ผู้ว่าฯ อยุธยา “นิวัฒน์” ตรวจเยี่ยมจิตอาสาพระราชทานร่วมขับเคลื่อนโครงการ “อยุธยาเมืองสะอาด” พร้อมรณรงค์พี่น้องประชาชนออกมาร่วมกันรักษาความสะอาด พร้อมกันทุกพื้นที่

วันที่ 23 มีนาคม 2566 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำทีมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และจิตอาสาพระราชทาน ในการร่วมจัดเก็บขยะ ตัดหญ้า บริเวณโดยรอบศูนย์ราชการฯ และตลอดแนวสองฝั่งถนนก่อนเข้าถนนสายเอเชีย จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้จะออกเดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานตามพื้นที่ต่างๆ อีกด้วย

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือกันเก็บขยะ ทำความสะอาด และปรับภูมิทัศน์ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสถานที่ราชการ สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว สวนสาธารณะ ถนน ลำน้ำ คูคลอง ตลาด หมู่บ้านชุมชน และบ้านเรือนประชาชนให้สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย เอื้อต่อการอยู่อาศัยและการดำรงชีพที่ดีของประชากร และนำไปสู่สังคมที่สงบและปลอดภัย พร้อมที่จะต้อนรับทุกคนที่มาเยือน ดังนั้น เพื่อสร้างจิตสำนึก และช่วยกันรณรงค์ให้อยุธยาเป็นเมืองสะอาดให้ได้

นอกจากนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มุ่งเน้นการบริหารจัดการเมืองและชุมชนแห่งความสุข พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างมีคุณภาพ จากปัญหาเกี่ยวกับความสะอาด โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมืองที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงให้ความสำคัญในการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในทุกระดับและทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกและปลูกฝังวินัยให้แก่ เด็ก เยาวชน และประชาชน เพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้มีความสะอาด ประขาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้การขับเคลื่อน “โครงการอยุธยาเมืองสะอาด” ให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม อีกด้วย

กาชาดอยุธยา เมืองสะอาด นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำเจ้าหน้าที่เหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณรอบอาคารสำนักงานฯ ลานจอดรถ รั้วและอาคารเก็บของ เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ทำงาน ให้น่าอยู่ น่ามอง และสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน

นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้กำลังใจจิตอาสาเทศบาลตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน ร่วมปรับสภาพภูมิทัศน์ริมถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าเข้าอยุธยา ขณะที่นายดุสิต ศิริวราศัย นายอำเภอบางปะอิน นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ที่ทำการปกครองอำเภอบางปะอิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน-คุ้งลาน ร่วมกันเก็บขยะข้างทาง และตัดแต่งต้นทองอุไร บริเวณตลาดนัดคลองโพธิ์, หน้าโรงเรียนราษฎร์บำรุง และริมถนนสายเอเชีย ทั้งเส้นทางขาเข้า-เส้นทางขาออก เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ต้อนรับการเดินทางของคณะผู้ช่วยเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ที่จะเดินทางผ่านไปจังหวัดลพบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2566 นี้ ต่อการสัญจร

สำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสิทธิวีร์ วรรณพฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้จัดกิจกรรม “รวมพลคนคลีน” ลงมือทำด้วยใจ เพราะศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือบ้านของเรา… โดยนำเจ้าหน้าที่ร่วมกันทำความสะอาดรอบพื้นที่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายดุสิต ศิริวราศัย นายอำเภอบางปะอิน นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอบางปะอิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ร่วมกับ เทศบาลตำบลคลองจิก ร่วมกันเก็บขยะข้างทางและปรับปรุงภูมิทัศน์ ริมถนนสายเอเชีย ทั้งฝั่งขาเข้า-ขาออก เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ต้อนรับการเดินทางของคณะผู้ช่วยเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ที่จะเดินทางผ่านไปจังหวัดลพบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2566 นี้ ของประชาชน ตามแนวทาง อยุธยาเมืองสะอาด

นายนวัต บุญธรักษา นายอำเภอบ้านแพรก อยุธยา พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทาน นายสมจิตร แย้มเยื้อน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแพรก นายสมพจน์ เพ็ญสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำพะเนียง แขวงการทางอ่างทอง หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 อำเภอบ้านแพรก ปลัดอำเภอ ข้าราชการ ลูกจ้าง สมาชิก อส. ภาคประชาชน ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณถนนสายบางปะหัน-ลพบุรี เขตพื้นที่อำเภอบ้านแพรก ตามโครงการอยุธยาเมืองสะอาด, เตรียมความพร้อมในการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ และเส้นทางผ่านของคณะผู้ช่วยเลขาธิการ UN เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด ปลอดภัย

ก่อนเข้าทำงาน นายศุภสิทธิ์ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอนครหลวง ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ตำบลบ่อโพง ตำบลคลองสะแก และองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อโพง และภาคเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรมโครงการอยุธยาเมืองสะอาด ปรับปรุงภูมิทัศน์ เก็บขยะบริเวณถนนสายเอเชีย (ทางหลวงหมายเลข 32)

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายประพัน ตรีบุบผา ปลัดจังหวัด ออกตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ นายอำเภอ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสาพระราชทาน รวมถึงประชาชน ที่ออกมาร่วมกันเก็บขยะข้างทางและปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณ ปตท. ริมถนนสายเอเชีย ทั้งฝั่งขาเข้า-ขาออก ตลอดแนวถนนเส้นทาง ตำบลบ้านเกาะ ถึง อำเภอบางปะหัน เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกล่าวขอบคุณที่ทุกคนให้ความร่วมมือ ทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองสะอาด ปราศจากปัญหาเรื่องปัญหาขยะ ให้ความร่วมมือกันรักษาความเป็นเมืองมรดกโลก (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

วัดตะโก (หลวงพ่อรวย) มอบเงินจากโครงการวิ่งแล้วรวย เจ็ดล้านห้าแสนบาท ให้โรงพยาบาลภาชี พระนครศรีอยุธยา

พระครูปลัดสุวัฒนเถรคุณ (พระอาจารย์แก้ว) เจ้าอาวาสวัดตะโก หมู่ 2 ตำบลหนองหญ้านาง อำเภอภาชีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวว่า กิจกรรม “วิ่งแล้วรวย” จัดขึ้นเพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของหลวงพ่อรวย ที่ต้องการให้วัดเป็นที่พึ่งของทางญาติโยม กิจการพระศาสนา สังคม และสาธารณประโยชน์ โดยในกิจกรรมนี้ ทางวัดตะโกได้จัดทำ “เลสวิ่งแล้วรวย วัดตะโก 2563 หลวงพ่อรวย ครบ 99 ปี” โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับโรงพยาบาลภาชี เพื่อสร้างอาคารผู้ป่วยและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์

ทางวัดตะโก โดยพระครูสุวัฒนเถรคุณ (พระอาจารย์แก้ว) พร้อมคณะกรรมการวัดตะโก ได้มอบเงินจากกิจกรรม “วิ่งแล้วรวย” จำนวน 7,500,000 บาท (เจ็ดล้านห้าแสนบาทถ้วน) ให้กับทางโรงพยาบาลภาชี โดยนายแพทย์ปรัชญา พยัคฆ์เรือง ผู้อำนวยการฯ พร้อมคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลภาชี พร้อมกับคณะกรรมการได้ร่วมปรึกษาแบบอาคาร 100 ปี หลวงพ่อรวย เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของหลวงพ่อรวยให้สำเร็จต่อไป (เผอิญ วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

ลพบุรี มอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” ให้กับส่วนราชการ นายอำเภอ และกลุ่มทอผ้า เพื่อนำไปเป็นต้นแบบ และพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่น

นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานในพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” เบื้องหน้าพระรูป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อส่งมอบลายผ้าพระราชทาน ให้กับ นางสุวจี ศิริปัญโญ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลพบุรี นายอำเภอ 11 อำเภอ ช่างทอผ้า กลุ่มทอผ้า และผู้ผลิตผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค จำนวน 22 กลุ่ม เพื่อนำลายผ้าพระราชทานไปเป็นต้นแบบและพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่นและงานหัตถกรรมกลุ่มทอผ้าในจังหวัดลพบุรี เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ให้สามารถก้าวสู่ระดับสากล เพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืน ณ หอประชุมอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

นายกนครนนทบุรี ประธานโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดแคนอก ถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ที่วัดแคนอก ถนนสนามบินน้ำ นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศบาลนครนนทบุรี เป็นประธานเปิดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ประจำปี 2566 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 69 รูป พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาล และผู้ปกครองเข้าร่วมพิธี ณ บริเวณริมเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี

โดยมีการเคลื่อนขบวนแห่นาคสามเณรจากบริเวณริมเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี ไปตามถนนประชาราษฎร์ ถึงบริเวณโรงเรียนนครนนท์วิทยา 2 วัดทินกรนิมิต พร้อมขึ้นรถไปวัดแคนอก

จากนั้น เวลา 09.09 น. พระครูศรีสิทธิการ เจ้าอาวาส วัดแคนอก ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรี ประธานในพิธี ร่วมทำพิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน จำนวน 69 รูป ณ วัดแคนอก และในวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2566 เวลา 07.00 น. ขอเชิญชวนประชาชนร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง ณ ตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี/ซอยเรวดี แด่สามเณร จำนวน 69 รูป ที่เข้าร่วมโครงการฯ ณ บริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี และซอยเรวดี เพื่อนำของที่ได้ไปมอบให้แก่ผู้ยากไร้ต่อไป (สมคิด – สมนึก ลือประดิษฐ / นนทบุรี)

รองเลขาธิการ UN ชื่นชมกระทรวงมหาดไทย น้อมนำแนวพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ “หมู่บ้านยั่งยืน” และ Fashion Sustainability

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ให้การต้อนรับ นางอาร์มิดา ซัลเซีย อาลีเชียบานา รองเลขาธิการองค์การสหประชาชาติและเลขาธิการบริหารคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) และคณะผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่บ้านเกาะหมู่ที่ 5 และวัดญาณเสน ตำบลโก่งธนู ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี รวมทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ปัตตานี พัทลุง คณะที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คณะอุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย และภาคีเครือข่ายให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่

รองเลขาธิการ UN ยังได้ชื่นชมกระทรวงมหาดไทย ที่น้อมนำแนวพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ “หมู่บ้านยั่งยืน” และ Fashion Sustainability มุ่งขับเคลื่อนขยายผล Best Practice บ้านโก่งธนู-ดอนกอย สู่หมู่บ้านยั่งยืนทั่วประเทศ พร้อมยกย่องการขับเคลื่อนตามแนวพระดำริ สอดคล้องเป้าหมาย SDGs ที่มีคุณภาพ พร้อมจับมือเป็น Partnership เดินหน้าเผยแพร่เป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่น ๆ ในเวทีสหประชาชาติต่อไป (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้กิจกรรม “เอามื้อสามัคคี ใส่ผ้าไทยเยี่ยมโคก ปลูกผัก รักษ์สิ่งแวดล้อม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พื้นที่ครัวเรือน นายประสาน ทองสุขมาก บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 7 ตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้กิจกรรม “เอามื้อสามัคคี ใส่ผ้าไทยเยี่ยมโคก ปลูกผัก รักษ์สิ่งแวดล้อม” พร้อมด้วยพัฒนาการจังหวัดชัยนาท พัฒนากรอำเภอ นายอำเภอเมืองชัยนาท ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกิจกรรมฯ โดยมีนายประสาน ทองสุขมาก เจ้าของพื้นที่แปลง รายงานผลความก้าวหน้า ของการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาพื้นที่ รูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นแหล่งเรียนรู้การดำเนินชีวิต ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เน้นย้ำให้เกษตรกรที่ได้เข้ามาศึกษาดูงาน โดยให้นำไปขยายผลความสำเร็จไปให้กับชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียง ให้รู้จักที่จะสร้างอาชีพได้ด้วยตนเองตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง เปิดเป็นพื้นที่เรียนรู้ โดยให้ทั้งข้าราชการ ชาวบ้านที่ต้องการที่จะทำ โคก หนองนา โมเดล และเป็นแบบอย่างที่ดีที่ควรให้การสนับสนุนต่อยอดต่อไป

โดยภายในกิจกรรม เอามื้อสามัคคี และกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากฐานการเรียนรู้ ประกอบด้วย ฐานการเรียนรู้ที่ 1 การทำน้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ฐานการเรียนรู้ที่ 2 เรียนรู้เรื่องการเผาถ่านและน้ำส้มควันไม้ และ ฐานการเรียนรู้ที่ 3 เรียนรู้เรื่องการบำรุงดิน ด้วยการห่มดิน นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ยังตรวจเยี่ยมเกษตรกรที่นำผลผลิตจากแปลง โคก หนอง นา โมเดล ทั้ง 12 แปลง และร่วมปลูกผัก ปลูกต้นไม้ อีกด้วย (สุรพล บำรุงศรี – วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)

พระนครศรีอยุธยา จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้บริการแก้ปัญหาและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกร

วันที่ 24 มีนาคม 2566 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ วัดเจ้าปลุก ตำบลเจ้าปลุก อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอมหาราช ผู้แทนนายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องเกษตรกร เข้าร่วมพิธีจำนวนกว่า 200 คน และมี ดร.รุจีพัชร บุญจริง เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ สำหรับการจัดงานในวันนี้ เป็นความร่วมมือร่วมมือของหน่วยงานราชการและภาคีภาคเอกชน เพื่อให้บริการแก่เกษตรกร ในการแก้ไข ปัญหาการผลิต ด้านการเกษตร ได้อย่างรวดเร็ว อย่างทั่วถึง และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ปัญหาด้านการเกษตรในปัจจุบันมีความหลากหลาย เกษตรกรส่วนใหญ่ มีการผลิตสินค้าเกษตรที่หลากหลาย ทั้งด้านการผลิตพืช และการเลี้ยงสัตว์ ที่ทำให้เกษตรกรในอำเภอมหาราช มีอาชีพและมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยปัญหาส่วนใหญ่มาจากการบริหาร จัดการน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ องค์ความรู้เทคโนโลยีการการผลิตพืชและการเลี้ยง ปศุสัตว์ ด้านโรคพืชและโรคสัตว์เลี้ยง ด้านแมลงศัตรูพืชระบาด

โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ถือว่ามีความสำคัญ เป็นการบูรณาการหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกหน่วยให้บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อให้เกษตรกร เตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพการเกษตร และแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เกษตรกรผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เกิดความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ เกษตรกรต้องวางแผนการผลิตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และขอความร่วมมือเกษตรกรทุกท่านปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตจากเดิมมุ่งสู่การทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยจากสารพิษ โดยการลด ละ เลิก การใช้สารเคมีที่อันตราย หยุดการเผา ในพื้นที่การเกษตร เพื่อลดปัญหาสารพิษตกค้างในผลผลิตที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งส่งผลเสียต่อการทำอาชีพการเกษตรโดยตรง ทำให้ดินเสื่อมโทรม ขาดความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งในวันนี้มีหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ และให้บริการคลินิกเกษตร เคลื่อนที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อย่างรวดเร็ว (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

คณะศิษยานุศิษย์ พร้อมกรรมการวัดหน้าต่างนอก ทำบุญถวาย “หลวงพ่อแม้น” ฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 85 ปี ร่วมบริจาคเครื่องตรวจวัดอวัยวะภายใน ด้วยคลื่นความถี่สูง 1 เครื่อง ให้กับโรงพยาบาลเสนา

ที่วัดหน้าต่างนอก ตำบลหน้าไม้ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระครูสมบูรณ์จริยธรรม หรือ หลวงพ่อแม้น อาจารสมฺปนฺโน เจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอก พร้อมด้วย คณะกรรมการวัด คณะศิษยานุศิษย์ ประกอบพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สวดเจริญพุทธมนต์ ถวายหลวงพ่อแม้น ฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 85 ปี พร้อมกันนี้ หลวงพ่อแม้น ได้บริจาคเครื่องตรวจวัดอวัยวะภายใน ด้วยคลื่นความถี่สูง จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 420,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลเสนา โดยมี นพ.ณิธัตธ ต่อบุณศุภชัย อายุรแพทย์ โรคไต โรงพยาบาลเสนา เป็นตัวแทนรับมอบ (สุทธิพร กองสุทธิผล / อยุธยา)

จังหวัดชัยนาท ร่วมกับหลายหน่วยงาน ร่วมรณรงค์กวดขันวินัยจราจร เน้นย้ำผู้ขับขี่และซ้อนท้าย ต้องสวมหมวกนิรภัย 100% และรณรงค์หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายเพื่อลดความสูญเสีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณแยกถนนวงษ์โต หลังศาลากลางจังหวัดชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท โดยสำนักงาน ปภ.จังหวัดชัยนาท ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท และสำนักงานขนส่งจังหวัดชัยนาท คปภ.ชัยนาท และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ชัยนาท ร่วมกันรณรงค์กวดขันวินัยจราจร เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนสร้างวินัยจราจร โดยเน้นย้ำผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกนิรภัย 100 % และรณรงค์หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย เพื่อลดความสูญเสีย

ทั้งนี้ จังหวัดชัยนาท ได้มีการประชาสัมพันธ์และรณรงค์การบังคับใช้กฎหมายการจราจรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักในการใช้รถใช้ถนน สร้างความปลอดภัย พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง (สุรพล บำรุงศรี วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)

ประชุมใหญ่ สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวอยุธยา พร้อมมอบเงินสวัสดิการฯ

ในวันที่ 21 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ พลูธยา รีสอร์ท สมาคมผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ พระนครศรีอยุธยา โดยนายเผอิญ ไทยสม นายกสมาคมฯ พร้อมกับนายเดชา อุ่นขาว เลขานุการฯ นายชาญ ชูกลิ่น นายณัฐพล รื่นถวิล นายสัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล นายบัญชา เอี่ยมมีชัย และนายสุทธิพร กองสุทธิผล อุปนายกสมาคมฯ กรรมการบริหาร และสมาชิก จำนวน 25 คน ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญ เพื่อชี้แจงการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา พร้อมกับการดำเนินการในต้นปี 2566 และการวางแผนในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) (CSR) ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน

ในการประชุมครั้งนี้ ทางผู้บริหารสมาคมฯ ได้ตระหนักถึงความเป็นอยู่ของสมาชิกสมาคมฯ ได้มอบสวัสดิการให้แก่สมาชิก การทำประกันอุบัติเหตุ มอบทุนการศึกษาให้กับ บุตร หลาน ของสมาชิก รวมทั้งสวัสดิการให้กับครอบครัวของสมาชิก เพื่อแบ่งเบาภาระของสมาชิก จะได้ร่วมกันทำงานด้านสื่อมวลชนให้กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ดีที่สุด โดยไม่ต้องแสวงหาผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้อง (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

มทร.สุวรรณภูมิ ขยายฐานการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (CWIE) เพื่อรองรับบัณฑิตจบออกมาสามารถทำงานได้เลย

อาจารย์วันดี ศรีสวัสดิ์ รองคณบดีด้านวิชาการและวิจัย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานประกอบการมีความต้องการบุคลากรที่มีศักยภาพ สามารถปฏิบัติงานได้ทันทีที่จบการศึกษาด้วยทักษะที่ตรงสายงานเฉพาะด้าน คณะได้มีการลงนามความร่วมมือกับสถานประกอบการเพื่อร่วมจัดการเรียนการสอนที่รองรับการฝึกปฏิบัติทักษะวิชาชีพของนักศึกษา และยังได้จัดโครงการห้องเรียนราชมงคล ร่วมกับโรงเรียนมัธยมศึกษาพัฒนาหลักสูตรเฉพาะที่ตรงกับหลักสูตรที่จัดการเรียน

การสอนในคณะเพื่อผลิตบัณฑิตที่ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ เมื่อบัณฑิตจบการศึกษาไปก็สามารถทำงานได้ทันที โดยมีสถานประกอบการและตำแหน่งงานรองรับ อาจารย์วันดี ศรีสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการห้องเรียนราชมงคล เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม

ที่คณะดำเนินการผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อขยายฐานนักศึกษาให้เพิ่มมากขึ้น โดยเป็นลักษณะกิจกรรมที่ทำร่วมกับโรงเรียนมัธยมศึกษาในเครือข่ายความร่วมมือพัฒนาหลักสูตรเฉพาะสาขา ในระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 ซึ่งนักเรียนที่เลือกศึกษาหลักสูตรนี้ เมื่อจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีของคณะศิลปศาสตร์ได้เลย โดยใช้ระยะเวลาเรียนไม่เกิน 3.5 ปี (3 ปี ครึ่ง) ระหว่างที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ปี 4-6 โดยคณะจะส่งบุคลากรไปร่วมทำกิจกรรมและจัดการเรียนการสอน เพื่อบ่มเพาะผู้เรียนตามศาสตร์วิชาของหลักสูตร เพื่อให้นักเรียนมีพื้นฐานความรู้และทักษะสามารถนำมาต่อยอด และยกเว้นบางรายวิชาในระดับปริญญาตรี เพื่อให้การเรียนรู้ของผู้เรียนพัฒนาไปได้เร็วและเชี่ยวชาญมากขึ้น

โครงการดังกล่าว ถือเป็นการประชาสัมพันธ์หลักสูตรและเพิ่มยอดนักศึกษา ในขณะที่นักเรียนมัธยมศึกษาเองก็มีทางเลือกมากขึ้น นอกจากจะเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนที่กำลังมองหาที่ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาแล้ว ยังเป็นช่องทางในการเพิ่มยอดนักศึกษาในระยะยาว ร่วมกันบ่มเพาะบุคลากรตามความต้องการของสถานประกอบการ ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจนถึงจบระดับปริญญาตรี

ด้วยระบบการจัดการศึกษาแบบสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (CWIE) ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นบัณฑิตนักปฏิบัติที่มีทักษะประสบการณ์การทำงานที่พร้อมทันทีเมื่อจบการศึกษา อีกทั้งสามารถมองเห็นเป้าหมายปลายทางทางการศึกษาของตนเอง ตลอดจนสามารถมองเห็นอนาคตการทำงานเมื่อจบการศึกษาได้ชัดเจนมากขึ้น (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

ม.ราชภัฏอยุธยา ร่วมกับ ประชารัฐรักสามัคคี จัดตลาดนัดศึกษา EP.2 เปิดตลาดนัดสีเขียว สร้างรายได้ เสริมประสบการณ์จริงให้น้องระหว่างเรียน ที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค

ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ร่วมกับ ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ (ARUBI) สาขาวิชาการตลาด คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีพระนครศรีอยุธยา (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และ Chill Market จัดกิจกรรม “ตลาดนัดศึกษา EP.2 : Green Market” เปิดโอกาสและสนับสนุนให้นักศึกษาได้มีพื้นที่ขายของสร้างอาชีพ มีรายได้ระหว่างเรียน ระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคม 2565 บริเวณ Event Park B ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค โดยในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 เวลา 15.00 น. ได้รับเกียรติจาก ดร.สมพล รัชตพิมลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค อาจารย์ประพันธ์ แสงทองดี คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา อาจารย์ ดร.สมเกียรติ แดงเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (ARUBI) และคุณอภิสันต์ โรจน์รุ่งศิริกุล ผู้จัดงาน Chill Market ร่วมพิธีเปิดงาน

กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย ออกบูธจำหน่ายสินค้า ภายใต้คอนเซปต์ Green Market ตลาดนัดสีเขียว ของนักศึกษาจากศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ (ARUBI) สาขาวิชาการตลาด คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และผู้ประกอบการจากบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีพระนครศรีอยุธยา (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และตลาดนัด Chill Market ที่นำสินค้า Green Product ต่างๆ มาจำหน่าย อาทิ พืช ผัก ผลไม้ ปลอดสารพิษ, Green Tree การจำหน่ายต้นไม้, Green Food อาหารคลีน อาหารที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยมีกิจกรรมพิเศษ มอบให้กับผู้ที่มาซื้อสินค้าภายในงานครบ 200 บาท ได้รับสิทธิร่วมกิจกรรม Workshop เพนท์ลายกระเป๋าผ้า ฟรี… เพียงวันละ 50 ใบ เท่านั้น!! พร้อมรับฟังการแสดงดนตรีโฟล์คซองไพเราะ และกิจกรรมความสนุกมากมายตลอดการจัดงาน

นอกจากนี้ ในงานพบกับกิจกรรม “Ayutthaya City Park The Recycle Design Contest 2023” การประกวดด้านความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจในการออกแบบดีไซน์ชุดที่ทำจากวัสดุเหลือใช้ของนักศึกษาและประชาชนทั่วไป เพื่อชิงเงินรางวัลอีกด้วย (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

นักศึกษา มทร.อีสาน ฟิต เรียนรู้ระบบควบคุมอัตโนมัติในงานอุตสาหกรรม

วันที่ 27 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน จังหวัดนครราชสีมา ได้รับการอนุมัติจากมหาวิทยาลัย ให้เดินทางมาศึกษาดูงานพร้อมอบรมขั้นพื้นฐานหลักสูตร Automation & Robotic รวมถึงหลักสูตรไฮโดรลิคที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม ณ บริษัท ยูเอสอี.โฟล-ไลน์ จำกัด จังหวัดปทุมธานี โดยเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มกระบวนการผลิตจนถึงในส่วนของการมอบสินค้า อันเป็นกระบวนงานที่จำเป็นอย่างยิ่งในการฝึกปฏิบัติจริง ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา เกิดสถานการณ์โควิด นักศึกษาไม่สามารถเข้าไปฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการได้อย่างเพียงพอ

นายธีรพล ขุนเมือง อดีตอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า การเรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้นักศึกษาได้นำความรู้จากการเรียนทฤษฎีมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติ ซึ่งภายใน “ศูนย์นวัตกรรมและพัฒนาทักษะสำหรับอุตสาหกรรม” นี้ มีอุปกรณ์ทันสมัยที่ใช้งานจริงในสถานประกอบการต่างๆ ดังนั้นการเรียนรู้เหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่นักศึกษาอย่างยิ่ง ทำให้สามารถ “คิดได้ ทำเป็น และแก้ปัญหาได้” ด้วย มีความพร้อมที่จะเข้าสู่การทำงานหลังจบการศึกษา ประการสำคัญกำลังแรงงานส่วนนี้ขาดแคลน และเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างมากด้วย

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ เด่น คอกพิมาย ซึ่งนำคณะนักศึกษามาเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้งานจริงในโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่นักศึกษาได้รับในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นักศึกษา มทร.อีสาน มีศักยภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ก้าวทันเทคโนโลยีอยู่เสมอ และจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ ก้าวสู่ Thailand 4.0 อย่างมั่นใจด้วย (ประสิทธิ์ จิตสว่าง / ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

จังหวัดสระบุรีจัดแถลงข่าวการแสดงโขนพระราชทาน ตอน “หนุมานชาญกำแหง” เชิญชวนประชาชนร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันหาชมยาก ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 8-9 เมษายน นี้

เมื่อ วันที่ 21มี.ค.2566 เวลา 17.30 น. ที่บริเวณลานพิกุลวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการแสดงโขนพระราชทาน จังหวัดสระบุรี ประจำปี 2566 ตอน “หนุมานชาญกำแหง” แสดงโดยคณะนักแสดงจากโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง โดยมี นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายธนกฤต อัตถะสัมปุณณะ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี นางวันเพ็ญ นันทปัญญา นายกเทศมนตรีเมืองพระพุทธบาท นางนฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง ร่วมแถลงข่าว พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางวันทนา ดำธรรม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสระบุรี นางอังคณ ชิตะติตติ และนายกิตติศกดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนและสื่อมวลชน ร่วมในงานนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระมหากรุณาให้ คณะนักแสดงจากโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง มาจัดการแสดงโขนพระราชทาน ณ จังหวัดสระบุรี ชุดหนุมานชาญกำแหง ในระหว่างวันเสาร์ที่ 8-วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2566 ณ วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร สระบุรี (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

จังหวัดสิงห์บุรี จัดการประกวดอาหาร Steet Food สร้างอาชีพ ซีซั่น 2 คืนคนดีสู่สังคม

วันที่ 27 มีนาคม 2566 นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดโครงการอบรมวิชาชีพตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน การทำอาหารพร้อมทาน ภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคม การประกวดอาหาร Steet Food สร้างอาชีพ ซีซั่น 2 ณ ศูนย์การค้าท็อปพลาซ่าสิงห์บุรี โดยมีนางระพีพร หิมะคุณ ศรีสมบัติตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนนทบุรี ผู้ประสานงานเขต 1 จัดอบรมขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้แลพัฒนาทักษะในการทำอาหารให้ผู้รับบริการในพื้นที่ของสำนักงานคุมประพฤติทุกแห่งในเขต 1 จัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2566 ผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 78 คน ประกอบด้วย ผู้เข้ารับบริการสำนักงานคุมประพฤติในเขต 1 ผู้ชนะเลิศการประกวดการทำอาหาร Steet Food สร้างอาชีพ ซีซั่น 2 ระดับจังหวัด เจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมประพฤติและภาคเครือข่าย โดยมีวิทยากรผู้ทรงวุฒิจากสมาคมเดอะเชพแห่งประเทศไทย ส่วนวิธีการอบรมคือ การบรรยายและฝึกปฏิบัติการทำอาหาร

ต่อจากนั้นช่วงบ่าย นายวิจิตร เลิศไพบูลย์วงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดงานประกวดทำอาหาร Steet Food สร้างอาชีพ ซีซั่น 2 ณ หน้าศูนย์การค้าท็อปพลาซ่าสิงห์บุรี โดยมี นายภูริวัชญ์ ลิขิตสกุลเดช ประธานคณะกรรมการจัดงานประกวดการทำอาหารฯ จัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2566 มีการประกวดอาหาร 2 ประเภท คือ อาหารคาว 10 ทีม และอาหารหวาน 8 ทีม โดยการฝึกอาชีพการส่งเสริมให้ผู้กระทำผิดมีงานทำและมอบทุนประกอบอาชีพด้วยการจัดงานประกวดการทำอาหารฯ ซีซั่น 2 ระดับเขตและระดับประเทศ และต่อยอดการเปิดธุรกิจ โดยมีกลไกอาสาสมัครคุมประพฤติเป็นกลไกหลักที่จะขับเคลื่อนงานประกวดทำอาหารฯ และบูรณาการภาคเครือข่ายในการคืนคนดีสู่สังคมอย่างครบวงจร ภายใต้กิจกรรมการจัดประกวด ทั้งระดับจังหวัด ระดับเขต ระดับประเทศ และในส่วนของเขต 1 ประกอบด้วย นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี อ่างทอง ชัยนาท ลพบุรี และลพบุรี เข้าร่วมประกวดระดับเขต 1 เพื่อคัดเลือกผู้ชนะไปประกวดระดับประเทศต่อไป (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

จังหวัดอุทัยธานี แถลงข่าวเตรียมจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก จังหวัดอุทัยธานี ประจำปี 2566 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-9 เมษายน 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ลานสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พล.ต.ต.สุเมฆ บวรเศวตฉัตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี นางไพรินทร์ กันทะวงษ์ อุตสาหกรรมจังหวัดอุทัยธานี ร่วมแถลงข่าวการจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก จังหวัดอุทัยธานี ประจำปี 2566 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ที่จะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดอุทัยธานี โดยมีนายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และประชาชน เข้าร่วมงาน

จังหวัดอุทัยธานีได้กำหนดจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก จังหวัดอุทัยธานี ประจำปี 2566 ในระหว่างวันที่ 1-9 เมษายน 2566 รวม 9 วัน 9 คืน ณ สวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ (บึงพระชนกฯ) อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี โดยมีกิจกรรมภายในงาน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมการแสดงแสง สี เสียง ยิ่งใหญ่ตระการตาในวันที่ 1, 5, 6, 7, 8 และ 9 เมษายน 2566 ชมการเดินแบบผ้าไทย การเสวนาผ้าไทย การประกวดร้องเพลง การแสดงศิลปวัฒนธรรม เลือกซื้อสินค้าราคาถูก มหกรรมอาหาร สินค้าโอทอป ชมคอนเสิร์ตจากเหล่าศิลปินระดับแถวหน้า และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย (ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม / อุทัยธานี)

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (ฝ่ายมัธยม) เปิดรับสมัครนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2566 (แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์)

ผศ.ดร.นราธิป ปิติธนดี รองผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวถึงการรับสมัครนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในปีการศึกษา 2566 แผนกการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ จะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 เมษายน 2566 ผ่านระบบออนไลน์ http://3dgf.aru.ac.th/stay/ พร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3TMxxyk

พร้อมประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกในวันที่ 7 เมษายน 2566 / พิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบในวันที่ 8-9 เมษายน 2566 / สอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในวันที่ 10 เมษายน 2566 / ประกาศผลการสอบคัดเลือก ในวันที่ 18 เมษายน 2566 และรายงานตัวเพื่อยืนยันสิทธิ ในวันที่ 19 เมษายน 2566 นี้ (เผอิญ ไทยสม / อยุธยา)