ซาดิโอ มาเน เคยบอกว่า ไม่ว่าเขาจะเล่นดีแค่ไหน ก็ไม่มีวันได้นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโลก เพราะว่าเป็นคนแอฟริกา

นั่นคือความคิดเห็น ใครจะคิดยังไงก็ได้ คนเห็นด้วยก็เยอะ คนเห็นต่างก็แยะ

แต่อีกอย่างที่น่าคิดก็คือ และมีคนสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ แล้วถ้านักเตะเอเชียล่ะ มีสิทธิจะฝันถึงรางวัลอะไรได้บ้างไหม

ก็ในเมื่อ ซน ฮึง มิน ยิงจนเจ็บเท้า (เจ้าตัวบอกอย่างนั้น) และคว้ารางวัลดาวซัลโวร่วมของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021-22 มาครอง (แบบไม่มีจุดโทษ)

แต่กลับไม่มีชื่อติด 1 ใน 6 คนสุดท้าย ที่ชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล

และล่าสุด กลายเป็นดราม่าขึ้นมาอีก เมื่อแม้แต่ “ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล” 11 คน ซน ก็ยังไม่ติด

รางวัลที่เรากำลังพูดถึง คือรางวัลของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ หรือ พีเอฟเอ ซึ่งนักเตะเป็นคนโหวตเลือกกันเอง

นี่จึงเป็นรางวัลที่ศักดิ์สิทธิ์ และได้รับการยอมรับมากที่สุด เพราะนักเตะที่เล่นด้วยกันทุกสัปดาห์ ย่อมจะต้องรู้ดีที่สุดว่า ใครเก่ง ใครไม่เก่ง

ในเมื่อพวกเขาเลือกมาเอง มันจึงเป็นรางวัลที่ไร้ข้อกังขาเสมอมา และใครๆ ต่างก็บอกว่า นี่คือรางวัลที่ยุติธรรมที่สุด

แต่ลืมไปหรือเปล่าว่า นักบอลก็คน พวกเขาก็มีอารมณ์ ความรู้สึก มีรัก มีชอบ มีเกลียด มีลำเอียง เหมือนเราทุกคน

ระบบการเลือกนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ นั้น ง่ายมากๆ คือ 1 คน มี 1 สิทธิ ต่างคนต่างเลือกกันไป แล้วเอาคะแนนทั้งหมดมารวม ใครได้มากที่สุดก็ได้รางวัลไปครอง

มีข้อแม้อย่างเดียวคือ “ห้ามเลือกนักเตะจากทีมเดียวกัน”

แต่รางวัลนี้ ไม่ได้มีเพียงนักเตะพรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่เลือก แต่เลือกมาจากสโมสรสมาชิกทั้ง 92 สโมสรของพีเอฟเอ ซึ่งรวมถึงทีมในลีกรองลงไป ทั้งเดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีกวัน และลีกทู ด้วย

จะบอกว่า นักเตะย่อมรู้ดีที่สุดว่าใครเก่ง ใครไม่เก่ง จึงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะนักเตะลีกรองๆ ลงไป ส่วนใหญ่ ก็ไม่เคยเตะกับนักเตะในพรีเมียร์ลีก

ดังนั้น พวกเขาจึงต้องเลือกตามความชอบส่วนตัวนั่นแหละ

ซึ่งไอ้ความชอบส่วนตัวเนี่ย มันก็มาได้จากทั้ง นักบอลที่เราชอบ, เพื่อนร่วมชาติ, คนที่เคยรู้จักกัน เป็นต้น

แล้วคนที่ชอบ จะเป็นใครไปได้ ถ้าไม่ใช่พวกนักเตะดังๆ นักเตะจากทีมที่เราชอบ หรือไม่ก็เพื่อนร่วมชาติ นักเตะทีมชาติตัวเอง

มันก็ง่ายๆ แค่นี้

สรุปให้ฟังแบบสั้นที่สุดอีกที ก็คือ นี่คือรางวัลที่มาจากความชอบส่วนตัว ไม่ได้มีหลักการสวยหรูอะไร อย่างที่คน อย่างที่สื่อเอาไปเชิดชูกันสักนิด

เรื่องเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว จึงคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า มีส่วนต่อคำตัดสิน

ซึ่งว่าตามตรง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะแม้ว่าโลกเราทุกวันนี้จะมีการเรียกร้องเรื่องสิทธิ และความเท่าเทียมกันอยู่ทุกหนแห่ง

แต่ถ้ามองตามความเป็นจริงหน่อย ทุกคนก็จะรู้ว่า ตราบใดที่เรายังเป็นคน มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่มีอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง

ทางที่ดีที่สุด จึงไม่ต้องไปใส่ใจหรือให้ค่าอะไรมากมายหรอก กับพวกรางวัลอุปโลกน์ทั้งหลาย ที่คิดที่ทำกันขึ้นมาเองแล้วเหมาว่าของตัวเองถูกต้องดีที่สุดเหล่านี้

คุณคิดว่า ซน ฮึง มิน เก่งหรือไม่ นั่นแหละคือคำตอบ.