ว่ากันว่า ฟุตบอลลีกยุโรป ซีซั่น 2022-23 น่าจะเป็นหนึ่งในซีซั่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดซีซั่นหนึ่ง ทั้งการขับเคี่ยวในลีกใหญ่ ไหนจะมีฟุตบอลโลกรออยู่กลางฤดูกาลอีก เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่แฟนบอลน่าจะแฮปปี้

แล้วสำหรับนักเตะล่ะ…?

ธรรมดาก็มีคิวเตะถี่ยิบอยู่แล้ว การมีฟุตบอลโลกมาโผล่กลางซีซั่น นอกจากจะทำให้เวลาพักเหลือน้อยลงแล้ว โปรแกรมเตะก็ยิ่งถี่ขึ้น…

ก่อนม่านของฤดูกาลใหม่จะถูกดึงขึ้น มีการคำนวนว่า ความเป็นไปได้ที่นักเตะคนหนึ่งจะลงสนามมากที่สุด ตลอดช่วงฤดูกาล 2022-23 นั้น อยู่ที่ 76 เกม…!!!

ความเป็นไปได้อยู่ที่นักเตะระดับทีมชาติของสโมสรในพรีเมียร์ลีก ที่ต้องลงเล่นในถ้วย ยูโรป้า ลีก…

38 เกมในลีก บวก 8 เกมในถ้วย เอฟเอ คัพ 6 เกมคาราบาว คัพ เกมทีมชาติช่วง ฟีฟ่า เดย์ 2 นัด บวกกับ 7 เกมในฟุตบอลโลกกรณีเข้าชิง รวมเป็น 61 เกม

บวกกับเกมใน ยูโรป้า ลีก ที่ต้องเตะแบ่งกลุ่ม 6 นัด ถ้าเข้าเป็นรองแชมป์กลุ่ม ต้องเพลย์ออฟอีก 2 นัด รวมรอบน็อคเอาต์ไปถึงรอบชิงอีก 7 นัด รวมเป็น 15 นัด บวกกับ 61 เกมข้างต้น เป็น 76 นัด…

ยิ่งเป็น เวสต์แฮม ที่ต้องเตะเพลย์ออฟรอบ 3 ในถ้วยยูโรป้า ลีก ทำให้ต้องบวกเพิ่มอีก 2 นัด ซึ่ง ดีแคลน ไรซ์ กับ จาร็อด โบเวน คือ 2 แข้ง “ขุนค้อน” ที่อยู่ในข่ายทีมชาติ

ยังดีที่ ไรซ์ ติดโทษแบนในเกมเพลย์ออฟทั้ง 2 นัด แต่กับ โบเวน นั้น หากเขาลงทุกเกมทั้งสโมสรและทีมชาติ โดยที่ เวสต์แฮม เข้าถึงรอบชิงฟุตบอลถ้วยทุกรายการ เขาจะต้องลงเล่นถึง 78 นัด…!!!

เอาแค่ตัวเลข 76 เกม มาแตกเฉลี่ยแล้วคือต้องเตะทุก ๆ 4 วันต่อเนื่องกันเป็นเวลา 10 เดือนเต็ม

บางคนบอกว่ามันคงไม่ตะบี้ตะบันลงทุกนัด ก็ใช่ แต่นี่คือการเอาตัวเลขมาตีแผ่ในเชิงสัญลักษณ์ว่าเกมฟุตบอลระดับสูงทุกวันนี้ มันรีดพลังของคน ๆ หนึ่งมากขนาดไหน

ดังนั้น เราอาจไม่แปลกใจ หากนักเตะในยุคนี้ จะแขวนสตั๊ดเร็วกว่านักฟุตบอลยุคก่อน…

ผยองเดช