เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ได้ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นคดีค้ามนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 ว่า วันนี้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนี้ พร้อมกำชับการปฏิบัติเรื่องการดูแลการค้ามนุษย์ในภาพรวบทั้งหมด สรุปได้ 3 ประเด็น ดังนี้ 1. การดำเนินการทางคดีการติดตามความคืบหน้าทางคดี ซึ่งเกิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 หลังเกิดเหตุประมาณเดือน มิ.ย. ได้ออกหมายจับไปแล้ว 153 หมาย สามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว 123 คน คงเหลือหมายจับ 30 หมายจับ เป็นหมายที่ไม่มีคุณภาพ คือมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ชื่อนามสกุลไม่ชัดเจน ไม่สามารถติดตามตัวได้ 10 หมายจับ และเป็นหมายที่มีคุณภาพ 20 หมายจับ อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน 2 ประเทศ ประเทศละ 9 หมายจับ รวม 18 หมายจับ และเป็นคนไทยอีก 2 หมายจับ ซึ่งทางผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งกำชับการติดตามจับกุมตัวคนไทยอีก 2 หมายจับมาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนหมายจับใน 2 ประเทศจะใช้วิธีการประสานงานผ่านทางการทูต เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมาได้มีการถามย้ำในเรื่องของพนักงานสอบสวน ซึ่งเรื่องนี้มีการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนกว่า 100 นาย เป็นการสนธิกำลังจากหน่วยต่างๆ มาเป็นคณะพนักงานสอบสวน หากมีพนักงานสอบสวนรายใดรายหนึ่งถูกล็อบบี้ให้ต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ที่เหลือจะต้องเชื่อตาม เป็นเรื่องของคณะพนักงานสอบสวนที่ต้องดำเนินการร่วมกันทางคดีนี้ จะต้องมีความเห็นทางคดีร่วมกัน เป็นเครื่องยืนยันอย่างหนึ่งว่าการได้รับคำสั่งในทางมิชอบ ได้รับสั่งการให้หันทิศทางคดีซ้ายเป็นขวาเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามได้มีการกำชับอยู่แล้วว่าขอให้ทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และที่สำคัญให้ดูผลลัพธ์ทางคดี ซึ่งได้ออกหมายจับ 153 หมาย ไม่ได้มีการละเว้นใครเลยบุคคลที่ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงหรือมีฐานะทางสังคมก็ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ส่วนคนที่เหลืออีก 20 ราย ที่อยู่ในต่างประเทศเป็นระดับชาวบ้านที่อยู่ร่วมในขบวนการในระดับผู้ปฏิบัติการระดับล่าง

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่ออีกว่าว่า ประเด็นสุดท้ายในห้วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินการป้องกันปราบปรามเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างเข้มข้น ทำให้ห้วงเวลาที่ผ่านมาไม่ปรากฎการนำบุคคลต่างด้าวเข้ามาค้ามนุษย์อีกเลย อีกทั้ง พล.ต.อ.รอย ยังกำชับให้ดำรงมาตรการอย่างเข้มข้นต่อไป เพื่อไม่ให้มีข้อครหาและไม่มีเรื่องนี้ในประเทศของเราอีก

ผู้สื่อข่าวถามถึงมุมมองการนำเสนอของสื่อต่างประเทศในประเด็นการสัมภาษณ์เหตุที่เกิดตั้งแต่ปี 2558 พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า การพูดกันให้ทำคดีเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เป็นคำพูดระหว่างคนสองคน ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจริงเท็จเป็นประการใด รายละเอียดการพูดคุยเป็นการใด แต่อยากให้สื่อมวลชนดูที่ผลลัพธ์ ผมย้ำเสมอว่าผลลัพธ์ของการดำเนินคดีนี้ สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ต้องหาที่โดนจับมีฐานะทางสังคมที่ค่อนข้างสูง หากเราได้รับคำสั่งมาให้ดำเนินการในทางมิชอบ จะไม่มีชื่อของบุคคลที่มีฐานะทางสังคมสูงปรากฎในสถานะของผู้ต้องหา แต่เราก็ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเมื่อควบคุมตัวได้ก็ไม่ให้ประกันตัว หากมีการสั่งการหรือล็อบบี้กันคงไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เราจับกุมผู้ต้องหาได้เป็นจำนวนมาก ไม่มีการให้สิทธิพิเศษ และผู้ต้องหาถูกลงโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำเรียบร้อยแล้ว ผมคิดว่าเป็นเรื่องของการเข้าใจไม่ตรงกันมากกว่า อยากให้ดูที่ผลลัพธ์ว่าได้มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และสามารถจับกุมผู้ต้องหา นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้

เมื่อถามถึงการนำเสนอข่าวในช่วงก่อนจัดอันดับการค้ามนุษย์ ตามรายงาน TIP Report จะส่งผลหรือไม่ โฆษก ตร. กล่าวว่า เป็นความห่วงใย เพราะการเสนอข่าวนี้ในสื่อต่างประเทศและมีการเผยแพร่ไปทั่วโลก อาจจะเป็นผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในเรื่องนี้ของประเทศไทย ทั้งนี้ขอยืนยันว่าทางรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างเข้มข้นและจริงจัง.