โดย “แม่บ้าน กกต.” เปิดประเด็นว่า วันนี้ กกต. พร้อม 100% ไม่ว่าจะเป็น กกต. หรือหน่วยงานสนับสนุน ก็มีความพร้อม และยังเป็นไปตามไทม์ไลน์เลือกตั้ง ส่วนเป้าหมายการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต. อยากให้การเลือกตั้งออกมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เป็นทางออกของประเทศ และทำให้บ้านเมืองมีความหวัง

@ มีหลายเหตุปัจจัยลดทอนความเชื่อมั่น กกต. ในช่วงที่ผ่านมา จะทำให้การเลือกตั้งเป็นงานยากหรือไม่

เรื่องระหว่างทางก็มีให้ต้องแก้ไขและมีให้คิดอยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี จากนี้ไปก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว ทั้งเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ไม่มีการนำจำนวนราษฎรผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ หรือเรื่องรูปแบบการแบ่งเขตที่มีการยื่นต่อศาลปกครอง กกต. ยืนยันว่าได้ทำตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ส่วนจะทำให้การเลือกตั้งเป็นงานยากขึ้นหรือไม่ ปัญหานี้เราตระหนักตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว เพราะสังคมก็มีคำถามเกี่ยวกับ กกต. หลายเรื่อง ซึ่งตัวงานเท่านั้น จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าเราจะทำอย่างไร หรือทำให้ประชาชนสบายใจอย่างไร มาถึงตรงนี้ไม่ได้หนักใจ

ได้มีการถอดบทเรียน จุดอ่อน-จุดแข็ง จากการเลือกตั้งปี 2562

สิ่งที่เราเห็นคือเรื่องหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีปัญหาในการนับคะแนนของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ยังมีข้อผิดพลาดคลาดเคลื่อนบ้าง รวมทั้งการรายงานผลคะแนน ซึ่ง กกต. ถูกตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก กกต. ก็ได้นำมาแก้ไขในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยในเรื่องการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ เราตั้งใจให้ถูกต้องทุกคะแนนและเร็วขึ้น โดยเวลาประมาณ 19.00 น. จะเห็นคะแนนแรกไปอยู่ในระบบ และเวลาประมาณ 22.00 น. จะทราบคะแนนอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการของการเลือกตั้ง ทั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตามยืนยันว่า กกต. ยังมีการรายงานคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ และการรายงานผลการนับคะแนนจะถูกต้องและเร็วกว่าเดิม และมีความโปร่งใสประชาชนตรวจสอบได้ โดย กกต. จะมีการนำเอกสารรายงานผลคะแนนหน้าหน่วยเลือกตั้ง เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ว่า คะแนนตรงกันหรือไม่

ส่วนปัญหาหน่วยเลือกตั้ง เราต้องบริหารหน่วยเลือกตั้งให้เรียบร้อย ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ประชาชนเริ่มใช้สิทธิเลือกตั้ง จนถึงเวลา 22.00 น. ที่นับคะแนนแล้วเสร็จ กกต. จะต้องบริหารเวลา 15 ชั่วโมงนี้ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่าให้มีข้อผิดพลาด ถ้าผิดพลาดต้องมีคำอธิบาย อย่าปล่อยให้ประชาชนสงสัย เพราะในวันเลือกตั้ง เราอยู่ในสายตาประชาชนตลอด ส่วนปัญหาการส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรนั้น สำนักงาน กกต. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือร่วมกัน และออกมาตรการไม่ให้เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นอีก

@ กกต. มีแนวทางการคุมเกมการเมือง-คุมกติกาเลือกตั้งอย่างไร

ในช่วงการหาเสียงของพรรคการเมือง ผู้สมัคร หรือหัวคะแนน เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งก็คืออีกแรงเสียดทานหนึ่ง ที่จะมาที่ กกต. เพราะเรามีหน้าที่ในการรักษาสถานการณ์ ดูแลสถานการณ์ระหว่างทางจนถึงวันเลือกตั้ง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พรรคการเมือง ผู้สมัคร หัวคะแนน ข้าราชการ รัฐมนตรีรักษาการ ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ กกต. ที่จะต้องกำกับดูแล โดยมีเครื่องมือคือกฎหมายและระเบียบ เพื่อให้แข่งขันกันอย่างเสรี เป็นธรรม และสร้างสรรค์ บทบาท กกต. จึงต้องทำให้การแข่งขันเป็นไปด้วยความเที่ยงธรรม

โดยสิ่งที่ กกต. จะต้องเจอหลังจากนี้ คือ การแจ้งว่ามีการซื้อสิทธิขายเสียง ทั้งเรื่องจริงบ้างเท็จบ้าง ซึ่งเป็นเทคนิคทางการเมือง นอกจากนั้น จะมีการแจ้งเรื่องข้าราชการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ และเรื่องใหม่คือการร้องเกี่ยวกับการหาเสียงทางโซเชียลมีเดีย โดย 3 ส่วนนี้ หากเรามีมาตรการที่จะดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ เราแสวงหาความร่วมมือ โดยเอา ภาคประชาชน เข้ามาร่วมด้วย อาทิ ไอลอว์ (iLaw) และ We Watch เพื่อช่วย กกต. ในการดูว่า ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง จะทำการหาเสียงฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะร่วมกับสิ่งที่เรามีอยู่เดิม เมื่อเราเสริม ภาคประชาชน เข้ามา น่าจะทำให้การกำกับควบคุมดูแลสถานการณ์การระหว่างทางจนถึงวันเลือกตั้งดีขึ้น

ส่วนการหาเสียงของพรรคการเมือง และผู้สมัคร ตราบใดที่ยังไม่ละเมิดกฎหมาย ก็เป็นเสรีภาพที่จะพูด และใช้ในการหาเสียงได้ แต่หากเป็นการใส่ร้ายก็จะมีความผิด ซึ่งก็มีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว ไม่มีช่องโหว่ ส่วนเรื่องนโยบายหาเสียง ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า แต่ละพรรคมีนโยบายในเชิงประชานิยมนั้น ก็ต้องดู 3 เงื่อนไขว่า เอาเงินมาจากไหน ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการ และความเสี่ยงในการดำเนินโครงการ ซึ่งพรรคต้องเสนอให้ประชาชนพิจารณาว่านโยบายนั้นๆ เป็นไปได้หรือไม่ ซึ่ง กกต. ก็ไม่มีอำนาจไปเบรก หากพรรคการเมืองทำครบ 3 เงื่อนไข

การดำเนินการของ กกต. เกี่ยวกับคำร้องยุบพรรคในช่วงก่อนเลือกตั้ง จะส่งผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่

เรื่องคำร้องยุบพรรค มีมาอยู่ตลอด ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง สิ่งที่เราเจอก็คือคำร้องส่วนมากไม่ได้ตรงตามเหตุที่จะทำให้ยุบพรรค และไม่เป็นเหตุให้ยุบพรรค แต่คำร้องก็จะขอให้ยุบพรรคไว้ก่อน ซึ่ง กกต. ก็ต้องมาตรวจว่าใช่เหตุที่จะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ ถ้าไม่ใช่เหตุก็จะยุติเรื่องไป แต่หากเป็นเหตุที่จะนำไปสู่การยุบพรรค ก็ต้องมาดูว่ามีองค์ประกอบอะไร และข้อเท็จจริงถึงขนาดยุบพรรคตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ ซึ่ง กกต. ก็พิจารณาตามระบบ ไม่ได้ช้าไม่ได้เร็ว เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริง โดยขณะนี้ เหลือคำร้องยุบพรรคประมาณ 19 คำร้อง โดยบางพรรคถูกร้องมากกว่า 1 คำร้อง อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกพรรคสบายใจได้ว่า สำนักงาน กกต. พิจารณาทุกเรื่องบนข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากพรรคไม่ผิด เราก็คงไปบอกว่าผิดไม่ได้ แต่หากผิดก็คือผิด

@ อยากฝากอะไรถึง พรรคการเมือง ผู้สมัคร และประชาชน

อยากให้การเลือกตั้งเป็นของประชาชน คือ ประชาชนต้องรู้เรื่องเลือกตั้งเท่ากับ กกต. การเลือกตั้งจะเป็นอะไรที่เรียบร้อย เหมือนการแข่งกีฬา ที่ผู้เล่น กรรมการ และกองเชียร์จะรู้กติกาเท่ากัน เหมือนกีฬาฟุตบอล ซึ่งจะทำให้ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่เกิดแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากเห็น พอเกิดเรื่องขึ้น ประชาชนก็รู้กติกาว่าเป็นแบบไหน โดยประชาชนสามารถศึกษากติกาเลือกตั้งผ่านแอปพลิเคชัน smart vote

ส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ก็คงอยากให้การเลือกตั้งออกมาดี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดังนั้นอยากให้การแข่งขันอยู่ในกติกา ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์ ตัวผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง แม้การแข่งขันทุกคนจะอยากชนะ แต่หากเราละเลยกติกาก็จะเกิดความไม่เรียบร้อยขึ้น ดังนั้นหากเราร่วมมือกัน โดยมีเป้าหมายเดียวกัน ก็น่าจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นที่ยอมรับ และเป็นทางออกของประเทศอย่างที่ทุกคนอยากเห็น.