“เตือนตัวเองว่าเก่งได้แต่อย่ากร่าง…รู้รับฟังไม่ใช่พล่ามเป็นน้ำไหล…อย่าหลงตนให้คนเขาเหนื่อยใจ…เจอบันไดถ้าขึ้นได้ ต้องลงเป็น”

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์มีคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันมาก แม้ว่าจะเกิดขึ้นคนละจังหวัด แต่คดีนี้มีความคล้ายกันมากในการลงมือ นั่นคือสภาพศพของเหยื่อหญิงสาวที่ถูกกระทำด้วยความโหดร้ายป่าเถื่อน โดนจับทรมานให้ไม่มีทางสู้ แถมยังห่อหุ้มร่างอำพรางศพอีกต่างหากด้วย

เหตุการณ์แรกอยู่ที่ จ.พัทลุง พบศพหญิงสาวถูกสังหารโหด มีบาดแผลถูกยิงเข้าตามร่างกายหลายจุด ก่อนจะถูกคนร้ายห่อศพด้วยผ้าปูที่นอน แล้วมัดด้วยเชือกให้แน่นหนา จากนั้นก็อุ้มมาทิ้งที่ริมคลองบ้านสะพานหยี หมู่ที่ 6 ต.นาโหนด อ.เมือง ท่ามกลางความตกใจตกใจของคนในพื้นที่ที่รับรู้ข่าวอย่างมาก

ไม่นานนัก เรื่องก็ไปถึงหูของ นางปรีดา เพชรรัตน์ อายุ 62 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าตัวได้ไปแจ้งความไว้แล้วก่อนหน้านี้ไม่กี่วันว่าลูกสาวหายตัวไปอย่างปริศนา ไม่สามารถติดต่อได้ ทันทีที่ได้เห็นสภาพศพ ผู้เป็นแม่ก็ร่ำไห้เสียงดังพร้อมกับเข่าที่ทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น

พอตั้งสติได้เล็กน้อยก็บอกเล่าทั้งที่น้ำตาคลอเบ้าว่า ผู้ตายคือลูกสาวของตัวเองชื่อ น.ส.จิราพร เพชรรัตน์ อายุ 28 ปี ซึ่งก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไปได้เข้ามาเล่าให้ฟังว่า โดนแก๊งทวงหนี้ข่มขู่หมายเอาชีวิต โทรฯ มาสั่งให้นำเงินที่เป็นหนี้อยู่ 6 หมื่นบาท มาคืนภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัย

“แม่ก็พยายามช่วยเหลือหาเงินทุกวิถีทางแล้ว ทั้งเงินของตัวเอง ทั้งจขอหยิบยืมคนอื่น แต่มันก็ไม่พอ จากนั้นลูกสาวแม่ก็หายตัวไปจริง ตอนนั้นแม่ใจไม่ดีแล้ว ห่วงจะเกิดอันตรายขึ้นกับเขา ตระเวนและติดต่อตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ กระทั่งมารู้อีกทีลูกแม่ก็กลายเป็นร่างไร้วิญญาณแล้ว ชุดสืบสวนแจ้งข้อมูลให้แม่ทราบว่า ลูกสาวแม่โดนแก๊งคนร้ายอุ้มขึ้นรถกระบะไป”

อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อมีคนพบศพถูกนำมาทิ้งไว้ในพงหญ้าริมถนนสายนาไคร้-มุกดาหาร บริเวณบ้านขุมขี้ยาง ใกล้กับทางเข้าวัดป่าราชพฤกษ์ ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ และคล้ายกับคดีแรกคือศพโดนห่อหุ้มด้วยผ้าปูเตียง แล้วมัดด้วยเชือกจนแน่นหนาเช่นกัน

เมื่อตรวจสอบก็พบว่า เป็นศพหญิงสาวอายุ 30-40 ปี สภาพเริ่มขึ้นอืด นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงยกทรง มือทั้งสองข้างยังถูกเชือกมัดไพล่หลังไว้ด้วย ที่สำคัญกว่านั้นมันไม่น่าจะเป็นการฆ่าให้ตายในทันที แต่น่าจะจับทรมานอย่างทารุณกรรมเสียก่อน

ร่างกายทั้งตัวของเหยื่อสาวฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด บริเวณใบหน้าก็ถูกของแข็งกระหน่ำทุบแบบไม่ยั้งจน ปูดบวม กะโหลกแตก ฟันทั้งปากเกือบจะหลุดร่วงออกมา แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมป่าเถื่อนเลือดเย็นผิดมนุษย์ปุถุชนทั่วไป รู้ชื่อต่อมาคือ น.ส.วาสนา วัย 41 ปี ช่างเสริมสวย

ฆาตกรเหี้ยมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ นายรณรัฐ อายุ 50 ปี เจ้าพนักงานสัตวบาลสำนักงานปศุสัตว์อำเภอใน จ.มุกดาหาร สามีนอกสมรสของเหยื่อนั่นเอง แถมตอนถูกจับกุมยังทำเป็นเฉยกลับไปทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วย

ทั้งคู่ต่างเคยมีครอบครัวแล้วมาคบหาเป็นสามีภรรยากันแบบไม่จดทะเบียนได้ประมาณ 1 ปี นายรณรัฐ มีพฤติกรรมหึงหวง ทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ตายบ่อยครั้ง เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตายก่อนหายตัวไป

ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ได้โทรศัพท์นัดผู้ตายออกมาพูดคุยตกลงกัน ให้ผู้ตายเข้ามานั่งพูดคุยกันในรถ ก่อนมีการปากเสียงทะเลาะกันเรื่องหึงหวง เพราะที่ผ่านมาโทรศัพท์ผู้ตายมีเบอร์โทรฯ แปลกๆ เข้ามาหาหลายครั้ง ด้วยความโมโหจึงบีบคอแล้วลากลงรถ จากนั้นก็จัดการทารุณกรรม ถึงขนาดเอาตะปูตอกหน้าผาก แล้วนำผ้าห่มมาคลุม ใช้เชือกมัดนำไปทิ้งบริเวณพงหญ้า

นี่เป็น 2 คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นคนละจังหวัด แต่พฤติการณ์คล้ายกันมาก ทำร้ายรุนแรงจนเหยื่อขาดใจตายแล้วห่อศพอำพรางคดี ได้แต่สลดหดหู่ใจและเวทนาที่ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยเวลาล่วงเลยมานานเท่าใด “ผู้หญิง”ก็มักตกเป็นเหยื่อทารุณกรรมไม่เปลี่ยนแปลงสักที.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

สติกเกอร์ฉีดวัคซีน
พ.ต.ท.กฤติเดช สุพรรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ชุมแพ มอบสติกเกอร์ให้แก่ข้าราชการตำรวจ สภ.ชุมแพ หลังได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครบทั้ง 2 เข็ม เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ข้าราชการตำรวจ แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม และเพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยและแสดงออกถึงความพร้อมในการปฏิบัติงาน ตลอดจนให้ความสำคัญและตอบสนองนโยบายของทางรัฐบาล ณ ห้องประชุม สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ
งานนี้ทำดีก็ต้องชม ตำรวจโรงพักศรีบุญเรือง กับกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดี ศรีสิมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 69 พรรษาที่บริเวณราชพัสดุบ้านนากอกคำ ม.20 ต.นากอก อ.ศรีบุญเรือง โดยมี พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายก อบต.นากอก กำนันตำบลนากอก ส.อบจ.หนองบัวลำภู เขตอำเภอศรีบุญเรือง ประชาชนจิตอาสา และข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมกิจกรรมปลูกป่าเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของทุกคน ที่จะต้องร่วมกันรณรงค์รู้จักใช้อย่างคุ้มค่าและต้องพยายามรักษาให้ยาวนานโดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมที่อยู่ใกล้ตัวเรา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นที่ตั้งของสถานีตำรวจภูธรศรีบุญเรือง ในสมัยเป็นกิ่งอำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดอุดรธานี บนเนื้อที่ 9 ไร่จำนวน 500 ต้น เราต้องช่วยกันบำรุงรักษาต่อไป

ชื่นชม
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เดินหน้าโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการตามยุทธศาสตร์ชาติ ของ สภ.เมืองศรีสะเกษ ในขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการฯ คลินิกกฎหมายฯ โดยร่วมกับผู้นำชุมชน/หมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ร่วมกันจัดทำประชาพิจารณ์ธรรมนูญหมู่บ้าน พบว่าชุมชน ต.ซํา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีความเข้มแข็งมาก ส่งผลให้โครงการประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นอย่างดี

ประชุมติดตามงาน
พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ, พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ร่วมประชุม “ประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการแบบบูรณาการ กรณีผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุ (โครงการนาคาพิทักษ์ รักษ์ประชา) ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ” ณ ห้องประชุม ศปก.ชั้น 2 ภ.จว.บึงกาฬ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง โดยมี นางสายวสันต์ สวยสมเรียม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ, นางพิกุลทอง สมตน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ, นายวีระ จิตบรรจง นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ, จ.อ.ธวัชชัย ทวีแสง เจ้าพนักงานป้องกันสาธารณภัย อบจ.บึงกาฬ, น.ส.กมลนิดายกานต์ หาญคำหล้า ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดบึงกาฬ ร่วมประชุม

***************************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ

โดย : บิ๊กสลีป