เมื่อวันที่ 27 ก.ค. พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สิทธิเลิศ สวญ.สภ.เนินกุ่ม จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยพ.ต.ท.ประยูร ปินตาแสน สว.สส.สภ.เนินกุ่ม นำกำลังเข้าตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาวัดตายม ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก หลังถูกคนร้ายบุกเดี่ยวใช้หินปากระจกร้านแตกเข้ามาลักทรัพย์ช่วงปิดให้บริการหลัง 23.00 น.ถึง 04.00 น.ตามคำสั่งพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯระบาดโควิด

จากการตรวจสอบพบภาพชายวัยรุ่นเดินวนเวียนอยู่ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ จึงใช้ก้อนหินปาใส่กระจกหน้าร้านจนแตกแล้วเข้าไปลักทรัพย์เป็นของกินต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นขนมขบเคี้ยวหลายถุง โดยเดินเลือกหยิบใส่ตะกร้าอย่างสบายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหยิบบุหรี่ 8 ซองที่เคาน์เตอร์ กล้องวงจรปิดในร้านบันทึกภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ก่อนหนีออกมาขึ้นรถเก่งมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีม่วง ทะเบียน กน 1020 พิษณุโลก ขับหลบหนีไปตามถนนหมายเลข 11 จึงวิทยุสกัดจับ กระทั่งตำรวจ จ.ชัยนาท สามารถจับกุมตัวไว้ได้บริเวณถนนหมายเลข 32 ฝั่งขาล่องพื้นที่ หมู่ 10 ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท นำตัวส่ง สภ.เนินกุ่ม จ.พิษณุโลก พื้นที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ นายสุกฤษฎิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาว จ.ลำปาง

จากการสอบสวนยังทราบอีกว่า ก่อนหน้า นายสุกฤษฎิ์ จะก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อ ยังได้ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์เขตท้องที่ สภ.เมืองพิษณุโลก แล้วขี่มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ก่อนจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้แล้วขโมยรถเก๋งมิตซูบิชิ ขับมุ่งหน้ามาบนถนนทางหลวงหมายเลข 11 เส้น อ.วังทอง – อ.สากเหล็ก มาจอดรถฝั่งตรงร้านสะดวกซื้อ สาขาวัดตามยม คาดว่าน่าเกิดความหิว แต่เนื่องจากร้านสะดวกซื้อ 7-11อยู่ระหว่างปิดให้บริการ เลยก่อเหตุใช้ก้อนหินปากระจกร้านสะดวกซื้อแตกทำลายสิ่งกีดขวางเข้าไปขโมยของกินภายในร้านสะดวกซื้อ แล้วขับรถมุ่งหน้าเข้า จ.พิจิตร จนมาถูกจับกุมได้ที่เขตท้องที่ จ.ชัยนาทดังกล่าว

จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายสุฤษฎิ์ ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ขโมยรถยนต์ท้องที่ สภ.วัดโบสถ์ และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น จึงประสานเจ้าของรถยนต์เข้าแจ้งความดำเนินคดี ส่วนคดีที่ก่อเหตุท้องที่ สภ.เนินกุ่ม รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงเพราะต้องการประชดชีวิต จึงแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.