เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางสายหยุด (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ว่า ลูกชาย อายุ 43 ปี เสียชีวิตลงอย่างปริศนาในบ้านพักใน ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ มาตั้งศพบำเพ็ญกุศลทำพิธีทางศาสนาที่วัดราษฎร์นิยมธรรม ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ นางสายหยุด กำลังเตรียมพิธีฌาปนกิจศพลูกชาย พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 10.30 น. ลูกชายเดินทางไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ในฐานะกลุ่มเปราะบาง 7 โรค และน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม พอฉีดเสร็จได้กลับมานอนที่บ้านกระทั่งเวลา 20.00 น.วันเดียวกัน ได้เสียชีวิตลงอย่างปริศนา จึงความสงสัยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย

นางสายหยุด เผยอีกว่า ลูกชายมีโรคประจำตัวคือไขมัน ความดัน โรคเกาต์ และมีน้ำหนัก 104 กิโลกรัม พอฉีดเสร็จกลับมาบ้านบอกว่ามีอาการตึงที่แขนและขา จากนั้นเข้ามาเปิดทีวีดูนอนตะแคงข้างเล่นโทรศัพท์ ผ่านไปไม่นานตนกลับมาบ้านสังเกตดูอาการลูกเพราะเป็นห่วง พบว่าเริ่มมีอาการปากเบี้ยว มือเท้าเริ่มเขียว จึงเดินเข้าไปเรียกแต่ก็ไม่ตอบสนอง และยังสังเกตเห็นอีกว่ามีปัสสาวะไหลออกมา จึงรีบโทรศัพท์แจ้ง 1669 ต่อมาทีมแพทย์ มาบ้านทำการปั๊มหัวใจเป็นเวลา 30 นาที แต่ก็ไม่เป็นผล ลูกชายเสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งไปชันสูตร เบื้องต้นสันนิฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-18 ชั่วโมง ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ญาติจึงนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยต้องรอผลประมาณ 1-2 เดือน ส่วนผลการตรวจเชื้อโควิดเป็นลบโรงพยาบาลจึงส่งมอบศพให้กลับมาทำพิธีทางศาสนา

นางสายหยุด เผยว่า คาใจการเสียชีวิตของลูกชายเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้จะมีโรคประจำตัวหนักกว่า 100 กิโลกรัม แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีอาการป่วยหรืออาการกำเริบจากโรคประจำตัวแต่อย่างใด แต่พอไปฉีดวัคซีนผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงกลับทำให้ลูกชายต้องเสียชีวิตอย่างไม่ทราบเหตุ เคยดูข่าวคนฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิตมาหลายเคสไม่คิดว่าวันนี้เหตุการณ์สลดจะมาเกิดขึ้นกับครอบครัวของตน ลูกชายคนนี้เป็นหัวหน้าครอบครัว ช่วยงานบ้านหาเลี้ยงครอบครัว ตนอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง