“อย่าไปคาดหวังกับความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกเลย เพราะสุดท้ายคนที่คาดหวังก็คือคนที่เจ็บที่สุด”

ในที่สุดวงการสีกากีก็ได้ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นคือ “บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” แม้จะอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย ท่ามกลางความดราม่า ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนคนเสพข่าว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผบ.ตร.คนใหม่นี้ มีความเหมาะสมและต้องผ่านอะไรมามากมายก่อนจะขึ้นมาสู่จุดสูงสุด

ขอย้อนหลังเล่าให้ฟังหน่อยว่าการคัดเลือกของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร. นั้นมีทั้งหมด 16 คน ซึ่งวันนั้น พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ติดภารกิจไม่ได้เข้าร่วมประชุม

โดยก่อนการประชุมจะเริ่ม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้เชิญ ก.ตร. 9 คน ยกเว้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. คนใหม่ เข้าหารือกันนอกรอบก่อน เพราะ “บิ๊กต่าย” กับ “บิ๊กต่อ” มีส่วนได้ส่วนเสีย

จากนั้นนายกฯได้เสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้ที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบ ใช้วิธีลงคะแนนอย่างเปิดเผย ปรากฏว่า ก.ตร. 9 คน เห็นชอบตามที่นายกฯเสนอ มีเพียง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่เห็นชอบ ส่วนนายเศรษฐา ในฐานะประธานที่ประชุม และนายประทิต สันติประภพ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ งดออกเสียง ทำให้ “บิ๊กต่อ” ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 จากมติเสียงข้างมากคือ 9 ต่อ 1 งดออกเสียง 2

ในส่วนของ ก.ตร. 9 คน ที่เห็นด้วยกับนายกฯคงไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไร แต่ที่น่าสนใจคือ 1 เสียงที่ไม่เห็นด้วยของ พล.ต.อ.เอก ต่างหาก ซึ่งเจ้าตัว ให้ความเห็นว่า พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 (ฉบับปฏิรูปตำรวจ) การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถ ให้ความสำคัญของอาวุโสในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับ แต่การคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร. ไม่เป็นหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้เลย

แต่อย่างไรก็ตามในที่สุดแล้วประเทศไทยก็ได้เจ้าของนามเรียกขาน “พิทักษ์ 1” คนที่ 14 เป็นที่เรียบร้อย ว่าแล้วก็อยากนำเสนอประวัติของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้ได้รับรู้สักนิด ว่าตลอดเส้นทาง 25 ปี ของลูกผู้ชายคนนี้มีความเป็นมายังไง

“บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เกิดเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2507 ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี เป็นบุตรคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 5 คน และเป็นน้องชายของ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์และเลขาธิการพระราชวัง

ชีวิตครอบครัวสมรสกับ นางนิภาพรรณ สุขวิมล มีบุตรสาวทั้งสิ้น 2 คน จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนพันธะศึกษา ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนโยธินบูรณะ ระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นที่ 38 และจบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณทิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม

ก่อนจะเข้ามาสวมเครื่องแบบสีกากี น้อยคนจะรู้ว่า เคยเป็นพนักงานบริษัทน้ำมันมาก่อน แต่ด้วยความฝันในวัยเด็ก จึงตัดสินใจเบนเข็มเปลี่ยนเส้นทางชีวิต เดินตามความฝัน โดยเข้าหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิ ทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือ กอต. รุ่นที่ 4

แม้ไม่ได้จบจากโรงเรียนเหล่า-เป็นนักเรียนนายร้อย แต่เส้นทางสีกากีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ต้องยอมรับว่าโดดเด่น ไม่แพ้ชาวรั้วสามพราน ประเดิมตำแหน่งแรก เป็นรองสารวัตรอยู่ที่กองกำกับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันรถสายตรวจ เมื่อ 1 ก.พ. 2541 ในวัย 33 ปีเศษ ซึ่งถือว่าเริ่มต้นเป็นตำรวจด้วยอายุที่มากพอสมควร

เมื่ออยู่ที่นั่นประมาณ 2 ปี พอติด ยศร้อยตำรวจโท ก็ไปเรียนที่โรงเรียนสืบสวนวิทยาลัยการตำรวจ รุ่นที่ 71 เป็นรุ่นที่นครบาลล้วน ซึ่งเมื่อก่อนก็จะไปคัดตัวจากโรงเรียนสืบสวนมา คนที่ได้ที่ 1, 2, 3 เพื่อมาอยู่กองปราบฯ “บิ๊กต่อ” ไปสอบได้ที่ 3 ที่ ส่วน 1 เป็นกองปราบฯ ที่ 2 เป็นครูจากศูนย์ฝึกอบรม แต่ปรากฏว่าที่ 2 ไม่มา ก็เลยปรับได้มาเป็นรองสารวัตร แผนก 3 กอง 2 ย้ายจาก 191 มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ร้อยตำรวจโท โดยเป็นรองสารวัตรอยู่ 7 ปีเศษ จนครบหลักเกณฑ์

จากนั้นออกไปขึ้นสารวัตรที่รถสายตรวจท่องเที่ยว สถานี 3 กองกำกับการ 1 คุมฝั่งธนฯ เป็นรถสายตรวจท่องเที่ยว ทั้งชีวิตก็อยู่กับรถสายตรวจตลอด กลับมาเป็นสารวัตรคอมมานโด, รองผู้กำกับการปฎิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราม (รอง ผกก.ปพ บก.ป.), ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราม (ผกก.ปพ.บก.ป.), รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.),

ก่อนที่ปี พ.ศ. 2561 กำกับการปฏิบัติการพิเศษได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นกองบังคับการ และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามหน่วยงานใหม่ เป็น “กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ” โดยมี พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บังคับการคนแรก, เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.),

จากนั้นก็ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.), ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานปราบปราม โดยอยู่ในลำดับที่ 4 ของบัญชีอาวุโส ก่อนได้รับการแต่งตั้งขึ้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 โดยใช้ระยะเวลา 25 ปี ในเส้นทางข้าราชการตำรวจ

ด้วยบุคลิกที่อ่อนนอกแต่แข็งใน และเติบโตมาในสานงานปราบปราม บ่อยครั้งจะเห็นภาพ “บิ๊กต่อ” สวมเครื่องแบบพร้อมอาวุธครบมือถือปืนนำหน้ากำลังคอมมานโด เปิดยุทธการฟ้าสางกวาดล้างมือปืนผู้มีอิทธิพล เรียกได้ว่ามีเสียงปืนดังขึ้นที่ไหน ต่อให้ขึ้นเหนือ-ล่องใต้ บิ๊กต่อไปหมด

ขณะเดียวกันในแง่วิสัยทัศน์ “บิ๊กต่อ” เป็นตำรวจที่เน้นการพัฒนาระบบ หลายครั้งที่เดินทางไปดูงานต่างประเทศ ก็จะหยิบยกข้อเด่นของแต่ละสถานที่ที่ไปดูงานมา นำมาต่อยอดเพื่อพัฒนาบุคคลากรในองค์กร เห็นได้จากการนำผลวิจัยทั้งในและต่างประเทศมาปรับโฉมรถสายตรวจ ที่ใช้ในปัจจุบันให้เป็นมีสีสะท้อนแสงร่วมกับตัวรถ ให้ง่ายต่อการมองเห็นในเวลากลางคืน

ที่เด่นชัดอีกอันคือการจุดประกายนำปืน “ช็อตไฟฟ้า” ลดความสูญเสียของผู้ปฏิบัติ กระทั่งการปัดฝุ่นระเบียบปืนสวัสดิการ แก้ไขเรื่องอาวุธปืนหลวงถูกนำไปขาย โดยนำ QR Code มาใช้ตรวจสอบและติดตามแก้ปัญหา ได้ให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ ตลอดจนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ขณะเดียวกันได้เร่งถอดบทเรียนให้ความรู้ หนี-ซ่อน-สู้ “แอคทีฟ ชู้ตเตอร์” ให้ความรู้ตำรวจทั้งสายงานปราบปราม–หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เกี่ยวกับการเข้าระงับเหตุ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรับมือเหตุเฉพาะหน้า โดยเฉพาะเหตุกราดยิง ควบคู่กับการต่อยอดความรู้ไปยังสถานศึกษา และหน่วยงานอื่น กลายเป็นหลักสูตรที่รู้จักแพร่หลาย

ไม่เพียงเท่านี้ บ่อยครั้งจะเห็นภาพ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ออกตรวจเยี่ยมกำลังพล ควบคู่กับดูแลจัดสวัสดิการตำรวจชั้นผู้น้อย และในห้วงที่ “บิ๊กต่อ” ดำรงตำแหน่ง ผกก.คอมมานโด ได้จัดระเบียบหน่วยใหม่ เน้น “สวัสดิการ” ลูกน้อง ตรวจดูบัญชีครัวเรือนของลูกน้องทุกคน พร้อมจัดหาสวัสดิการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชา

ผลงานในรอบปีนี้ หน้างานปราบปรามที่มี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ คุมหน้างานค่อนข้างโดดเด่น ทั้งกวาดล้างขบวนการพนันออนไลน์เครือข่ายมาเก๊า888, ตัดวงจร “ซิม-สาย-เสา” สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์, ทลายเครือข่ายขบวนการหลอกขายข้อมูลส่วนบุคคล แก๊งลอบเข้าข้อมูลระบบขนส่งปรับแต่งเล่มทะเบียนสวมรถหรู เป็นต้น ถือว่าเป็นผลงานระดับบิ๊กเบิ้มมากๆเลยทีเดียว

“ผมเคยเป็นเด็กวัด การได้เดินตามพระ ทำให้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทำให้ได้คิดว่า เมื่อเราถอดเครื่องแบบออกแล้ว เราก็แค่คนธรรมดา ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร ใหญ่โตแค่ไหน ผมไม่ได้เคยคิดไปถึงขั้นเป็น ผบ.ตร. เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่สำคัญ ไม่ใช่นักเรียนนายร้อย แต่จะยึดคติที่พึงระลึกเสมอ นั่นก็คือทำงานในตำแหน่งที่เราได้รับให้ดีที่สุดก็พอ” หนึ่งในประโยคที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยพูดเอาไว้

ตลอดถนน 25 ปี ของ “บิ๊กต่อ” ผู้ซึ่งถูกตั้งสมญานามว่า “มือปราบสายธรรมะ” ผ่านความมานะบากบั่นมาตลอด คงต้องจับตารอดูกันต่อไปว่า เส้นทางแห่งยุทธจักรสีกากีสายนี้ รวมทั้งอีก 1 ปี ที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดนั้น “บิ๊กต่อ” จะสร้างชื่อทำผลงานให้เป็นประชาชนได้กล่าวขานและโจษจันสักเพียงใด.

ข่าวสารตำรวจ

ขจัดยาเสพติด
พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร เป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือและพิธีเปิดศูนย์แก่นรักษ์ซึ่งเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดระยะยาว “มินิธัญญารักษ์” จ.ขอนแก่น ตั้งอยู่ภายในศูนย์ฝึกอาชีพนักเรียนเก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ภาค2 บ้านจอมบึง ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น โดยมีพระอาจารย์เอกชัย สิริญาโน เจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีร่มเย็น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผู้บัญชาการกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นร่วมลงนามครั้งนี้
สตช.ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูตามกระบวนการทางการ แพทย์แบบใหม่ โดยมุ่งเน้นที่จะฟื้นฟูผู้ป่วยแบบบูรณาการหลายมิติ ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเปิดโครงการมาแล้วที่จังหวัดจันทบุรี และนำผู้ติดยาเสพติดเข้าบำบัดตามเกณฑ์เป็นระยะเวลา 3 เดือนพบว่ามีผลประเมินเป็นที่น่าพอใจ จังหวัดขอนแก่นมีความพร้อมของหน่วยงานอยู่แล้ว

พัฒนาไม้ง่าม
พ.ต.ต.วายุ คำภา สวป.สภ.ภูเวียง จว.ขอนแก่น ได้คิดค้น ประดิษฐ์ ไม้ง่ามแบบล็อก รุ่นใหม่ ต่อ ยอดจากไม้ง่ามเดิม เพื่อนำใช้งานเผชิญเหตุคลุ้มคลั่ง ปราบคนวิกลจริต จนสำเร็จ ใช้ง่านง่าย เห็นผลจริง ลดการสูญเสียบาดเจ็บได้ทั้ง 2 ฝ่าย จึงอยากนำเสนอเป็นทางเลือกให้กับทุกสถานีตำรวจได้ใช้ ซึ่งปัจจุบันทางตำรวจภูธรภาค 4 ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ ไม้ง่ามแบบล็อกรุ่นใหม่ กันแล้ว คงเหลืออีกไม่กี่แห่ง เนื่องจากผู้บังคับบัญชาได้เห็นการใช้งานและเห็นว่าใช้งานได้จริง ใช้งานง่าย สะดวกสามารถยืดหดความยาวได้ตามต้องการ ตามสถานการณ์ในพื้นที่ ติดต่อสอบถามเทคนิคการใช้งาน พ.ต.ต.วายุ คำภา โทร. 0982429799

สภ.โนนสัง โรงพักมาแรง
ผลงานในรอบปีงบประมาณ 2566 สำหรับผลงานของโรงพักในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู สภ.โนนสัง ร้อยละ 92.65 เกณฑ์ประเมินอยู่ในระดับ ผ่านดี มาเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างโรงพักพี่ๆที่ต้องปรับปรุง อะไรเป็นแรงบันดาลใจต้องถาม พ.ต.อ.กฤษณ์ มาสุข ผกก.สภ.โนนสัง พร้อม พ.ต.ท.อิทธิวัตร มูลขุนทด รอง ผกก.ป.สภ.โนนสัง พ.ต.ท.ธนโชติ ปราบหลอด รอง ผกก.สอบสวน ฯ พ.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ วนไชยสงค์ รอง ผกก.สส.สภ.โนนสัง พ.ต.ท.สมคิด ชื่นชม สว.ป.สภ.โนนสัง และคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.โนนสัง ล่าสุดได้คณะกรรมการ กต.ตร.สภ.โนนสัง ชุดใหม่ ประธาน กต.ตร.สภ.โนนสัง ใจดียังได้มอบ ตู้เย็น จำนวน 1 เครื่อง เครื่องชงกาแฟ 1 เครื่อง โต๊ะทำงาน 1 ตัว เก้าอี้ทำงาน 1 ตัว สนับสนุนการทำงานที่สำหรับ สภ.โนนสัง เพื่อใช้ในการทำงาน ต่อไป ทำเอา พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.กริช ปัตลา รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.สาโรจน์ คุ้มทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ถึงกับพึ่งพอใจผู้ใต้บังคับบัญชา

ปรับปรุงภูมิทัศน์
พ.ต.อ.กฤศ ธิติทัศนะ ผกก.สภ.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พ.ต.ท.สุพัฒน์ ถีสูงเนิน สวป.สภ.คลองกิ่ว และข้าราชการตำรวจจิตอาสา ร่วมกับ อบต.คลองกิ่ว และหน่วยงานต่างๆ พร้อมด้วยประ ชาชน จิตอาสา ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ทำความสะอาดปรับปรุงภูมิทัศน์ เก็บขยะ ณ บริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหมื่นจิตร ในโครงการ“เราทำความดี ด้วยหัวใจ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (วันมหิดล)

เกษียณอายุราชการ
ที่สภ.เมืองระยอง พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยองมอบหมายให้พ.ต.ท.อธิวัฒน์ อภิวุฒิชัยกิตติ์ สว.จร.สภ.เมืองระยอง มอบของที่ระลึกและร่วมให้กำลังใจกับกำลังพลส่วนงานจราจร สภ.เมืองระยอง ที่จะเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566 ซึ่งมีจนท.ตร. จราจร สภ.เมืองระยอง ร่วมมอบของที่ระลึกในครั้งนี้ด้วย พ.ต.ท.อธิวัฒน์ อภิวุฒิชัยกิตติ์ สว.จร.สภ.เมืองระยอง กล่าวว่า ปีนี้มีตำรวจส่วนงานจราจร สภ.เมืองระยอง ที่เกษียณอายราชการประจำปี 2566 เป็นนายตำรวจ 1 นาย ได้แก่ ร.ต.อ.ชูชาติ สวิง รอง.สว.จร.สภ.เมืองระยอง (หรือที่ทราบกันดีในฉายา) น้าหวิงขาล๊อค) ซึ่งท่านได้รับราชการมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต วิริยะอุตสาหะ ปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชนสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สภ.เมืองระยองมาอย่างต่อเนื่อง ได้ปฏิบัติหน้าที่เหน็ดเหนื่อยมาโดยตลอดจนครบอายุราชการอย่างสมเกียรติ ทางสภ.เมืองระยองจึงร่วมมอบของที่ระลึกนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

*****************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป