@@…สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐสภาได้ถกร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา จำนวน 13 ฉบับ โดยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอ 1 ฉบับ พรรคร่วมฝ่ายค้าน 4 ฉบับ และพรรคร่วมรัฐบาล 8 ฉบับ ที่ต่างฝ่ายก็จับตาว่าสุดท้ายแล้วการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะเดินไปได้สุดทางแค่ไหน และใครจะได้ประโยชน์ที่แท้จริง ระหว่างพรรคการเมือง หรือประชาชน

@@…ซึ่งในการอภิปรายฯ ครั้งนี้ “ส.ว.วันชัย” โชว์ฝีปาก สับ ส.ส.เห็นแค่ประโยชน์ส่วนตนไม่มีใครเห็นประโยชน์ประชาชนจะได้รับ  โดยนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ชี้ให้เห็นถึงสาระที่น่าสนใจสะท้อนภาพรวม ว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกร่างที่หลายพรรคการเมืองเสนอแล้ว สรุปสาระสำคัญแบบจี๊ดๆ ว่า เรื่องระบบการเลือกตั้ง พรรคเล็กจะหายไป พรรคใหญ่จะผงาด ลดบทบาทภาคประชาชน มีอิทธิพลล้วงลูกและก้าวก่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องงบประมาณและระบบข้าราชการประจำ 

@@…เรื่องปิดสวิตช์ ส.ว. ในเรื่องนี้ ส.ส.หลายคนที่เสนอเรื่องดังกล่าวนั้น “กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง”ทำทีเรียกร้องประชาธิปไตย เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ ส.ว.นอกจากนี้ ส.ว.วันชัย” ได้ตอกย้ำด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของประชาชนสักเท่าไหร่ แต่เป็นเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง เป็นการเอาชนะคะคานกันทางการเมือง และมีเป้าใหญ่ คือ ระบบเลือกตั้ง มองว่าใครจะได้จำนวน ส.ส.มากกว่ากัน มองถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดในครั้งหน้า 

@@…ทั้งที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ในเรื่องพรรคการเมือและระบบเลือกตั้ง ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง ให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรค ทุกคะแนนของประชาชนมีราคา ไม่ทิ้งน้ำ ทำให้ประชาชนได้คนรุ่นใหม่และพรรครุ่นใหม่ แต่ตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอกันมานั้น จะทำให้พรรคขนาดเล็กหายไป บทบาทของภาคประชาชนที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 หมดไปไม่เหลือซาก  นายทุนพรรคจะครอบงำพรรค รวมถึงคนที่มีเงินมีอำนาจจะมีบทบาททางการเมือง พรรคการเมืองจะเป็นเหมือนกับบริษัท ขณะที่ส.ส.และลูกพรรคจะเป็นเสมือนพนักงานบริษัท ธุรกิจการเมืองจะกลับมาอีก และเรากำลังปิดสวิตซ์คนเล็กคนน้อยหรือคนยากจนไม่ให้ได้เข้ามามีบทบาททางการเมือง 

@@…งานนี้ทำให้บรรดา ส.ส.ต่างออกมารุมสับ ส.ว.วันชัย กันอย่างดุเดือด เพราะมันเสียดแทงใจดำ จึงต้องจับตาดูกันต่อไปให้ดีว่า เกมแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ สุดท้ายประชาชนจะถูกนักการเมืองข่มขืนใจให้ใช้ เพียงเพื่อสนองตันหาทางการเมืองหรือไม่

@@…แต่ที่แน่ๆ “ผู้พันบานเย็น” เห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเป็นชนวนให้เกิดวิกฤติสร้างปัญหาให้กับ รัฐบาลเรือเหล็ก ซ้ำ และอาจจะเป็นกลายเป็นเชื้อไฟให้ม็อบที่ปลุกๆ กันอยู่รุกโชนขึ้นได้อีก เพราะประชาชนสุดจะทนกับบรรดาพวกนักการเมืองกลิ้งกลอก ไม่จริงใจ ประกอบกับการแก้ปัญหาโควิดล้มเหลวไปทุกขณะ เพราะยอดคนติดเชื้อ และยอดตายเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเขตเมืองอย่าง กทม.ลามหนักจนเตียงไม่พอที่จะรับ คนป่วยต้องรอคิวหาเตียงกันให้จ้าละหวั่น โกลาหลกันอีกระลอก จนสาธารณสุข ศบค.ต้องรับแผนกันใหม่ เพื่อรองรับให้ทันต่อสถานการณ์ สวนทางที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตั้งเป้า 120 วันเปิดประเทศ ต้องมาลุ้นกันว่า รัฐบาลจะหาทางลอดต่อลมหายใจกับอาการโคมาครั้งนี้ไปได้ยาวแค่ไหนหรือจะถอดปลั๊กกันได้เมื่อไหร่?  

@@…จบเรื่องร้อนๆ มาดูกิจกรรมเหล่าทัพกันบ้างเริ่มที่…@@…ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วม ทั้งนี้ก่อนการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้มีการประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร โดยมีประเด็น เรื่องการฝึก Cobra Gold 2021 ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ยังระบาดอยู่ขณะนี้ จะทำให้ไม่สามารถดำเนินการฝึกเต็มรูปแบบได้ จึงได้หารือร่วมกับฝ่ายสหรัฐ และได้ปรับรูปแบบการฝึก ลดจำนวนกำลังพลเข้ารับการฝึก 

@@…มีกำหนดการฝึกดังนี้ กลุ่มการฝึกการควบคุมบังคับบัญชา จัดฝึกระหว่างวันที่ 2-13 ส.ค.2564 ได้แก่ การฝึกฝ่ายเสนาธิการ ที่อาคารม้าแดงกองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ (กบร.กร.) และการฝึกสงครามเครือข่าย (Cyber–X) ที่อาคาร Joint Movement Control Center กบร.กร

@@…ขณะที่กลุ่มการฝึกการช่วยเหลือประชาชน จัดฝึกระหว่างวันที่ 12 ก.ค.-12 ส.ค.2564 ได้แก่ การฝึกการแก้ปัญหาบนโต๊ะในหัวข้อการช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติ ที่โรงแรมสิรินพลา จ.ระยอง และโครงการก่อสร้าง 1 โครงการ ที่โรงเรียนบ้านใหม่ไทยพัฒนา จ.สระแก้ว ส่วนกลุ่มการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล จัดฝึกระหว่างวันที่ 2-13 ส.ค.2564 ณ พื้นที่ จ.กระบี่ จ.เชียงใหม่ จ.ลพบุรี และ จ.ระยอง รวมถึงการฝึกกวาดล้างทุ่นระเบิดและการทำลาย ที่ จ.สุรินทร์

@@…อย่างไรก็ตาม พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมว่า ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ความสำคัญกับมาตรการพิทักษ์พลภายใต้สถานการณ์โควิดในขณะนี้ กำชับให้ทุกหน่วยยังคงรักษาระดับมาตรการป้องกันโรค ทั้งในระดับหน่วยทหารและกำลังพลอย่างจริงจังและเข้มงวดต่อไป เพื่อให้มีความปลอดภัยและมีความพร้อมในการปฏิบัติทุกภารกิจโดยเฉพาะการดูแลช่วยเหลือประชาชน กองทัพบกได้มอบให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทบ.พิจารณาวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงกลาโหมและรัฐบาลนำไปฉีดให้กับทหารใหม่อย่างครบถ้วนเพื่อลดการสูญเสียกำลังพล โดยทหารกองประจำการผลัด 1/2564 ที่จะเข้ามารายงานตัวในหน่วยฝึกทหารใหม่ระหว่าง 1-3 ก.ค.นี้

@@…พล.ต.ไพศาลหนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อม หน่วยฝึกทหารใหม่ จำนวน 3 กองพัน ได้แก่ กองพันทหารราบที่1 กรมทหารราบที่ 152, กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 152 และ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 พร้อมทั้งได้รับฟังบรรยายสรุป พร้อมทั้งชมการสาธิตขั้นตอนการปฏิบัติในการรับทหารใหม่ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ตลอดจนให้คำแนะนำ ในการปฏิบัติต่างๆ กับผู้ฝึกทหารใหม่โดยให้ยึดถือกรอบนโยบายในการฝึกทหารใหม่ของผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น โดยจะต้องไม่มีการสูญเสียจากการฝึกเป็นอันขาด

@@…พล.อ.อ.แอร์บูล  สุทธิวรรณ ผบ.ทอ.เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงและมังคลาภิเษกพระรูปจำลอง จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ พระบิดาแห่งกองทัพอากาศ ประกอบพิธี ณ พระอนุสาวรีย์พระบิดาแห่งกองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ

@@…พล.ร.อ.ชาติชาย  ศรีวรขาน ผบ.ทร.เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งลงน้ำ (เรือ ต.997-ต.998) ณ อู่ต่อเรือ บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน) ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยมี นางจุฬารัตน์  ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ในฐานะภริยาผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำ

………………..
ผู้พันบานเย็น