของตัวละครอีกหลายตัวที่อยู่รายล้อม ครอบครัวของเพื่อนที่พ่อแม่ยอมรับการเป็นเกย์ของลูกได้เหมือนเป็นเรื่องปกติ เป็นครั้งแรกที่ละครช่องสาม เปิดพื้นที่สิ่งนี้อย่างเต็มที่

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ในเรื่องนี้คือความเป็นละครช่อง ทั้งการเล่าที่มีจังหวะแบบละครช่องสาม จังหวะไดอะล็อก การพูด การเล่าเรื่องที่ยืดหนังสือต้นฉบับให้นานออกไปในแต่ละตอน ซึ่งอาจจะทำให้คนที่ดูวายมาก่อนอาจจะรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นไปอีก เพราะความยาวของมัน แต่บอกเลยว่าถ้าดูไปเรื่อยๆ คงจะสนุกกับเรื่องราว และปมของตัวละครจนอยากรู้ตอนจบแล้วว่าจะเป็นอย่างไรกันแน่

สุดท้ายเรื่อง “คุณหมีปาฏิหาริย์” หากเรามองลึกๆ ถึงแก่นแท้ ก็เป็นเพียงแค่เรื่องราวหรือบทประพันธ์เรื่องหนึ่ง ที่ต้องการสอดแทรกปัญหาสังคม พร้อมทั้งเป็นอีกหนึ่งละครที่สอนเรา และให้ข้อคิดกับเราเฉกเช่นกับละครทั่วๆ ไป แต่แตกต่างเพียงแค่การนำเสนอผ่านเรื่องราวของตัวละครชายกับชาย ที่จะทำให้เรามองเห็นความสัมพันธ์ ความรักที่เกิดขึ้นอีกมิติหนึ่ง ซึ่งเราทุกคนบนโลกต่างใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขา แต่อาจจะยังไม่เข้าใจความรู้สึกนึกคิดกันเท่าที่ควร

ซึ่งหากเราทุกคนลองเปิดใจ และทำลายกำแพงอันสูงชั้นของเรื่องเพศลงมาได้ ก็จะได้พบกับความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่เคยเห็นและรับรู้มาก่อนก็เป็นได้..

———————————————
คอลัมน์ “คันปากอยากเมาท์”
โดย “เมี้ยนฤดี”