เหลืออีก… 2 วัน ที่บรรดาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ทั้งผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 จะทยอยได้รับเงินเยียวยารอบใหม่ โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับเงินไม่เท่ากัน และไม่พร้อมกัน

ครม.ได้เห็นชอบมาตรการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน รวมทั้งอาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ใน 13 จังหวัด ใน 9 กลุ่มอาชีพ เป็นเวลา 1 เดือน

โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ใน 9 กลุ่มอาชีพ รัฐบาลจะเยียวยาให้กับลูกจ้างสัญชาติไทยคนละ 2,500 บาท นอกเหนือจากกองทุนประกันสังคมที่จะจ่ายให้ 50% ของรายได้ สูงสุด ไม่เกิน 7,500 บาท กรณีว่างงานสูงสุด 3 เดือน รวมแล้วไม่เกิน 10,000 บาท

ส่วนบรรดานายจ้างหรือผู้ประกอบการ รัฐเยียวยาให้ตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตราคนละ 3,000 บาท ตีง่าย ๆ ก็สูงสุดไม่เกิน 6 แสนบาท ตามจำนวนลูกจ้าง

บรรดาผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ มาตรา 40 สัญชาติไทยและยังประกอบอาชีพในปัจจุบัน ก็จะได้รับเงินเยียวยา คนละ 5,000 บาท รวมเบ็ดเสร็จแล้วก็มีผู้ประกันตนราว ๆ 2.87 ล้านคน ใช้เงินเบื้องต้นก็ประมาณ 13,500 ล้านบาท

กลุ่มแรกที่รัฐบาลเตรียมโอนเงินให้ก่อนใคร ก็เป็นบรรดา ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในวงเงินคนละ 2,500 บาท ที่จะเริ่มโอนตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.นี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 6 ส.ค.64 ซึ่งจะโอนให้เฉพาะในพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด ใน 10 จังหวัดแรกก่อน

จากนั้นในอีก 3 จังหวัดเพิ่มเติมคือฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา รัฐกำหนดโอนเงินให้ในวันที่ 9 ส.ค.จากนั้นก็เป็นคิวของนายจ้างทั้งประเภทบุคคลธรรมดา และนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลนายทุกวันศุกร์ ไปจนถึงวันที่ 29 ต.ค.โน่น

ทั้งหลายทั้งปวง ก็เป็นเพราะการโอนเงินระบบพร้อมเพย์ จะ ทำได้เพียงวันละ 1  ล้านบัญชีเท่านั้น ภาครัฐก็ต้องใช้วิธีทยอยจ่ายตามวันที่กำหนด

ที่สำคัญ!! บรรดาผู้ประกันตนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นมาตราไหนที่ได้รับสิทธิได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล ก็ อย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่า พอถึงวันที่ 4 ส.ค. ปุ๊บ เงินจะไหลเข้าบัญชีปั๊บ ต่อให้เช็กแล้วเช็กอีกว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิก็ตามทีเถอะ

เพราะเงื่อนไขข้อกำหนดของภาครัฐ เค้าออกมาชัดเจนแล้วนะว่า… เป็นการโอนเงินระบบ “พร้อมเพย์” ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนเท่านั้น!! ซึ่งก็รวมถึงบรรดานายจ้างที่เป็นประเภทบุคคลธรรมดาด้วยนะ

เรื่องนี้ต้องเช็กให้ดี ๆ เช็กให้ชัด ๆ ว่าบัญชีเงินฝากของผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิน่ะ ผูกกับเลขอะไรไว้ อย่าลืม… บางคนก็ผูกกับเบอร์โทรศัพท์ เพื่อง่ายต่อการจำ ซึ่งก็หมายความว่า…เงินเยียวยาย่อมไม่เข้าบัญชีแน่นอน แปลความว่า อด!!

แต่งานนี้!! ขอย้ำ ว่า รัฐโอนผ่านระบบพร้อมเพย์ที่บัญชีผูกับเลขบัตรประชาชน ฉะนั้นใครที่นึกได้ว่าตัวเองระบบพร้อมเพย์ของตัวเองผูกอยู่กับเบอร์โทรศัพท์ ก็ต้องรีบแก้ไขโดยเปลี่ยนมาผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนให้เรียบร้อย

หรือหากใครยังไม่มีบัญชีเงินฝาก หรือใครยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ก็ ต้องรีบดำเนินการกันโดยด่วนทันที เพราะคุณ ๆ ท่าน ๆ ยังมีเวลาอย่างน้อยอีก 2 วัน  โดยสามารถใช้ช่องทางออนไลน์ แอพพลิเคชั่น  หรือที่เครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง หรืออาจไม่ขอคำปรึกษาจากคอลเซ็นเตอร์ ของแต่ละแบงก์ก็ได้ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถแน่นอน

บรรดาสถาบันการเงิน ต่างออกมาการันตี ว่าแต่ละแบงก์เค้าพร้อมดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพียงแต่ช่วงนี้โควิดระบาดหนัก การดำเนินการผ่านระบบออนไลน์จะสะดวกสบายที่สุด

ที่สำคัญอย่าลืมว่า…ผู้ประกันตนที่จะได้รับเงินเยียวยา ต้องเป็นอาชีพก่อสร้าง เป็นกิจการที่พักแรม และบริการด้านอาหาร หรือร้านอาหาร ต้องเป็นกลุ่มศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ

นอกจากนี้ต้องเป็นบริการด้านอื่น ๆ เป็นกลุ่มอาชีพขายส่ง ขายปลีกและซ่อมยานยนต์ กลุ่มขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ กิจกรรมทางวิชาการ รวมถึงอาชีพข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร

จะว่าไปแล้ว..ก็เกือบทุกอาชีพนั่นแหล่ะที่ได้รับการเยียวยาในรอบนี้ เพียงแต่ต้องอยู่ใน 13 จังหวัดตามที่กำหนด เพียงแต่!! เงินเยียวยารอบนี้จะพยุงจะประคองแรงงานได้แค่ไหน? นั่นแหละที่ต้องหาคำตอบ..

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”