ไม่ต้องสงสัยว่า แมนฯ ซิตี กับ ลิเวอร์พูล คือตัวเต็งลุ้นแชมป์ในฤดูกาลหน้า

ทั้ง 2 ทีม ยกมาตราฐานขึ้นไปจนเหนือกว่าทีมอื่นอย่างเห็นได้ชัด จนอีก 18 ทีมถูกมองว่าไม่มีแม้แต่โอกาส

ไม่เว้นแม้แต่ เชลซี ที่ลุ้นมาทุกปี

แต่ซัมเมอร์นี้ถือว่าน่าสนใจ หลายทีมเสริมทัพน่าจับตา ผลงานอุ่นเครื่องก็ทำได้ดี

จึงเริ่มมองกันว่า อาจไม่ใช่แค่ “เรือใบสีฟ้า” กับ “หงส์แดง” เท่านั้น แต่เหล่า 4 คิงส์” ก็อาจมีลุ้นเช่นกัน

จะเป็นไปได้หรือไม่ ทีมใดจะมีโอกาสขึ้นมาเขย่าบัลลังก์ และจริงจังแค่ไหน เราไปวิเคราะห์กัน

ทอตแนม ฮอตสเปอร์
ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ “ไก่เดือยทอง” ของ อันโตนิโอ คอนเต เพราะเสริมทัพขนานใหญ่ ได้ผู้เล่นใหม่มาแล้วถึง 6 คน (และยังไม่หยุด) จนถูกยกให้เป็นเต็ง 3 ที่จะคว้าแชมป์ไปแล้ว

แข้งใหม่ 6 คน ที่เข้ามาถือว่าเข้าตา ทุกคนถูกซื้อมาโดยมีเป้าหมาย ต้องการใช้จริงๆ ไม่ใช่ซื้ออนาคตหรือซื้อไว้ก่อน

แถมแต่ละคนล้วนเป็นของดีมีเกรด ไม่ว่าจะเป็น อิวาน เปริซิช, เฟรเซอร์ ฟอสเตอร์, อีฟส์ บิสซูมา, ริชาร์ลิซอน, เกลมอง ลองเลต์ หรือ เจด สเปนซ์

รวมกับการรั้ง แฮร์รี เคน และ ซน ฮึง มิน ให้อยู่กับทีมต่อไปได้ จัดว่า สเปอร์ มีขุมกำลังที่ “ดีและใหญ่” ไม่เป็นสองรองทีมไหน

ผลงานในเกมอุ่นเครื่องอาจจะไม่ได้ยิงระเบิดเถิดเทิง แต่ก็ถือว่าดี และเหมาะสม ไม่เยอะ ไม่น้อย

ไล่ตั้งแต่ชนะรวมดาราเคลีก 6-3, เสมอ เซบีญา 1-1 และชนะ เรนเจอร์ส 2-1

ที่สำคัญคือ แฮร์รี เคน คมกริบ ยิง 5 ประตูจาก 3 เกม และยังประสานงานกับ ซน อย่างเข้าขารู้ใจ

ยิ่งมีโค้ชอย่าง คอนเต ผู้พาทีมคว้าแชมป์มาแล้วทั่วสารทิศ เป็นผู้นำทีม ทำให้ถ้าหากจูนกันติด และมีโชคดวงช่วยสักนิด

สเปอร์ อาจจะล้างอาถรรพ์ ที่ไม่ได้แชมป์มานานถึง 14 ปีลงก็เป็นได้

เชลซี
อาจจะเสียตัวหลักไปหลายคน แถมซื้อแข้งใหม่ช้า และ “แห้ว” ไปหลายคน แต่นักเตะใหม่ที่ได้มา 2 คนตอนนี้ ก็ล้วนเป็นของดีระดับขึ้นห้าง ไม่ว่าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง หรือ คาลิดู คูลิบาลี

เจ้าของใหม่อย่าง ท็อดด์ โบห์ลี ที่มาแทน “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช จึงเริ่มงานได้น่าสนใจ

อย่าลืมว่า เชลซี ก็ยังเป็น เชลซี ถึงไม่มี “เสี่ยหมี” แต่ โธมัส ทูเคิล ยังอยู่ และ โบห์ลี ก็ให้ความเคารพโค้ชเมืองเบียร์อย่างสูง

การตัดสินใจไฟนัลทุกอย่างอยู่ที่ ทูเคิล ทีมจึงยังไม่มีปัญหา สามารถเดินหน้าต่อไปโดยไม่สะดุด

ปัญหาคือฟอร์มในเกมอุ่นเครื่องไม่ดีนัก ชนะ คลับ อเมริกา 2-1, เสมอ ชาร์ลอตต์ 1-1 (ยิงจุดโทษแพ้ 3-5) และโดน อาร์เซนอล ถล่มเละ 4-0

ทูเคิล จึงชักเครียด เพราะทีมไม่ลงตัวสักอย่าง นักเตะหลายคนก็ยังมีโอกาสย้าย

ขณะที่ขาเข้าก็ยากเย็นแสนเข็น ไม่เหมือนยุคเสี่ยหมี ที่อยากได้เท่าไหร่ก็พร้อมจ่าย

แต่ทีมพื้นฐานดีอย่าง เชลซี เชื่อเถิดว่าอีกไม่นาน พวกเขาก็พลิกสถานการณ์กลับมาได้ และน่าจะมีอะไรฮือฮาให้เราเห็นเป็นแน่

ยิ่งปีนี้ ทูเคิล รู้จักทีมดีขึ้น รู้แล้วว่าเคยพลาดตรงไหน ต้องแก้ไขยังไง ทำให้ใครก็ประมาทไม่ได้

สิงห์สำอางจึงจะยังคงเป็นอีกทีมที่ได้ลุ้น แต่ยืนระยะได้นานแค่ไหน ต้องติดตาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เกิดการเปลี่ยนแปลงเยอะ โดยเฉพาะโค้ชที่ได้ เอริค เทน ฮาก เข้ามาคุมทีมเต็มตัว

เมื่อเปลี่ยนเฮดใหญ่ หลายอย่างในทีมต้องเปลี่ยนเป็นปกติ ผีแดงปีนี้จึงคาดเดาลำบาก

ถ้าแนวทาง เทน ฮาก เวิร์ค นักเตะเอาด้วย เสริมทัพเข้าตา พวกเขาอาจจะกลับมากระฉูด แต่ถ้าเป็นตรงข้าม ก็ตัวใครตัวมัน และคงต้องหา “ทายาทอสูร” กันต่อไป

การเสริมทัพในช่วงแรกๆออกตัวช้าค่อนข้างช้า ไม่ทันใจแฟนบอล แต่พอเริ่มได้ก็มารัวๆ

ตอนนี้เซ็นไปแล้ว 3 คนคือ ไทเรลล์ มาลาเซีย, คริสเตียน อีริคเซน และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ อีกยังเชื่อว่าจะมีเข้ามาอีกหลายคน

ที่น่าสนใจ และเป็นคำถามสำคัญก็คือ คริสเตียโน โรนัลโด จะอยู่กับทีมต่อหรือไม่ ตอนแรกเหมือนจะไป ต่อมาบอกไม่ไป แต่ตอนนี้ยังไม่แน่

กระนั้น เทน ฮาก ยืนยันว่าตลอดว่า “พี่โด้” อยู่ในแผนทำทีม จึงน่าจะรั้งจนถึงที่สุด ซึ่งถ้ารั้งได้จะถือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีทีมที่ใช้ได้เหมือนกัน

ทีมที่พื้นฐานดีอย่างผีแดงไม่เคยตกต่ำนาน ถ้ากวาดตาดูขุมกำลังที่มี ถึงเคยเล่นไม่ค่อยดี แต่ว่าแต่ละคนล้วนเป็นนักเตะชั้นยอด

ถ้าหาก เทน ฮาก ดึงศักยภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้พวกนี้กลับมาเล่นดีได้ ผีแดง ไม่ต้องเสริมเยอะ ก็มีลุ้นแล้ว

ฟอร์มช่วงปรีซีซั่นก็ถือว่าดีมาก ไล่ตั้งแต่ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0, ชนะ เมลเบิร์น วิคตอรี 4-1, ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 ก่อนจะโด วิลลา ตีเสมอ 2-2

เกมอุ่นเครื่องอาจไม่มีคะแนน แต่สิ่งที่ได้คือความเชื่อมั่น ทรงการเล่นที่ เทน ฮาก และลูกทีมทำให้เห็น แสดงชัดว่า เขามีแนวทาง และนักเตะก็เอาด้วย

ข้อดีในข้อเสียอีกอย่างคือแฟนบอลไม่คาดหวังสูงนัก จึงไม่กดดันเท่าไหร่ พอมีเวลาให้หายใจหายคอ ถ้าพลาดก็ยังมีโอกาสแก้ไข

ผีแดงจึงอาจเป็นม้ามืดที่มีลุ้นเงียบๆ

อาร์เซนอล
แม้ถูกมองว่ามีโอกาสน้อยที่สุดในบรรดา “บิ๊ก 6” แต่ผลงานในเกมอุ่นเครื่องถือว่าดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะชนะรวดทุกนัดแบบยิงกระจุยกระจาย

ตั้งแต่อัด เนิร์นแบร์ก 5-3, ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0, ชนะ ออร์แลนโด ซิตี 3-1 และถล่ม เชลซี 4-0

มิเคล อาร์เตตา มีแนวทางที่ชัดเจน และสโมสรเอาด้วย อาร์เซนอล จึงน่ากลัวขึ้นทุกปี เพราะ อาร์เตตา บ่มเพาะนักเตะ และทีมที่เขาเชื่อมั่น จนเข้าที่มากขึ้นเรื่อยๆ

ถามว่ามีลุ้นแชมป์หรือยัง แม้แต่ “กันเนอร์ส” ก็คงบอกว่า “ยัง”

แต่ที่แน่ๆก็คือ พวกเขาจะสู้จนถึงที่สุด และทำเต็มที่ ซึ่งนี่แหละที่น่ากลัว เพราะพวกเขาไม่กลัวใคร และเชื่อมั่นในตัวเองเต็มที่

การจัดการทีมก็น่าสนใจ อาร์เตตา ใช้เวลาปั้นจนกำลังจะได้ทีมที่ต้องการ เขาหั่นพวกไม่อยู่ในแผน ที่ค่าเหนื่อยเยอะๆออกไปได้หมด ทดแทนด้วยนักเตะที่คุ้นเคย มีศักยภาพที่พัฒนาได้ นี่จึงเป็นทีมดาวรุ่งที่น่าจับตามากๆ

ตัวใหม่ที่เข้ามา หลายคนอาจโนเนม แทบไม่มีคนรู้จัก แต่ล้วนมีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น ฟาบิโอ วิเอรา หรือ มาร์ควินยอส ขณะที่ แมตต์ เทอร์เนอร์ ก็เอามาสำรองโกล์อยู่แล้ว

แต่ที่ต้องจับตามองก็คือ กาเบรียล เชซุส ที่ยิงระเบิดในเกมอุ่นเครื่อง และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ที่เล่นได้หลายตำแหน่ง และรู้มือกับ อาร์เตตา ตอนอยู่ แมนฯ ซิตี

อาร์เซนอล จึงเป็นอีกทีมที่ประมาทไม่ได้ และอย่างน้อยก็จะมีลุ้นเบียด “ท็อป 4” จนถึงที่สุด.