4 ปีก่อนที่เมืองรอสตอฟ ออน ดอน ประเทศรัสเซีย เกมฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม บราซิล เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 วันนั้นผมนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ที่ รอสตอฟ อารีนา ด้วย (จำได้ว่าเกือบตกรถไฟ หวิดได้นอนข้างถนนแถวนั้นเสียแล้ว)  

ไม่น่าเชื่อว่า จำเนียรกาลผ่านไป 4 ปี ผมได้นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ดู “แซมบ้า” โคจรมาเจอกับทัพนักเตะจากแดนนาฬิกาอีกครั้ง แต่คราวนี้ย้ายสังเวียนมาเตะกันที่ สเตเดี้ยม 974 ในกาตาร์​ 

จากที่ได้เคยสัมผัสเมื่อ 4 ปีก่อน ผมเคยพูดไว้ว่า “แฟนบอลบราซิลไปที่ไหนไม่เคยไม่สนุก” และมาถึงคราวนี้ ความรู้สึกก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม 

และด้วยบรรยากาศของ สเตเดี้ยม 974 ที่อยู่ติดทะเล ทำให้มีลมเย็น ๆ พัดมาตลอดเวลา อีกทั้งตัวสนามที่มีเอกลักษณ์ ไม่รู้เกี่ยวกันมั้ย แต่ตอนอยู่หน้าสนามก่อนเกม ผมเห็นอะไรก็เป็นได้ยิ้มไปหมด เพราะแฟนบอลแซมบ้ามาแบบ “เต็มคาราเบล” ทั้งเรื่องการแต่งตัวและความคึกคัก 

เท่าที่ได้คุยกับหลายคนก่อนเกม แฟนบอลบราซิลส่วนใหญ่บอกว่า no Neymar No Problem แต่เอาเข้าจริง รูปเกมในครึ่งแรกทำให้พวกเขาอาจจะคิดถึงดาวยิง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขึ้นมาติดหมัด เกมรุกของพวกเขาดูติด ๆ ขัด ๆ ไปหมด แม้กระทั่งไฟสนามยังดับไปแป๊บนึงเลย!

แต่พอครึ่งหลัง ติเต (หรือที่คนบราซิลเรียก ชีชี่) ปรับสปีดให้เร็วขึ้น โอกาสก็เริ่มหลั่งไหลมา จนกระทั่งมาได้จากลูกยิงงามหยดของ คาเซมิโร

นาทีนั้น แฟนบอลบราซิลที่มากันราว 60-70 เปอร์เซ็นต์ของความจุ พร้อมใจกันลุกขึ้นร้องเพลงเชียร์กระหึ่ม แถมยังพากันกระทืบเท้า ทำเอาพื้นอัฒจันทร์​ตรงที่นั่ง ซึ่งไม่ใช่คอนกรีตแต่เป็นวัสดุมวลเบานั้น สั่นไหวน้อย ๆ พร้อมเสียงที่ดังสนั่น

เป็นความเมามันของแฟนบอลที่เต็มไปด้วยแพสชั่นที่หาได้ในแฟนบอลไม่กี่ชาติ และโดยส่วนตัวแม้ไม่ได้เชียร์บราซิล แต่ก็อยากให้พวกเขาเข้ารอบลึก ๆ 

แฟนบอลที่เต็มไปด้วยสีสันที่แท้ทรู อย่างแฟนบอลแซมบ้า ถ้าต้องกลับบ้านเร็ว คงเป็นอะไรที่น่าเสียดาย…

ผยองเดช