กลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ตลอดสัปดาห์ มีทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว ออกมาเผยแพร่ให้สังคมทราบ แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้น เรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องผู้รักษากฎหมาย ซึ่งสวม เครื่องแบบสีกากี งานนี้เลยต้องช่วยกันตามหาความจริงให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะมีใครพยายามปิดข่าว หรือทำให้เรื่องนี้กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง

ที่ไปที่มาเกิดขึ้นช่วงเช้ามืดวันที่ 12 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล จำนวนอย่างน้อย 6 นาย ขับรถยนต์ 2 คัน ขับไล่ล่าและประกบยิงสนั่นถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี จนรถ ขนส่งสินค้าแบรนด์เนม ของผู้ประกอบการในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดยางแตกที่ล้อหลังและจู่โจมเข้าจับกุมคนขับ มีการทำร้ายและจับถอดเสื้อ ใส่กุญแจมือไพล่หลังนั่งกลางถนน

ขณะกำลังนำสินค้าจากพื้นที่บ้านทับพริกไปส่งลูกค้าในพื้นที่กทม. บริเวณรอยต่อพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น กับ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว กระทั่งมีการนำรถพร้อมของกลางไปเก็บไว้ที่หน่วยสันติบาล อ.อรัญประเทศ พร้อมกับพยายามแจ้งข้อหาและ เรียกรับเงินจำนวน 500,000 บาท แต่เจ้าของรถเจรจาจ่ายเป็นเงินสดโดยโอนไปให้ลูกน้องเบิกเป็นเงินสดจ่ายให้เจ้าหน้าที่ไป 150,000 บาท จึงสามารถนำรถและสินค้า กลับไปได้ในช่วงสายวันเดียวกัน

อีกทั้งผู้ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติครั้งนี้ ยังทำหนังสือร้องเรียนไปถึง “พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”, ผบ.ตร. , ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมของชุดปฏิบัติครั้งนี้ ซึ่งนำโดยนายตำรวจสันติบาลจ.สระแก้ว กับพวกพร้อมทั้งระบุด้วยว่า มีการเจรจาเรื่องเงินจำนวน 150,000 บาท ก่อน จะปล่อยรถยนต์กระบะ ขนสินค้าไป โดยไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด

จริง ๆ ใครตามข่าวก็คงรับรู้แล้วว่า นายตำรวจสันติบาลนายนี้ เป็นใคร ซึ่งชุดเฉพาะกิจที่ก่อเหตุฉาว ตามข่าวระบุว่า ประกอบด้วย ตำรวจสันติบาลกองหนึ่ง 3 นาย นายตำรวจกองบังคับการตำรวจน้ำ (รน.) 2 นาย แถมมีคนนอกชื่อย่อ “ป.” ชอบคล้องบัตรตำรวจ รวมทำงานอยู่ด้วย

หลังปรากฏข่าว “พล...สมควร พึ่งทรัพย์” ผบก.รน. สั่งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ได้แต่หวังถ้าผลสอบออกมาอย่างไรต้องบอกกล่าว ให้สังคมรับทราบด้วย เพราะมีข่าวทีมงานชุดนี้ สร้างชื่อเสียงโด่งดังในภาคตะวันออกมาหลายครั้ง แต่เพิ่งมาถูกจับโป๊ะได้ เมื่อย้อนกลับมาทำงานในพื้นที่จ.สระแก้ว

ส่วน “บช..” ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ “พล...สราวุฒิ การพานิช” ผบช.. ก็มีข่าวส่งทีมงานไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ได้แต่หวังว่าเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ ผู้บังคับบัญชาจะไม่นิ่งเฉย เนื่องจากกระทบกับชื่อเสียงต้นสังกัด อีกทั้งหลายคนมักพูดกันว่า “พล...
สราวุฒิ” เติบโตในหน้าที่การงานแบบก้าวกระโดด ดังนั้นต้องไม่ลืมว่า หน้าที่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ

แล้วพอซะทีเถอะ หยุดเถอะครับ เรื่องตั้งชุดเฉพาะกิจไปตรวจสอบเรื่องราวต่าง ๆ กี่ครั้งแล้วครับ ที่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร. ) “บิ๊กปั๊ด” พล...สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องหันมาตรวจสอบเรื่องนี้ ถ้าไปไหวก็ยกเลิกซะ

อย่าลืมตามขั้นตอน ภารกิจต่าง ๆ ขององค์กรสีกากี ก็มีหน่วยงานประจำทำงานอยู่ ทำงานกันตามปกติอยู่แล้ว ไปแย่งงานแย่งซีนกันเปล่า ๆ แล้วเรื่องฉาวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีการดึงคนนอกเข้าเกี่ยวข้องด้วย เลยอยากถามแบบคนไม่รู้ ตามกฎหมายทำได้หรือครับ หรือเวลาเกิดปัญหา ก็โยนบาปโยนเผือกร้อนให้พลเรือนรับไป

อย่าลืมว่า เรื่องนี้มีการ ร้องเรียนไปถึงหัวหน้ารัฐบาล ไม่มีใครหน้าไหนตัดตอน หรือหวังขัดขวางไม่ให้การตรวจสอบหยุดลงได้ แม้จะมีข่าว มีนักการเมืองท้องถิ่น เป็นตัวกลางในการช่วยเคลียร์ ขอคืนเงินรีดไปจากผู้เสียหาย ก็ยิ่งตอกย้ำว่า มีการกระทำผิดขั้นตอน ผิดกฎหมายจริง

แต่งานนี้ต้องชื่นชมคนข่าวในพื้นที่ แม้จะมีกดดันให้ปิดข่าว ไม่นำเสนอข้อเท็จจริง แต่สื่อมวลชนก็ยังยืนยันนำข้อมูลมาบอกให้สังคมได้รับรู้ จากนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับ “แม่ทัพสีกากี” จะมีความกล้าหาญมากขนาดไหน ในการลงดาบสีกากีนอกแถว ปล่อยไว้รังแต่จะสร้างความเสื่อมเสียให้ให้องค์กร นิ้วไหนร้ายก็ต้องรีบตัดทิ้ง

ครับ…อย่าลืมว่าในช่วงโควิด-19 คนไทยทุกอาชีพก็ลำบากกันแสนสาหัส แต่กลับยังมีเจ้าหน้าที่รัฐมาก่อเหตุรีดนาทาเร้น ช่วยซ้ำเติมให้ทุกช์ซ้ำเข้าไปอีก ก่อนถึงคิวเปิดประเทศ “นายกฯ ลุงตู่” ช่วยเปิดโปงพวกรีดรับส่วยก่อนดีไหม.

————–
เขื่อนขันธ์