ปรากฏว่ารุ่นน้องผมจัดร้านให้แบบเปิบพิสดารเพราะเธอชอบกินแบบนี้ และเมนูที่สั่งคือ ลาบหมูดิบ แอ๊บอ่องออ (สมองหมูหมก) หลู้เลือด (เลือดหมูคั้นกับตะไคร้ปรุงด้วยพริกลาบโรยหมี่กรอบ) ตับขาว แกงอ่อมเครื่องในหมู

ข้างบนทั้งหมดนี้เกิดมาผมไม่เคยกิน และต้องขอวุ้นแปลภาษา ได้ความมาดังนี้

โฮงหมู = โรงหมู

ตุ๊บ = ทุบ

อิ๊ด = เสียงหมูร้อง

ตุ๊บอิ๊ด ตุ๊บอิ๊ด (เสียงร้องซ้ำ)

ร้านนี้มีชื่อว่า ภัตตาคารซาดิสซ์ โฮงหมู ตุ๊บอิ๊ด ตุ๊บอิ๊ด เพราะร้านอยู่ติดกับโรงฆ่าสัตว์ พอได้เนื้อมาเสร็จ ก็นำมาปรุงสด ๆ ที่ร้านทันที (สดของจริง) ถามว่าผมกินได้มั้ย ผมกินครบทุกอย่าง เพราะเอาข้าวเหนียวร้อน ๆ จิ้มกินกับทุกเมนูมันพอไปได้นะครับ แต่ถ้าถามว่าชอบหรือไม่ ชอบเป็นบางอย่าง ลาบหมูดิบ ผมกินได้เรื่อย ๆ รุ่นน้องอีกคนที่ไปด้วยก็ไม่เคยกิน เขาขอสั่งเบิ้ลรอบสอง ส่วนผมไปเจอ ลาบเนื้อคั่ว จานนี้ผมเหมาคนเดียวเลย เพราะชอบเนื้ออยู่แล้วและทำสุกๆ แบบนี้กินง่ายกว่า

หลู้เลือด นี่ไม่รู้จะกินตรงไหนก่อน ผมก็เอาข้าวเหนียวร้อน ๆ จิ้มเลือดไป ได้รสและกลิ่นสมุนไพร หอมแปลกดี พวก ไส้ทอด ตับขาว ผมจิ้มน้ำจิ้มที่ชื่อว่า “น้ำพริกอีเก๋” ผมว่ามันอร่อยกว่าน้ำจิ้มแจ่วสีแดง รุ่นน้องบอกว่าน้ำพริกอีเก๋ใส่ปลาร้าด้วยนะ อืม…นัวดีแท้ครับ

แอ๊บอ่องออ (สมองหมูหมก) ผมกินสลับกับ แหนมหมกไข่ มัน ๆ สลับรสเปรี้ยว เมนูประเภทย่างอีกอย่างคือ คางหมูย่าง ผมไม่เคยกินครับ จะกรุบ ๆ กว่าคอหมูย่าง (ผมว่าสั่งคอหมูย่างไปเถอะ) และที่ชอบมากสุด ๆ ตักแล้วตักอีกคือ แกงอ่อมเครื่องในหมู ผมว่าน้ำซุปมันกลมกล่อม ข้นดี แล้วเครื่องในก็นุ่มมากกินง่ายครับ

ใครอยากเปิดโลกแบบผม ภัตตาคารซาดิสซ์ มี 2 ร้าน ติดแอร์และไม่ติดแอร์ สาขาที่ผมไป เป็นต้นตำรับอยู่ถนนระแกง ตำบลช้างคลาน หรือคนแถวนั่นเรียกว่า “สี่แยกแม่และเด็ก” (เพราะมีโรงพยาบาลแม่และเด็ก) ถ้าลองหาใน google maps ก็เจอครับ แต่คนที่อยู่เชียงใหม่บางคนยังไม่เคยไปกินเลย เพราะมัน rare มาก ๆ

ตัดภาพวันถัดมา ผมต้องไปเลี้ยงรับรองผู้ใหญ่ มีคนแนะนำว่า “ครัวอาจารย์สายหยุดและหมอทราย” ดีนะ ผมเชื่อและไปตามครับ โชคดีจริง ๆ ที่จองโต๊ะได้ เพื่อนในเชียงใหม่หลายคนบอกว่าร้านนี้ต้องสะสมแต้มบุญเยอะพอสมควร เพราะคนเต็มตลอด

ผมไปก่อนเวลาและจองห้องไว้ ห้องตกแต่งสวยงาม มีมะม่วงน้ำปลาหวานมาเสิร์ฟ มะม่วงแกะสลักอย่างสวยงาม พนักงานบอกว่าเมนูเป็นออร์เดิร์ฟ กินฟรีครับ ระหว่างรอ ผมสั่ง “หมูโสร่ง” และ “ม้าฮ่อ” (สั่งเป็นชิ้นได้) ปรากฏว่า 5 นาทีมาเสิร์ฟแล้ว ร้านนี้อาหารออกเร็วมากครับ เมื่อเห็นจานก็ตะลึงในความวิจิตรบรรจง

เราสั่งอาหารรอไว้ก่อน ผิดคาดเพราะที่ร้านมีอาหารทุกภาค ดีเลยจะได้กินหลากหลาย ผมสั่งไว้ก่อนและย้ำว่ายังไม่ต้องทำ (รู้แล้วว่าทำเร็ว) เมื่อผู้ใหญ่มาถึง อาหารก็มาลงพรึ่บ ๆ ถ้าจานไหนมีผักแกล้ม ก็จะถูกแกะสลักมาอย่างสวยงาม

ผมชอบ “กุ้งทอดซอสมะขาม” ให้มาเยอะมาก กุ้งตัวโตกรอบ ตัดกับน้ำซอสมะขามรสเปรี้ยว “ผักเชียงดาผัดไข่” กินแล้วหยุดไม่ได้ครับ ผักพื้นเมือง รสมัน ๆ กินเพลินมาก “น้ำพริกไข่ปู” กินกับผักต้มและผักแกะสลัก จานนี้ว้าวอีกแล้วครับ เมนูที่ผมชอบที่สุดคือ “แกงรัญจวน” น้ำซุปใส่น้ำพริกกะปินัวมาก เผ็ดนิด ๆ และในชามให้เนื้อมาเยอะมาก ตักกินไม่หมดซะที “แกงเหลืองปลากะพง” อาหารใต้ก็มี เผ็ดได้ใจ ต้องเบรกด้วย “ผัดสายบัวกะปิกุ้ง” รสกลมกล่อม กุ้งตัวเป้ง น้อง ๆ ชอบเมนูนี้กันครับ

ระหว่างรับประทานอาหาร อ.สายหยุด เข้ามาสอบถามและดูความเรียบร้อยของอาหารด้วยตัวเอง อาจารย์บอกว่ากำลังจะเปิดสาขา 2 ที่ อ.สันกำแพง ครับ ปิดท้ายเมนูมี “กล้วยเชื่อม” มาเสิร์ฟ จะเป็นกล้วยเชื่อมแบบเนื้อแข็ง ราดน้ำกะทิมาให้ เมนูของหวานนี้ฟรีอีกแล้วครับ เรากินหมดชามเลย วันนี้มาแนะนำ 2 ร้านก่อนครับ ผมเห็นว่าสุดโต่งทั้งเรื่องของความดิบเถื่อนและความวิจิตรบรรจง ฉีกไปคนละขั้ว ปีนี้ผมต้องมาเชียงใหม่อีกหลายครั้ง เดี๋ยวคงได้มาแนะนำร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมครับ.

………………………………………..
คอลัมน์ : ก้อนเมฆเล่าเรื่อง
โดย “น้าเมฆ”
https://facebook.com/cloudbookfanpage