จากกรณีนายสมบูรณ์ กรมไธสง อายุ 42 ปี และนางน้ำฝน เทพพิทักษ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/2 หมู่ 6 ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ สองสามีภรรยา ร้องเรียนผ่านสื่อ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากไม่ได้รับคำชี้แจงจากโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ถึงสาเหตุที่ไม่ยอมผ่าตัดไส้ติ่ง ด.ช.กิตติศักดิ์ หรือ น้องต้นน้ำ กรมไธสง อายุ 12 ขวบ นักเรียนชั้น หมู่ 1 ลูกชายคนเดียว จนทำให้เด็กเสียชีวิต ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อต้องการสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า ผอ.รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ไปประชุมสัมมนาที่ต่างจังหวัด จะกลับมาถึงและเตรียมแถลงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นบ่ายวันนี้
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ครอบครัวของ น้องต้นน้ำ ที่ อ.พุทไธสง ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากฌาปนกิจศพน้องต้นน้ำ ไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะคำตอบจากโรงพยาบาลที่ครอบครัวทวงถามมาโดยตลอด
นางน้ำฝน เทพพิทักษ์ อายุ 35 ปี แม่น้องต้นน้ำ บอกว่า ตอนนี้ยังติดใจที่หมอไม่ผ่าให้ลูกชาย ทำไมต้องให้ปล่อยให้นอนรอถึง 2 วัน เพราะอะไร ทำไมหมอไม่อธิบาย ทำไมถึงเงียบ ทำไมไม่ติดต่อมาหาผู้ปกครองเลย ทางเราต้องติดต่อไปถามเอง อยากได้คำตอบที่เราเข้าใจมากกว่านี้หน่อย การสูญเสียลูกไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะเรามีเขาแค่คนเดียว
น.ส.ปราณี ดาษดา อายุ 24 ปี น้าสาวน้องต้นน้ำ บอกว่า ตนถามคุณหมอถึงเหตุผลที่ไม่ยอมผ่าหลาน หมอบอกว่า ญาติอย่าเพิ่งใจร้อนตอนนี้คุณพ่อของหมอเจ้าของไข้ที่จะผ่าตัด เสียชีวิตประกอบกับติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไม่สามารถไปดูเอกสารได้ ส่วนตัวยังไม่เชื่อคำอธิบาย เพราะน้องเสียชีวิตตั้งแต่วันจันทร์ ที่ 30 พ.ค. สิ่งที่ติดใจคือทำไมเข็นน้องเข้าไปผ่าแล้ว จึงเข็นออกมาคืน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบ ส่วนงานศพน้องไม่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนใดมาร่วมงานแม้แต่คนเดียว
คาใจรพ.อ้างดูแล ‘คนไข้พิเศษ’ ปล่อย12ขวบนอนรอ2วันไส้ติ่งแตกตาย…
ขณะที่นางเรณู กรมไธสง อายุ 86 ปี ย่าน้องต้นน้ำ บอกว่า ตอนนี้รู้สึกเหงา ไม่เห็นหลานมาพูดคุยด้วย คิดถึงทุกครั้งเวลากินข้าว เพราะก่อนไปโรงเรียนทุกวัน หลานจะหาข้าวมาให้กินทุกครั้ง
สำหรับความคืบหน้าทางโรงพยาบาล ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานมาว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีนายแพทย์รักเกียรติ ประสงค์ดี รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ มาเป็นคนแถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น…
