เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้มี นายเอ (นามสมมุติ) หนุ่มโชเฟอร์แท็กซี่วัย 52 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ตท.ภคภณ ณ นคร รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ซึ่งมีพฤติกรรมในลักษณะชายรักชาย พยายามหลอกขอมีเพศสัมพันธ์หลายครั้งหลายหน โดยนายเอ ให้การทำนองว่า ตนมีอาชีพขับรถแท็กซี่ ถูกพระรูปนี้เรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น ให้ไปส่งตามสถานที่ที่ต้องการ ทุกครั้งที่ขับรถไปด้วยกันพระจะนั่งเบาะข้างคนขับก่อนจะใช้มือลวนลาม จับอวัยวะเพศ ซึ่งตนก็อดทนมาโดยตลอด สาเหตุจากช่วงที่เช่ารถรายได้จากการขับแท็กซี่ไม่ค่อยดี เนื่องจากโควิด-19 ระบาด บางครั้งแทบไม่พอจ่ายค่าเช่า จำต้องยอมอดทนให้พระล่วงละเมิดไปก่อน เพื่อจะได้เป็นลูกค้าประจำ

ต่อมาในเดือน ธ.ค. ปี 63 พระรูปนี้ได้ว่าจ้างตนให้พาไปยัง “ภูทับเบิก” โดยอ้างว่าญาติโยมนิมนต์ให้ไป พอไปถึงพื้นที่กลับให้ตนขับรถไปยังรีสอรท์แห่งหนึ่งที่มีการจองห้องไว้แล้วล่วงหน้า จากนั้นก็ขอร่วมหลับนอนกับตนทันที แต่ว่าตนไม่ยินยอม ทำให้พระไม่พอใจ ตอนนั้นตนยังไม่ได้เงิน จำต้องต่อรองขอใช้มือสำเร็จควาใคร่ให้แทน ภายหลังเดินทางกลับวัดแล้วจึงได้เงินมา 5,000 บาท หลังเหตุการณ์ครั้งนั้นตนก็ไม่ติดต่อกับพระรูปนี้อีกเลย จนกระทั่งเดือน ส.ค. ปี 64 พระรูปนี้ก็ติดต่อมาหาตนอีก พร้อมกับอ้างว่าจะให้เงิน 10,000 บาท หากไปหาพระที่กุฏิ ซึ่งเมื่อพอไปถึงฝ่ายพระก็เอ่ยขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งตนไม่ยินยอมเช่นเดิม ฝ่ายพระจึงให้ใช้มือสำเร็จความใคร่ให้เพื่อแลกกับเงิน 1,000 บาท ตนจึงยอมตกลงทำให้ อย่างไรก็ตามหลังจากไปพบพระในกุฏิครั้งนั้น ทำให้รู้สึกผิดจึงบอกกับฝ่ายพระไปว่าจะแจ้งสำนักพุทธหากยังไม่เลิกพฤติกรรมนี้อยู่ ทางฝ่ายพระจึงบล็อกไลน์และเลิกติดต่อ

“…ตอนนั้นที่เข้าไปในกุฏิ หลวงพ่อจะเสียบผมให้ได้ ผมก็ไม่ยอม ผมก็แค่ต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องเงินบ้างนิดหน่อย เพื่อจะดำรงชีพ แต่สุดท้ายเขาต้องการมากกว่านั้น…” หนุ่มโชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวตัดพ้อ ก่อนเล่าต่อไปอีกว่า

ตนคิดอยู่นาน แต่ช่วงนี้มีกระแสข่าวลักษณะนี้ จึงคิดว่าไม่น่าจะมีเพียงตนที่โดนล่วงละเมิดทางเพศ เชื่อว่าคงมีผู้เสียหายไม่น้อยที่ถูกกระทำแบบตน เพราะว่าพระรูปนี้เป็นถึงเจ้าอาวาสมีตำแหน่งใหญ่โต ทำให้หลายคนรู้สึกว่าเอาผิดยาก ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าอยากได้เงินจากพระจริง แต่ก็รู้สึกไม่ดี แต่หากปล่อยไว้ก็คงมีคนโดนกระทำแบบตนอีก จึงเอาเรื่องมาแจ้งความกับตำรวจ เพื่อประสานสำนักพุทธและฝ่ายงานเกี่ยวข้องจัดการกับพระรูปนี้ต่อไป

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดที่ถูกกล่าวอ้าง ว่ามีเจ้าอาวาสล่วงละเมิดทางเพศโชเฟอร์แท็กซี่ เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทางพระลูกวัดแจ้งว่า เจ้าอาวาสไปรับกิจนิมนต์ เมื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่โชเฟอร์แท็กซี่ไปแจ้งตำรวจเรื่องของเจ้าอาวาส ปรากฏว่าพระลูกวัดรายนี้ ได้รีบใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปผู้สื่อข่าวเอาไว้ ก่อนโทรศัพท์ติดต่อหาใครบางคน พร้อมกับปฏิเสธที่จะคุยกับผู้สื่อข่าวอีก และเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ไปยังหมายเลขของเจ้าอาวาส กลับไม่มีผู้รับสายแต่อย่างใด.