ในที่สุด!! ประเทศไทยก็ทำสถิติติดเชื้อไวรัสโควิดทะลุ 1 ล้านคน ไปเป็นที่เรียบร้อยกันแล้ว แม้จะอยู่ในอันดับที่ 33 จากกว่า 200 ประเทศทั่วโลกที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด สูงสุด ก็ตาม

แต่ที่น่าสนใจ!! คือจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยทุกวัน…ทุกวัน… ก็ทำให้ประเทศไทยเราก็ติดอันดับ “ท็อปเท็น” ของประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น มากที่สุดในโลก โดยแต่ละวันอันดับก็จะปรับขึ้นลงไปบ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งโลก ก็ไม่ต้องพูดถึง ทะลุไปแล้วว่า 211 ล้านราย  ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ก็มีกว่า 6.84 แสนคน ส่วนผู้ที่เสียชีวิตก็มีมากกว่า 4 ล้านคน

ต่อให้บางประเทศใช้วิธีล็อกดาวน์ นานหลายเดือน เช่นเดียวกับไทย แต่สถานการณ์การติดเชื้อก็ยังไม่สิ้นสุด ต่อให้มีการฉีดวัคซีนกันถ้วนหน้า แต่สุดท้ายก็ยังสามารถกลับมา “ติดเชื้อ” ได้อีก

ไม่ต้องพูดถึงประเทศไทย!! ที่ยัง “ยักแย่ยักยัน” กันอยู่กับปัญหาเรื่องการกระจายวัคซีน ที่ยังไม่ทั่วถึง แม้กระทั่งเข็มแรก!! ก็มีคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ได้รับ ส่วนพวก “เหลือบลิ้นไรที่แฝงตัวมารับเข็ม 3 เข็ม 4 แบบหน้าด้าน ๆ ก็ยังคงมีข่าวให้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ

เอาเข้าจริง … แม้ไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับวิถีของคนไทย เพราะความ “เหลื่อมล้ำ” นั้นมีอยู่สูง จนยากที่จะแก้ไขให้หมดไปได้ ไม่ต้องพูดถึง “รายได้” หรอกนะ แต่ก็มีให้เห็นอยู่ในทุกเรื่อง โดย “วีไอพี” ก็มักได้รับสิทธิก่อน “ตาสี…ยายสา” อยู่ร่ำไป

เพียงแต่ว่ากรณีไหนที่มัน “เกินเหตุ” ก็ต้องนำมาแฉ นำมาประจาน กันให้เห็นกันบ้าง แต่สุดท้าย!! เหตุการณ์ก็หายวับเข้ากลีบเมฆไป เหลือแต่ “ความชอกช้ำ” ให้ใครต่อใครอีกมากมาย

ด้วยพิษร้ายของโควิดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยที่บอกกันว่า “เผาจริง” ไปเมื่อปีที่แล้ว กลายเป็นเรื่อง “ไม่จริง” ไปซะแล้ว แม้จีดีพีจะติดลบสูงถึง 6.1% ก็ตาม

ก็เพราะ…สถานการณ์การติดเชื้อในปีนี้ ตั้งแต่ระลอกเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำลายชีวิตคนไทยแบบไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้มาก่อน และยังเป็นการทำลายที่สร้างความน่า “สังเวช” ด้วย เพราะมีผู้เสียชีวิตตายคาบ้าน ตายบนท้องถนน

แม้หลายสำนักวิจัยต่างปรับลดคาดการณ์จีพีดี ปี 64 นี้ให้เติบโตได้ไม่เกิน 1% หรือบางเจ้ามองไปไกลจนติดลบที่ 0.5% 1% หรือ 2% ก็ตาม แต่เชื่อเถอะ…ในความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้มันเท่ากับ “เผาจริง” จริง ๆ

อย่าลืมว่า ไม่ใช่เพียงแค่ “ความรู้สึก” เท่านั้น แต่สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ ไม่ใช่เพียงแค่ผลของไวรัสโควิดเท่านั้น ยังมีกระแสการเมืองเข้ามาทับถม จากการชุมนุมเรียกร้องกันทุกวัน…ทุกวัน

การยั่วยุ ให้เหตุการณ์ในแต่ละวัน ที่ทำให้เห็นว่าผู้ที่มีหน้าที่ “ปราบปราม” ต้องใช้ยุทธวิธี ที่อาจมองได้ว่า “ร้ายแรง” เพื่อบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนคนไทยในทุกทาง

ถามว่า? ในทุกวันนี้ ก็มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เริ่ม “เอือม” เริ่มเบื่อหน่าย จากการใช้ชีวิตแบบธรรมดา ๆ ไม่ได้ แถมมีคนเสียชีวิต จากการเข้าไม่ถึงการรักษา แบบเท่าเทียม การเอือมระอากับการบริหารงานที่ไม่เห็นแสงสว่าง

เมื่อผนวกบวกรวมกับ “ความรุนแรง”ที่เห็น!!! ยิ่งเท่ากับว่า เป็นการเพิ่มความเบื่อหน่าย ความเอือมระอา เข้าไปในความรู้สึกเข้าให้อีก

เรื่องเศรษฐกิจก็เรื่องหนึ่ง เรื่องการรักษาชีวิต ก็เรื่องหนึ่ง เรื่องปากท้องก็เรื่องหนึ่ง ตราบใดที่ผู้บริหารประเทศ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ยังทัดทานไม่ได้ ยังเอาไม่อยู่ ยังไม่สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการฉีดวัคซีน การกระจายวัคซีน

จะยิ่งเพิ่ม “ความอึดอัด” ให้กับประชาชนคนทั้งประเทศ อย่าลืมว่า ทุกวันนี้ “ตัวแปร” กำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ จากเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ไปเป็นสายเดลต้า แม้อาจารย์หมอ อาจารย์แพทย์ ได้ปรับวิธีฉีดวัคซีนมาเป็นแบบไขว้ เพื่อต้านทานเดลต้าให้ได้

แม้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ต่างช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน หรือแม้แต่การปรับวิธีการบริหารจัดการ “เตียง” ให้เพียงพอ แต่อย่าลืมว่า ปัญหาใหม่กำลังจะเกิด โดยเฉพาะกับคนที่ฉีดวัคซีนไปแล้วครบ 2 เข็ม กลับกลายเป็นว่า ภูมิกำลังจะหมด นั่นเท่ากับว่า … ต้องมานั่ง “นับหนึ่ง” กันใหม่

เข็มแรก…ก็ยังฉีดไม่ครบคน คนที่ฉีดไปแล้วกลับกลายไปว่าช่วยอะไรไม่ได้? ส่วนวัคซีน ก็มีไม่พอ กระจายให้ทั่วถึงไม่ได้ การเมืองก็ป่วน ปัญหาเก่ายังไม่จบ ปัญหาใหม่ยังตามมาอีก

สุดท้าย!!! ถ้าไม่มีทางออกที่ดี หรือรับมือกับปัญหาได้ทัน เชื่อเถอะ… คนไทยก็สิ้นศรัทธา!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”