สรุป 5 ประเด็นร้อน ในวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์ที่ 4 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

“พี่โด้” มาเว้ย !

การรีเทิร์นสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ คริสเตียโน โรนัลโด คงไม่สามารถสวยงามไปกว่านี้ได้อีกแล้ว เมื่อเจ้าตัวทำ 2 ประตูต่อหน้าแฟนบอลในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วยทีมถล่ม นิวคาสเซิล 4-1

ในวัย 36 ปี “พี่โด้” พิสูจน์แล้วว่า เป็นคนที่ผีแดงตามหามานาน 2 ประตูในเกมนี้ของเขา ไม่ใช่แค่ทำให้ทีมชนะ แต่ยังแสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้มาเล่นๆ และเติมเต็มให้ทีมที่รอจิ๊กซอว์ตัวนี้มานานได้อย่างเหมาะเจาะ และถูกที่ถูกเวลา

มันจึงเป็นอย่างที่เขาบอกเอาไว้ก่อนแล้วว่า การกลับมาอีกครั้งในรอบ 12 ปี ไม่ใช่เพื่อปิดฉากชีวิตการค้าแข้ง แต่เพื่อพาทีมประสบความสำเร็จในระดับสูง เหมือนที่เขาเคยทำได้ในครั้งแรก

ประตูแรกในการกลับมาอาจจะไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก แต่ประตูที่ 2 ที่โชว์สปีดต้น เข้าไปกดด้วยซ้ายเต็มข้อผ่านหว่างขา เฟรดดี วูดแมน แสดงให้เห็นชัดๆเลยว่า โรนัลโด ยังเหลือน้ำยาอีกเยอะ

จึงไม่แปลกที่อัตราต่อรองการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกของ แมนฯ ยูไนเต็ด และการคว้าดาวซัลโวในฤดูกาลนี้ของพี่โด้ จะลดลงแบบฮวบฮาบ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ โรนัลโด ยังต้องเจอกับงานยากที่รออีกเพียบ และแค่เกมแรก เขาก็คงพอจะรู้แล้วว่า พรีเมียร์ลีก ตอนนี้ ต่างจากตอนที่เขาจากไปเมื่อ 12 ปีก่อนมากแค่ไหน

แค่เกมแรก อาจยังไม่พอจะพิสูจน์อะไรได้ หลังจากนี้ต่างหากคือของจริง?

ซาอูล หรือ ซาเล้ง !

ซาอูล ญีเกซ พกดีกรียาวเหยียดมาอังกฤษ และได้โอกาสประเดิมสนามให้ เชลซี ในเกมถล่ม แอสตัน วิลลา 3-0 เพราะ เอ็นโกโล ก็องเต เจ็บ โดยจับคู่เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางร่วมกับ มาเตโอ โควาซิช

แม้ทีมจะชนะสวยงาม แต่ฟอร์มส่วนตัวของ ซาอูล แม้แต่แฟนเชลซี ยังบอกว่า นี่ ซาอูล หรือ ซาเล้ง

โธมัส ทูเคิล บอกหลังได้มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน วัย 26 ปีมาร่วมทีมว่า ซาอูล เป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบ แต่หลังจบเกมนี้ ยอมรับว่า การส่ง ซาอูล ลงสนามคือความผิดพลาดอันใหญ่หลวง เพราะเห็นชัดว่า เจ้าตัวยังปรับตัวเข้ากับความระห่ำของพรีเมียร์ลีกไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เชลซี ก็ยังไปได้สวย และส่วนหนึ่งต้องขอบคุณ โรเมลู ลูกากู ที่ยิงประตูต่อหน้าแฟนในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เสียที ทำให้เจ้าตัวดีใจเป็นพิเศษ แถมเหมาคนเดียวถึง 2 ลูกในเกมนี้ด้วย

เชลซี จึงยังน่ากลัวเสมอ ยิ่งถ้า ซาอูล ปรับตัวได้เมื่อไหร่ พวกเขาน่าจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำ

ซาลาห์ กับ ฮาวีย์

มีนักเตะแค่ 4 คน ที่ยิงถึง 100 ประตูในพรีเมียร์ลีกได้เร็วกว่า โม ซาลาห์ หลังบังโม ซัดลูกแรกช่วยให้ ลิเวอร์พูล บุกถล่ม ลีดส์ 3-0 และซัดในลีกสูงสุดอังกฤษครบ 100 ประตูเรียบร้อย

4 คนที่ยิงถึง 100 เร็วกว่าเขา มีแค่ อลัน เชียเรอร์, แฮร์รี เคน, เซร์คิโอ กุน อเกวโร และ เธียร์รี อองรี โดยความสำเร็จครั้งนี้ ทำให้ ซาลาห์ ได้เข้าสู่ “คลับ 100 ประตู” เป็นคนที่ 30 เท่านั้น

ซาลาห์ ยังทำ 8 ประตู จากเกมลีก 12 นัดหลังสุด และช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใคร 14 เกม พร้อมประกาศศักดาเป็นผู้ท้าชิงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัว แม้จะไม่ได้เสริมทัพแบบฮือฮาเหมือนคู่แข่งทีมอื่นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เรื่องเศร้าในเกมนี้คือ การบาดเจ็บหนักของ ฮาวีย์ เอลเลียต มิดฟิลด์ดาวรุ่ง ที่กำลังฟอร์มดี ทำให้ต้องพักยาว และถือเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ที่หงส์แดง ต้องเสียผู้เล่นเพราะอาการเจ็บหนัก หลังฤดูกาลก่อน ก็เสีย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ทั้งฤดูกาลมาแล้ว

นาทีนี้ จึงต้องช่วยกันภาวนาให้เจ้าหนู เอลเลียต ให้เจ็บเร็วๆ และกลับมาได้ดีเหมือนเดิม หรือดีกว่าเดิมไปเลย

ปืนยิงลูกแรกและชนะเกมแรก

หลัง 3 เกมแรกอันเลวร้าย มิเกล อาร์เตตา นำ อาร์เซนอล ทำประตูแรก และคว้าชัยชนะนัดแรกจนได้ ในเกมเปิดรังเฉือน นอริช 1-0 จากประตูของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง

มันอาจไม่ได้เป็นชัยชนะที่สวยงามหรือฟอร์มการเล่นขั้นเทพ แต่ 3 แต้มนัดนี้ ถือว่าสำคัญสุดๆสำหรับเดอะ กันเนอร์ส เพราะทำให้พวกเขากลับมามั่นใจอีกครั้ง และไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าหากเกมนี้แพ้อีก จะเกิดอะไรขึ้นกับทีม และ อาร์เตตา

หลังจากนี้ อาจจะถึงเวลาของพวกเขา เมื่อโปรแกรมที่รออยู่ไม่ถึงกับหนักมากนัก เกมหน้าไปเยือน เบิร์นลีย์ ต่อด้วยเปิดรังเจอ เอเอฟซี วิมเบิลดัน ในอีเอฟแอล คัพ ก่อนจะปิดเดือนด้วยการเปิดบ้านทำศึกนอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้ กับ สเปอร์ส ที่เพิ่งแพ้เกมแรก

ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ด้วยดี อาร์เซนอล ก็มีสิทธิไปต่อยาวๆ แต่ถ้าไม่ ชัยชนะเกมนี้อาจไม่เพียงพอสำหรับ อาร์เตตา ที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป?

แฮร์รี เคน เปลี่ยนไป?

แฮร์รี เคน มีวันที่อยากลืม ในเกมที่ สเปอร์ส บุกไปแพ้ คริสตัล พาเลซ 0-3 และแพ้เป็นเกมแรกของฤดูกาล หลังชนะรวดมา 3 นัด แบบไม่เสียประตู

ว่ากันว่า นี่อาจจะเป็นการปลุก นูโน เอสปิริโต ซานโต ตื่นจากฝันหวาน มาเจอความจริงอันโหดร้าย เพราะนอกจากจะแพ้แล้ว ฟอร์มของลูกทีมยังจัดได้ว่าห่วยแตก แถมมีปัญหานักเตะเจ็บ-แบนเพียบ

3 นักเตะอเมริกาใต้อย่าง โจวานนี โล เซลโซ, คริสเตียน โรเมโร และ ดาวิซอน ซานเชซ ยังกักตัวที่โครเอเชีย ขณะที่ สตีเวน เบิร์กไวน์จ เจ็บจากเกมทีมชาติ

แต่ที่หนักสุดคือ ซน ฮึง มิน ที่กลับไปเล่นให้เกาหลีใต้ และกลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บ ซึ่ง นูโน บอกว่าหนักเกินคาด และนั่นส่งผลต่อ สเปอร์ส ชัดเจน เพราะขาดพลังขับเคลื่อนสำคัญในเกมรุก

ถึงมี เคน ในสนาม ก็เหมือนไม่มี เพราะเจ้าตัวแทบจะช่วยอะไรไม่ได้ และเป็นครั้งแรกที่ เคน ไม่ได้สัมผัสบอลหรือยิงบอลในกรอบเขตโทษเลย

นาทีนี้ ขาด ซน กับ ขาด เคน แฟนไก่จึงเลือก ขาด เคน ดีกว่า

เกมนี้ พวกเขายังต้องเสีย เอริค ดายเออร์ ไปตั้งแต่ต้นเกม และ จาเฟต ทังกันกา โดนไล่ออก ปัญหาจึงรอให้ เอสปิริโต ซานโต เข้ามาแก้อีกเพียบ แถมถ้าดูโปรแกรมต่อไปก็เรียกว่ารากเลือด เพราะในลีกจะเจอ เชลซี และ อาร์เซนอล

ฝันร้ายจึงอาจจะแค่เพิ่งเริ่มเท่านั้น สำหรับ สเปอร์ส และ นูโน ?