เป็นเกมที่ดุเดือด โคตรมัน สมศักดิ์ศรีศึกมหาอำนาจอาเซียน

มาโน โพลกิง ตัดสินใจปรับระบบมาเล่น 3-5-2 เป็นครั้งแรกที่เล่นระบบนี้ตั้งแต่ออกสตาร์ต

วีระเทพ ป้อมพันธ์ ถูกใส่มาเติมเซ็นเตอร์ ส่วนแนวรุกถอด 2 ฝั่ง บดินทร์ ผาลา, เอกนิษฐ์ ปัญญา ขณะที่กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา จะเก็บความสดไว้นัดสุดท้าย คู่หอกเป็น ปรเมศย์ อาจวิไล กับ อดิศักดิ์ ไกรษร

เวียดนาม มาเต็มทัพ เหงียนเตียนลินห์, เหงียนกวงไฮ, ดวนวานเฮา แน่นอนต้องการชัยชนะ เพื่อกุมความได้เปรียบ และสั่งลาปาร์คฮังซอ ที่มีดิงห์ สเตเดียม

ระบบวิงแบ๊กของไทย เริ่มต้นฝืดจัด อาจด้วยความไม่คุ้นเคย เกมริมเส้นบอดสนิท รุกไม่ได้ เกมรับก็ช่วยไม่ดี มีบ่อตรงริมเส้น

เสียงเชียร์กระหึ่ม เป็นพลังให้ เวียดนาม มีพลังฮึดเพิ่มขึ้น บ้าเลือดเพิ่มขึ้น บวกให้รูปเกมดูเหลื่อมกว่า และโจมตีไทยได้ จากการเปิดด้านข้าง ก่อน เตียนลินห์ โขกจมฟูก


ไทย โดนแล้วเริ่มได้สติ ค่อยๆตั้งเกม จนย่างถึงครึ่งหลัง มาโน โพลกิง มองว่า รูปเกมเริ่มดีขึ้น จึงไม่เปลี่ยนอะไร และมาได้เร็วจาก ปรเมศย์ อาจวิไล โมเมนตัมจึงเปลี่ยน

ช้างศึก ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และแซงจาก สารัช อยู่เย็น ก่อนจะค่อยๆ เฟดออกมาเน้นเหนียวแน่น รักษาสกอร์

เปิดโอกาสให้ เวียดนามได้หือ ได้อือ และก็ตื๊อเอาจนได้ จากประตูติดจรวด วูวานตันห์

ปลุกมีดิงห์ ให้เสียงกระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเอาประตูชัย แต่เกือบบ้านบึ้ม หาก เอกนิษฐ์ ปัญญา ยิงเข้าไ

เป็นเกมที่สนุกดุเดือดสะใจซาดิสม์ จบเกมแฟนบอลเวียดนาม ปรบมือให้ บอกว่า Good Game พร้อมยื่นมือมาจับกับสื่อไทย

2-2 เป็นสกอร์ที่ไทยได้เปรียบ 1 กิ๊ก นัด 2 เสมอ 0-0 ได้, เสมอ 1-1 ได้ แต่แพ้ไม่ได้

เป็นผลที่โอเค แต่ก็น่าเสียดาย หากจบ 2-1 หรือ เอกนิษฐ์ ยิง 3-2 …แชมป์เห็นๆ

สงครามจึงยังไม่จบ ต้องวัดกันต่อในนัด 2

โจทย์ของไทยคือแพ้ไม่ได้ ดังนั้นยังมีงานต้องทำ ต้องเครียดอีกเยอ

ตามหน้าเสื่อ ความเก๋า ไทยไม่น่ามีปัญหา แต่เดิมพันสูง มันก็ไม่แน่

สำหรับแฟนบอลไทย แชมป์ยังไม่ชัวร์ ความสบายใจยังไม่มา

ความเดือด อุณหภูมิ จึงจะถูกจุดไฟลุก คุโชนต่อเนื่อง ให้เกมชี้ชะตาจันทร์นี้ เป็นมหาแมตช์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

วุฒินล