18 เดือนเต็ม ๆ ที่ “ยูโรเปี้ยน ไนท์” แบบมีแฟนบอล ห่างหายไปจาก แอนฟิลด์ หลังจากเกมสุดท้ายคือนัดที่ ลิเวอร์พูล แพ้ แอตเลติโก มาดริด 2-3 เมื่อเดือนมีนาคม 2020

และเห็นได้ชัดว่า 5 หมื่นกว่าคนในสนามเมื่อคืนที่ผ่านมา มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ “หงส์แดง” แซงกลับมาชนะ “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน 3-2 ในที่สุด…

เกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ ทำเอา “เดอะ ค็อป” ทั้งหลายหงายท้องกันเป็นแถบตั้งแต่การจัดตัว เมื่อเกมรุกพัก ซาดิโอ มาเน แล้วส่ง ดิวอค โอริกี ที่ซีซั่นนี้ยังไม่ได้สัมผัสเกมสักนาทีเดียวลงเป็นตัวจริง ขณะที่เกมรับก็พัก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ใช้ โจ โกเมซ ยืนคุมแดนหลังร่วมกับ โฌแอล มาทิป

ขณะที่ทีมเยือน 11 ตัวจริงเป็นไปตามคาดแทบทุกตำแหน่ง เมื่อคาดว่าต้องมาตั้งเกมรับแล้วใช้เกมโต้กลับเป็นหลัก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ จึงต้องออกสตาร์ตบนม้านั่งสำรอง

และอย่างที่บอกว่า “ค่ำคืนแห่งเกมยุโรป” มันส่งผล เมื่อ “หงส์แดง” เปิดฉาก “ขย่ม” ผู้มาเยือนแทบไม่ให้พักหายใจตามเสียงเชียร์ของแฟนบอล ก่อนจะขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 9 เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงไปแฉลบ ฟิคาโย โทโมรี ตุงตาข่าย

หลังจากนั้น “หงส์แดง” ก็ยังตบเกียร์ 5 เดินหน้าไม่หยุด แต่สุดท้ายในช่วงปลายครึ่งแรก “เดอะ ค็อป” กลับต้องช็อคตาตั้ง เมื่ออยู่ดี ๆ ก็เสีย 2 ประตูซ้อน ๆ

ซึ่ง 2 ประตูที่ว่า ถือเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า เสียงวิจารณ์ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ว่าเป็นฟูลแบ๊กที่เด่นเกมรุก ด้อยเกมรับ ไม่ได้ผิดไปจากความเป็นจริง เอเขามีส่วนกับการเสียประตูทั้ง 2 ลูก

ลูกแรก แม้ โฌแอล มาทิป จะเหม่อจนโดน อันเต เรบิช ฉีกตัวออกมาหาที่ว่างแล้วแปตุงตาข่าย แต่ เทรนต์ หันหน้าเข้าหาเหตุการณ์ทั้งหมด และอยู่ในวิสัยที่จะเข้าไปช่วยตรงจุดนั้น แต่กลับวิ่งเหยาะ ๆ ทำให้ เรบิช ได้ยิงง่าย ๆ

ขณะที่ลูกที่ 2 จากการชาร์จจ่อ ๆ ของ บราฮิม ดิอาซ นั้น จุดเริ่มต้นก็มาจากเกมรับฝั่งที่ เทรนต์ รับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม เป็นอีกครั้งที่ต้องบอกว่า “ยูโรเปี้ยน ไนท์” ที่แอนฟิลด์มันส่งผล และยิ่ง “หงส์แดง”ได้ประตูตีเสมอเร็วจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตั้งแต่นาทีที่ 49 รูปเกมหลังจากนั้นจึงเป็นของเจ้าถิ่นแบบวันเวย์

ก่อนที่สุดท้าย “กัปตันเฮนโด้” จะกดเสียบมุมเป็นประตูชัยให้ “หงส์แดง” เฉือนชนะ 3-2 ในที่สุด

เกมลักษณะนี้ถือเป็น ดีเอ็นเอ ที่ คลอปป์ ฝังให้กับลูกทีม บวกกับบรรยากาศที่เร่งเร้า สกอร์อาจจะดูใกล้ แต่ถ้าดูกันจริง ๆ รูปเกมอาจไม่ได้ใกล้เหมือนสกอร์ที่ออกมา

และที่สำคัญ ย้ำอีกครั้งว่าภายใต้บรรยากาศที่เข้มข้นแบบนั้น ไม่ว่าคู่ต่อสู้ทีมไหนเจอเข้าไป เก๋าแค่ไหนก็ “ขาสั่น” ได้ง่าย ๆ

และเชื่อได้เลยว่า “ยูโรเปี้ยน ไนท์” ที่แอนฟิลด์ จะเป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญของ “หงส์แดง” ในถ้วยยุโรปซีซั่นนี้แน่นอน…