หลังจากทำได้เพียงเสมอ เวสต์แฮม 2-2 ถ้าจะพูดว่า อาร์เซนอล กำลังเจอวิกฤติในช่วงที่กำลังสำคัญที่สุดคงไม่เกินเลยนัก

บางคนอาจบอกว่า ก็แค่เสมอ 2 นัดติด แถมยังเป็นเกมเยือนทั้งสองนัด มันไม่น่าจะเลวร้ายขนาดนั้นนะ แต่สำหรับผมรู้สึกว่า ปัญหามันมีมากกว่าการมองโลกในแง่ดีเกินไป

ย้อนไปเกมเสมอลิเวอร์พูล 2-2 อาร์เซนอล เริ่มต้นแบบหวานเจี๊ยบ ขึ้นนำเร็ว 2 ประตู แต่จากนั้นโดนบุกแบบโงหัวไม่ขึ้น และแม้สุดท้ายได้แค่แต้มเดียว แต่ยังเต็มไปด้วยคำปลอบใจว่า เฮ้ย นั่นมันสนามแอนฟิลด์นะ เสมอก็ควรแฮ้ปปี้ได้สิ โอเคมองไปข้างหน้าว่ากันใหม่

แต่แล้วหนังม้วนเดิม มันก็ดันเกิดขึ้นที่ลอนดอน สเตเดียมบ้านของเวสต์แฮม อาร์เซนอล ใช้เวลาแค่ 10 นาทีขึ้นนำ 2-0 ซึ่งนาทีนั้นมันก็ควรคิดไกลไปถึง 5-0 6-0 7-0 ด้วยซ้ำ แต่บทเรื่องเดิมกลับมา อาร์เซนอล เหมือนช้อตไปดื้อๆ ไม่ต้องโอดว่าดีแคลน ไรซ์ แฮนด์บอลก่อนหรือไม่ หรือควรเป็นจุดโทษหรือไม่ ถ้าเล่นไม่ดีก็คือไม่ดี จบแบบเสมออย่างน่าผิดหวัง เท่ากับว่า อาร์เซนอล ทำหล่นไป 4 แต้มจากสถานการณ์ขึ้นนำก่อน 2 ประตู

อะไรที่ฆ่าเราไม่ตาย สุดท้ายจะแกร่งขึ้นกว่าเดิม เวสต์แฮม คงว่าอย่างนั้น

ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น? แม้แต่ มิเกล อาร์เตตา ก็คงอยากรู้เช่นกัน เขายอมรับว่าผิดหวัง ทีมเริ่มต้นได้สุดยอด ควบคุมเกมได้ทั้งหมด แต่จากนั้นเหมือนสูญเสียเป้าหมาย ให้ความหวังกับคู่แข่ง เสียจุดโทษแย่ๆ ไม่เห็นความมุ่งมั่นในการทำประตูที่สามและสี่

แฟนบอลส่วนใหญ่น่าจะไม่ต่างกัน นอกจากจุดโทษที่ซาก้ายิงหลุดกรอบออกไปแล้ว ไม่เห็นว่ามีจังหวะช่วงไหนที่นักเตะดูกระเหี้ยนกระหือรืออย่างแรงกล้าจะยิงให้ได้ มีแต่ความพยายามลำเลียงบอลเข้าไป แต่โอกาสมันไม่ชัดเจน ไม่ชัดจริงๆ

สถิติอาร์เซนอลยิง 11 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ต่างจากเวสต์แฮมที่ยิง 16 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ยังดูดีเสียกว่า อาร์เซนอลครองบอลเยอะจริง แต่มันจะมีประโยชน์อะไรหากคุณสร้างโอกาสได้น้อยเกินไป?

ทุกคนเห็น อาร์เตตาก็เห็น แล้วจะทำอย่างไรกับทีมวัยรุ่นที่แสดงความเปราะบางออกมา นักเตะเล่นดีแค่ช่วงออกสตาร์ต จากนั้นก็ถอนคันเร่ง เกมรับยุ่ยๆ เสียประตูง่ายเกินไป คือต้องนำ 3-0 4-0 ถึงจะสบายใจได้อย่างนั้นหรือ

แฟน ๆ อาร์เซนอลหลายคนกำลังหมดหวัง แต่กัปตันทีมมาร์ติน โอเดการ์ด ยังคิดแง่ดีบอกว่า “เราต้องจำไว้ว่าเรายังคงเป็นจ่าฝูงของลีกโดยทุกอย่างอยู่ในมือของเราเอง”

จะว่าไปก็ถูกเพราะอาร์เซนอลยังกุมชะตาตัวเอง ในสมมติฐานที่แมนฯ ซิตี เตะเท่ากัน 31 นัด ก็ยังตามหลังอาร์เซนอล กุญแจสำคัญจึงเป็นการเจอกันที่เอติฮัด 26 เมษายน

โปรแกรมที่เหลือ

ส่วนใหญ่มองว่ายังไงก็เสร็จแมนฯ ซิตี ดังนั้นน่าจะเป็นแชมป์เก่าที่คว้าแชมป์อีกปี แม้แต่บ่อนพนันถูกกฎหมายของอังกฤษก็มองเช่นนั้น ดังที่ปรับราคาแมนฯ ซิตี เป็นเต็งแชมป์มาตั้งแต่อาร์เซนอลเสมอลิเวอร์พูล

พวกเขาเชื่อในซิตีเพราะมีทั้งความเขี้ยวของประสบการณ์คว้าแชมป์ มีฟอร์มที่เลิศเลอชนะมา 10 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ไหนจะเออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าจอมมารบูที่ยังยิงไม่หยุด

กลับไปสู่คำถามว่าอาร์เซนอลบอกลาถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกได้แล้วหรือไม่?

ผมขอมองว่ามันยังไม่จบ เส้นทางโคตรทุรกันดารกันจริง แต่มันไม่มีอะไรง่ายอยู่แล้ว

ซิตี อาจเก่งมากๆ แต่หากอาร์เซนอลสร้างปาฎิหาริย์ที่เอติฮัดได้สำเร็จ โอกาสจะกลับมาอยู่ในมือพวกเขาอีกครั้ง

แต่ถ้า 3 แต้มเป็นของเจ้าบ้านในวันนั้น ทุกอย่างก็คงจบจริงแน่นอน.

เฮียเอง