การได้มาปฏิบัติงานภาคสนามในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับศึกเวิลด์คัพ แน่นอนว่าการได้เข้าสนามไปสัมผัสบรรยากาศของเกมคือเป้าหมายอันดับหนึ่ง
แต่สำหรับผมนั้น การได้สัมผัสกับบรรยากาศของแฟนบอลที่มาจากทั่วทุกมุมโลก คืออีกหนึ่งความสนุกอย่างที่ใครที่มีโอกาสได้มานั้นไม่ควรพลาดด้วยประกาศทั้งปวง
ถ้าคุณมีโอกาสได้มาชมเกมฟุตบอลโลก เผื่อเวลามาให้ถึงสนามก่อนสักนิด เพื่อให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของแฟนบอลหน้าสนามสักอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยเดินขึ้นอัฒจันทร์ นั่นแหละจึงจะเรียกได้ว่า คุณได้สัมผัสบรรยากาศฟุตบอลโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ที่ผ่านมา ว่ากันว่าถ้าจะนึกถึงแฟนบอลที่มีสีสัน สนุกสนาน คุณอาจนึกถึงแฟนบอลบราซิล หรือ เนเธอร์แลนด์ หรือถ้าเชียร์กันแบบทุ่มเทไม่หยุดตลอดทั้งเกม ก็อาจถึงถึงแฟนบอลญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
แต่ถ้าจะให้นึกถึงแฟนบอลที่เชียร์ทีมด้วย “แพสชั่น” ล้วน ๆ เท่าที่ได้สัมผัสมาด้วยตัวเองตั้งแต่ฟุตบอลโลก 4 ปีก่อนมาจนถึงเวิลด์คัพฉบับทะเลทรายหนนี้ ผมยกให้แฟนบอลของทัพ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา
ฟุตบอลโลก 4 ปีก่อนผมได้มีโอกาสไปดู อาร์เจนตินา 2 นัด (แพ้ทั้ง 2 นัด แหะแหะ) มาคราวนี้ ผมได้ไปดูมนต์แข้ง “ฟ้าขาว” ไปแล้วอีก 3 นัด (แพ้ 2 ชนะ 1) สิ่งที่เห็นด้วยตาเปล่าคือแฟนบอลของพวกเขาเนรมิตให้ทุกสนามให้เป็นเหมือน “รังเหย้า” ของตัวเองได้ทุกนัด
ไม่ว่าฟุตบอลโลกจะเล่นที่ไหน แฟนบอล “ฟ้าขาว” จะแห่ตามไปเชียร์ทีมกันมืดฟ้ามัวดิน แทบทุกเกม 95 เปอร์เซ็นต์ของอัฒจันทร์ถูกฉาบไปด้วยสีฟ้าขาว
และเมื่อมีใครสักคนเป็นต้นเสียงขึ้นเพลงเชียร์เพลงไหนมา แฟนบอลฟ้าขาวทั้งหมดในสนามก็จะร่วมใจกันแหกปากตะโกนไปพร้อม ๆ กัน พลางกระทืบเท้าเพิ่มความสั่นสะเทือน
จำได้ว่าได้ดูอาร์เจนตินา ในสนามครั้งแรก ผมถึงกับขนลุกของแพสชั่นของกองเชียร์ “ฟ้าขาว” และในเกมกับออสเตรเลีย ผมก็ยังรู้สึกอย่างนั้นอยู่
เพราะ “แพสชั่น” มันมาเต็ม จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม เมสซี และขุนพล “ฟ้าขาว” จึงวิ่งเป็นม้าแบบนั้น…
ผยองเดช