เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ปัจจุบันผมอายุ 69 ปี มีโรคประจำตัว คือโรคหัวใจ เป็นมา 4 ปี ได้ผ่านการทำบอลลูนมาแล้ว 1 ครั้ง และตอนนี้ก็ยังรับประทานยา ชื่อยาที่รับประทานประจำทุกวัน ได้แก่ Enapril 5 มิลลิกรัม, Aspirin 81 มิลลิกรัม, Isosorbide dinitrate 10 มิลลิกรัม และ Zimmex 40 มิลลิกรัม และเมื่อหลังปีใหม่ 2565 ผมเริ่มมีอาการทางอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ และมีอาการหลั่งเร็วผิดปกติจนไม่สามารถร่วมเพศได้ จึงอยากเข้ามาขอคำแนะนำจากหมอว่าจะมีการรักษาให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ตามปกติเหมือนเดิมได้ไหม แม้อายุเยอะแต่ผมก็ยังมีความต้องการอยู่

ด้วยความนับถือ
ประภาส 69

ตอบ ประภาส 69

ชายวัย 69 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ ได้ทำการรักษาด้วยการทำบอลลูน และรับประทานยาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 4 ปีเศษ ปัจจุบันมีอาการแทรกซ้อนของโรคหัวใจก็คืออาการอีดี คืออวัยวะเพศไม่แข็งตัว และอาการหลั่งเร็ว การรักษาอีดีในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นอย่างมาก การรักษาอาการอีดีของชายวัย 69 ปี จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์โดยตรงและทำการตรวจอย่างละเอียดซึ่งผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีการใช้ยากลุ่มไนเตรท ไม่สามารถใช้ยาเฉพาะกิจในการฟื้นฟูอาการอีดีได้ถือเป็นข้อห้าม เพราะฤทธิ์ของยาเฉพาะกิจจะไปเสริมฤทธิ์ของยาในกลุ่มไนเตรททำให้ความดันเลือดลดต่ำลงมากจนอาจช็อก
และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่อหัวใจวายเฉียบพลันแล้วไม่รู้ตัว

การรักษาอาการอีดีในผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงและมีประสิทธิผลควรได้รับการรักษาด้วยการฟื้นฟูเส้นเลือดด้วยการทำให้มีการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ เมื่อมีจำนวนเส้นเลือดใหม่มากขึ้นก็จะส่งผลให้มีเลือดไหลเข้าองคชาตเพิ่มมากขึ้นตามมา การแข็งตัวก็จะเกิดได้เต็มที่สามารถคงการแข็งตัวได้นาน เมื่อการแข็งตัวฟื้นกลับมาได้เหมือนเดิมอาการหลั่งเร็วที่เป็นอยู่ก็จะดีขึ้นนานขึ้นตามมาทีหลัง

นอกจากนี้วิธีการช่วยนำเลือดไหลเข้ามาในเส้นเลือดในองคชาตได้ง่ายและเร็วก็ส่งผลให้กล้ามเนื้อเพศได้รับออกซิเจนการ
แข็งแรงของกล้ามเนื้อเพศก็จะพลอยแข็งแรงขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นตามมาอีกขั้น วิธีนี้เหมาะสมกับผู้ป่วยกลุ่มที่น่าเห็นใจเป็นครอบครัวนี้
กำลังลำบากใจกันมากที่สุดปัญหาต้องแก้ไขให้ดีขึ้นเร็วที่สุดยิ่งช้าก็จะยิ่งแตกร้าวกันจนมีโอกาสหย่าร้างกันอย่างแน่นอน ข้อห้ามอย่าอ่อนไหวง่ายไปหาซื้อยากินเอง จะมีอันตรายโดยไม่รู้ตัว

———————–
ดร.โอ สุขุมวิท 51