ฤดูกาลนี้ อาร์เซนอล ออกสตาร์ตด้วยความพ่ายแพ้ 3 นัดรวดชนิดยิงประตูไม่ได้ เสียไป 9 ประตู

พริบตาเดียวอาร์เซนอลกลายเป็นทีมหนีตกชั้นตั้งแต่ยังไม่เข้าเดือนกันยายน

ไม่ทันไรอนาคตของมิเกล อาร์เตตา จึงเป็นเครื่องหมายคำถาม เช่นเดียวกับข้อกังขาถึงศักยภาพทีมชุดนี้ว่าจะกลับไปเล่นถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้หรือไม่

แต่ถึงตอนนี้เหลืออีก 4 นัด อาร์เซนอล สามารถการันตีโควต้ายูโรปาลีกได้เรียบร้อย และยังมีหวังกับการคว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ถามว่าอยากให้ทีมรักได้ติดท็อปโฟร์หรือไม่ก็ตอบเลยว่าแน่นอน แต่บางทีก็แอบกลัวว่ามันจะเป็นความสำเร็จแบบก้าวกระโดดเร็วเกินไป

เพราะหลังจากทยอยโละทิ้งส่วนเกินอยู่นานสองนาน เวลานี้อาร์เซนอลกลับมาเป็นทีมไซส์เล็กที่ขุมกำลังเหลือเฟือสำหรับถ้วยในประเทศ แต่หากจะไปถ้วยแชมเปียนส์ลีกนั้นบอกได้เลยว่าต้องซื้อเพิ่มอีกเยอะ ไม่เยอะธรรมดา แต่เยอะมากด้วย

หากเราไปแชมเปียนส์ลีกก็คงซื้อนักเตะเข้ามาอีกต่ำๆ น่าจะมี 5-6 คน แล้วทีนี้เกิดถ้วยยุโรปก็ต้องเล่นมันก็อาจส่งผลกระทบมาถึงในลีก

มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฤดูกาลหน้าไม่จบท็อปโฟร์ นี่เราไม่ต้องกำจัดนักเตะค่าจ้างสูงๆ ออกไปอีกอย่างนั้นหรือ?

แต่ก็เอาเถอะนั่นอาจเป็นปัญหาที่อาจมองข้ามขั้นตอนเกินไป มองแค่ใกล้ๆ แค่ได้ไปเตะถ้วยบิ๊กเอียร์ สโมสรก็ได้เงินมากพอดู และเป็นปัญหาที่ฝ่ายบริหารต้องปรับสมดุลย์ทีมให้เหมาะสม

กลับมาที่เกมเมื่อคืนนี้ อาร์เซนอล บุกไปเยือน เวสต์แฮม ซึ่งถือว่าไม่ง่าย แม้ว่าขุนค้อนจะเปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งเพราะมีถ้วยยูโรปา ลีก กลางสัปดาห์ กระนั้น 11 คนที่ส่งลงมาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่

บอกตรงๆ ก่อนแข่งผมไม่มั่นใจว่าเราจะชนะด้วยซ้ำ ดังนั้นแม้จะทุลักทุเลแต่ก็เป็นสามแต้มใหญ่และมีแง่ดีไม่น้อย

ใครไม่ประหลาดใจ แต่ผมประหลาดใจ เพราะจากที่แพ้ พาเลซ, ไบรท์ตัน, เซาแธมป์ตัน ทีมที่ถูกคาดหมายว่างานไม่หนักอาร์เซนอลกลับแพ้ แต่พอเจอของหนักทั้งเชลซี, แมนฯ ยู, เวสต์แฮม อาร์เซนอลกลับชนะรวด แถมชนะบ้านสองเกมด้วยกัน

แนวรับ ร็อบ โฮลดิ้ง ลงมาแทน เบน ไวท์ ที่บาดเจ็บและกลายเป็นหนึ่งในฮีโร่เพราะโขกทำประตูแรก

ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ กลับมาเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบหลายเดือน ยังไม่ฟิต และเล่นไม่จบเกม น่าจะเจ็บเล็กน้อย แต่อาร์เตตาบอกว่ายังไม่น่าห่วง

เกมรุก กาเบรียล มาร์ติเนลลี เป็นตัวจริงแทน เอมิล สมิธ-โรว์ ที่เป็นสำรองได้ลงช่วงท้ายเกม

รูปเกมเราอาจไม่ได้ครองบอลมากกว่า แต่ภาพรวมแสดงให้เห็นถึงสปิริตที่ดี โม เอลเนนีย์ และ กรานิต ชากา ฟอร์มดีทั้งคู่ บังโม อาจไม่ใช่สายจอมเทคนิค แต่เขาเป็นตัวรับที่ขยันและมีประโยชน์

ชากา คุมจังหวะแดนกลาง เล่นได้วิเศษสมกับที่เขาเพิ่งเผยว่ามีความสุขมากๆ และพร้อมเป็นกัปตันทีมอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยรับว่าไม่อยากมองไปอัฒจันทร์เพราะเคยจิตตกตอนที่คิดว่าตัวเองโดนเกลียดชังจากเหตุการณ์ไม่ดีในอดีต

ถ้ามองไม่ผิดผมเห็นว่า มาร์ติน โอเดการ์ด ส่งปลอกแขนให้ชากาตอนที่โดนเปลี่ยนออก และเจ้าตัวก็รับมาใส่ ผิดจากก่อนหน้านี้ที่ปฏิเสธมาตลอด

อีกคนที่เห็นพัฒนาการขึ้นชัดเจนคือเอ็ดดี เอ็นเคเทีย ถึงยิงประตูไม่ได้ แต่ก็ได้ยิงตรงกรอบอยู่ 2-3 ครั้ง ที่สำคัญขยันมากช่วยไล่บอล จนเริ่มเสียดายขึ้นมานิดๆ หากเขาตัดสินใจย้ายทีม เพราะเจ้าตัวก็ยังก้ำกึ่งระหว่างเป็นกองหน้าที่ดีหรือเกรดรองลงมา

จากนี้โปรแกรมอาจเหลือ 4 นัด แต่อาร์เซนอลสามารถจบมันได้ใน 2 นัด

นัดต่อไปหากชนะลีดส์ ขณะที่สเปอร์แพ้ลิเวอร์พูลอย่างที่คาด อาร์เซนอลจะหนีห่าง 5 แต้ม

จากนั้นนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ที่ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ สเตเดียม ผลเสมอไม่เสียหาย แต่ถ้าถึงชนะ อาร์เซนอลจะทิ้งห่าง 8 แต้ม แต่เหลือเกม 2 นัด เท่ากับการันตีที่ 4 ทันที

ยังไงก็ต้องมองนัดต่อนัด ชนะนัดหน้าให้ได้ก่อน ที่เหลือก็ค่อยว่ากัน

สุดท้ายไม่ว่าจะจบที่ 4 หรือไม่ ทีมเด็กๆ มาได้ขนาดนี้ นี่คือฤดูกาลที่ไม่น่าผิดหวังแล้ว ที่เหลือคือโบนัสล้วนๆ ครับ

เฮียเอง