ปิดฉากลงไปอย่างยิ่งใหญ่และได้รับเสียงชื่นชมจากหลายฝ่ายสำหรับการแข่งขันมวยไทยนานาชาติชิงแชมป์โลก 2566 “อิฟม่า ซีเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2023” ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกันระหว่างวันที่ 4-12 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่เซ็นทรัล เวิลด์ ไลฟ์ ฮอลล์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ โดยมีนักกีฬา โค้ช และเจ้าหน้าที่รวมกว่า 3,000 คนจาก 112 ประเทศ 5 ทวีปทั่วโลก เข้าร่วมชิงชัยเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของสหพันธ์สมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า)

แม้ศึกมวยไทยโลกครั้งนี้จะจัดชิงชัยในช่วงเดียวกับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แต่กระแสของการแข่งขันครั้งนี้ก็ไม่น้อยหน้าเลยทีเดียว เพราะทุกๆ วันจะมีแฟนหมัดมวย แฟนกีฬาแวะเวียนไปชมการแข่งขันกันจนแน่น ไลฟ์ ฮอลล์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ โดยเฉพาะวันสุดท้ายที่เป็นรอบชิงชนะเลิศ

สำหรับการแข่งขันรายการดังกล่าว เป็นความร่วมมือกันของสหพันธ์สมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) ร่วมกับสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬามวยไทยอาชีพแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) โดยเนรมิตไลฟ์ ฮอลล์ ชั้น 8 จนอลังการตระการตาในรูปแบบ “สปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์” เต็มตัวจนได้รับคำชื่นชมอย่างไม่ขาดสาย

ความสำคัญของ “อิฟม่า ซีเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2023” คือ การรวมตัวนักมวยไทยทั่วโลกกว่า 3,000 คนจาก 112 ประเทศ 5 ทวีปทั่วโลกเดินทางมาขึ้นชิงชัยเจ้ามวยไทย ที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นต้นตำรับของศิลปะการต่อสู้ และเป็นมรดกประจำชาติไทย และเป็นการคัดเลือกนักมวยไทยไปแข่งขันกีฬาต่อสู้โลก “เวิลด์ คอมแบท เกมส์ 2023” ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 21-30 ต.ค.นี้

ที่สำคัญคือการจัดแข่งขันไหว้ครูมวยไทยควบคู่ไปด้วย ซึ่งมีมากกว่า 50 ชาติ ส่งนักกีฬาไหว้ครูมวยไทยมาร่วมแข่งขันเพราะประเทศไทย ต้องการผลักดันให้กีฬามวยไทยอัตลักษณ์เดิม ที่มีทั้งการไหว้ครูและปี่กลอง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของมวยไทยที่ชาวต่างชาติทั่วโลกรู้จักขับเคลื่อนไปสู่การเป็น “ซอฟท์เพาเวอร์” ของประเทศไทย

เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการผลักดันกีฬามวยไทยให้ได้รับการบรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งกันไว้อย่างเร็วที่สุดคือ โอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน 2028 ที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

นอกจากการชิงชัยของนักมวยไทยจากทั่วโลกแล้ว ยังมีการจัดประชุมวิชาการในมิติต่างๆ ของขบวนการโอลิมปิกเกมส์ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของโครงการ โดยผู้เข้าประชุมประกอบด้วยผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ผู้แทนองค์กรควบคุมสารต้องห้าม (WADA) ผู้แทนสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (Sport Accord) ผู้แทนองค์กรสหประชาชาติ (UNESCO) และผู้แทนสหพันธ์ความร่วมมืออิสระเพื่อการสนับสนุนชนิดกีฬาที่ได้การรับรองจาก IOC (Alliance of independent Recognized Members of Sports : AIMS) และผู้แทนประเทศสมาชิกจำนวน 120 คน รวมทั้งนักวิชาการรับเชิญภายในประเทศ

ในงานยังจะมีการส่งเสริมสินค้าอุตสาหกรรมกีฬามวยภายใต้แนวคิด “จากผืนผ้าใบสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมมวยไทยแสนล้าน” โดยจัดเป็นงานแสดงสินค้ากีฬา ที่ชั้นล่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงวัฒนธรรม และบริษัทเอกชนผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬา ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนกีฬาชาวไทย และต่างชาติเป็นจำนวนมากในการเลือกช็อปสินค้ามวยไทยกลับไปเป็นของที่ระลึก

ทางด้านผลงานของนักมวยไทย ใน “อิฟม่า ซีเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2023” ปรากฏว่า ทัพนักมวยไทย ทำผลงานผ่านเข้ามาลุ้นแชมป์ 6 รุ่น และกวาดมาได้ 4 แชมป์จากรุ่น 51 กก.ชาย สัญชัย พรมนิน หรือ กระดูกเหล็ก อ.อัจฉริยะ, รุ่น 48 กก. หญิง อภิชญา เลขมาศ หรือ ญาญ่า ส.สิงห์คีรี, รุ่น 48 กก. ชาย ธีรดลน์ ศรีษะนอก หรือ ด่วน 99 สข.สจ.โต้งปราจีน, รุ่น 67 กก. ชาย นรินทร์ วงละคร หรือ แรมโบ้ เพชร ปตอ.

แชมป์ของนักชกไทย ทั้ง 4 คน ได้รับโควต้าไปร่วมแข่งขันในมหกรรมกีฬา “เวิลด์ คอมแบทเกมส์ 2023” ที่กรุงริยาด ในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้นักมวยของไทยยังคว้าอีก 2 เหรียญเงิน รุ่น 60 กก. ชาย พงศธร เรืองน้อย หรือ คมปฏัก อ.อัจฉริยะ และ รุ่น 71 กก. ชาย ทศพล เสาร์พะเนา หรือ เด่นพนม พราน 26

ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ และประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) เปิดเผยว่า ประทับใจมาตรฐานการจัดการแข่งขันของประเทศไทย อย่างมาก เป็นการพลิกโฉมการจัดมวยไทยชิงแชมป์โลก ด้วยการนำสปอร์ตเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มาจับ บรรดาผู้ชม แฟนมวยที่เข้ามาชม ตลอดจนนักกีฬา สตาฟฟ์โค้ช และสื่อมวลชนจากหลายๆ ชาติที่มาร่วมงานต่างก็ประทับใจการดูแลของประเทศไทยและมาตรฐานการจัดการแข่งขันของไทยที่ทำไว้สูงมากๆ ชนิดไร้ข้อบกพร่อง

นี่คือความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของผู้จัดการแข่งขัน, สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ที่พิสูจน์ฝีมือจนชาวโลกยกนิ้วให้ประเทศไทย น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง!!!