เมื่อวันที่ 28 เม.ย. จากกรณี เพจ “เจ๊ม้อย V+” โพสต์เรื่องราวของหนุ่มไรเดอร์หัวร้อนเข้ามาทุบกระจกรถได้รับความเสียหาย โดยอ้างว่ารถคู่กรณีขับปาดหน้าเมื่อคืน ทั้งที่ผู้เสียหายไม่รู้จักเลยว่าเป็นใคร ซึ่งก่อนหน้านี้ทางไรเดอร์เข้ามาเคลียร์เรื่องปาดหน้า ซึ่งผู้เสียหายก็ไม่ได้ขับปาด จนลงมาคุยกัน แต่มีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งก็คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของไรเดอร์ เข้ามาถามและก็มาทุบกระจก และจะเข้ามาทำร้าย อย่างไรก็ควรเจรจาด้วยเหตุผล อยากฟังเหตุผลอีกฝั่งเช่นกัน เพื่อความเป็นธรรมค่ะ ก่อนขึ้นสะพานพระราม 5 นนทบุรี

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายหนุ่ม (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เจ้าของรถที่ถูกทุบกระจก เล่าว่า เรื่องดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะตนขับรถอยู่บนถนนนครอินทร์ เพื่อจะไปธุระ มีไรเดอร์ขับมาปาดหน้าแล้วชะลอรถ คาดว่าน่าจะรับโทรศัพท์ ตนก็ขับแซงไป พอมาถึงช่วงบริเวณสะพานพระราม 5 ก็พบไรเดอร์จอดอยู่จึงได้จอดรถถามเรื่องที่ขับรถปาดหน้า ขณะที่เถียงกันอยู่ ก็มีผู้ชายสองคนใส่หมวกกันน็อกปิดหน้า เดินเข้ามาแล้วถามว่า กลางคืนเคยปาดหน้าเค้าไหม ผมตอบว่าไม่เคย รถมีกล้องหน้ารถ เขาก็ใช้มือทุบกระจกมองข้างซ้ายจนแตกออก ผมจะลงไปดู ชายคนดังกล่าวทำท่าจะวิ่งเข้ามาทำร้าย ผมเลยรีบขึ้นมาบนรถ ซึ่งคนที่มาทุบกระจก ไม่ใช่คู่กรณีผมเลย หลังจากนั้นผมจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางศรีเมือง

นายหนุ่ม กล่าวอีกว่า วันนี้ผมได้รับแจ้งจาก พ.ต.ต.สินสมุทร บุญทัศนา ร้อยเวร สภ.บางศรีเมือง ว่า ตำรวจได้ไปเชิญตัวหนุ่มไรเดอร์ที่อยู่ในคลิปมาที่สถานีตำรวจแล้ว ให้ตนมาพบเพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม

ด้านนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี หนุ่มไรเดอร์หัวร้อน กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนขี่รถไปเห็นกลุ่มเพื่อนไรเดอร์ยืนเถียงกันอยู่กับคนขับรถเก๋งสีขาว ตนจึงเดินเข้าไปเพื่อจะสอบถาม แต่เห็นคนในรถถ่ายคลิปจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ใช้มือทุบไปที่กระจก ก่อนที่จะขี่รถหลบหนีไป หลังตำรวจไปเชิญตัวมา ก็รู้สึกสำนึกผิดที่ได้กระทำลงไป อยากจะขอโทษผู้เสียหาย

ต่อมานายหนุ่ม ได้เดินทางมาที่ สภ.บางศรีเมือง ตามนัดหมายกับทางร้อยเวร เมื่อทั้งคู่พบหน้ากันทางหนุ่มไรเดอร์ได้ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมรับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก รวมทั้งจะนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกกับเพื่อนไรเดอร์ว่าอย่าทำพฤติกรรมแบบนี้อีก แต่ทางนายหนุ่ม ไม่ยอมรับคำขอโทษ ให้ทางตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเนื่องจากต้องการให้เป็นตัวอย่างกับกลุ่มไรเดอร์และคนที่ขับขี่รถ จยย.ที่ชอบมีพฤติกรรมการขับขี่รถในลักษณะแบบนี้

“ก่อนหน้านี้ตนก็เคยโดนกระทำลักษณะแบบนี้มาหลายครั้ง ตนก็ต้องอดทน เพราะไม่อยากจะมีเรื่อง แต่ครั้งนี้มันสุดทนเพราะเขาไม่ใช่คู่กรณี แต่ไม่รู้เขาทำเพื่ออะไร” นายหนุ่ม กล่าว

เบื้องต้นหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น ทางร้อยเวรได้แจ้งข้อหากับนายบอย ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท.