@ยังไม่มีความคืบหน้าที่น่าพอใจ สำหรับ”ตัวประกันชาวไทย” ที่ถูก”กลุ่มฮามาส” จับไว้เป็นตัวประกัน เพื่อการต่อรองกับ”อิสราเอล”  เข้าใจนะว่าทั้ง” นายกรัฐมนตรี” เศรษฐา ทวีสิน และ” รัฐมนตรีต่างประเทศ” ได้พยายามอย่างเต็มที่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของ”สงคราม” ที่”ตัวประกัน”กลายเป็น”เครื่องมือการต่อรอง” จึงไม่ง่ายในการที่จะใช้เรื่อง”การทูต” เพียงอย่างเดียวในการ ช่วยเหลือตัวประกันที่อยู่ในมือของ”กลุ่มฮามาส”……และการใช้”คอนเนกชั่น” ในการ”เข้าถึง” กลุ่มประเทศ”มุสลิม” ที่”เข้าถึง” ทั้ง”กลุ่มฮามาส” และ”ปาเลสน์” “ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร” วันมูหะมัดนอร์ มะทา และ ทีมงานใช้ในการ”พูดคุย” เพื่อของความร่วมมือให้เป็น”คนกลาง”ในการประสานงานกับ”กลุ่มฮามาส” ก็ยังไม่ประสพผลสำเร็จอย่างที่คาดหวัง ทุกอย่าง”ไม่ง่าย” เพราะ”สงคราม” ระหว่าง”อิสราเอล” กับ”ฮามาส” ครั้งนี้ “อิสราเอล” ต้องการ”บดขยี้” เพื่อ”ถอนรากถอนโคน” กลุ่ม”ฮามาส” ให้ได้  การต่อสู้ใน “ฉนวนกาซากาซ่า” จึงยัง”ลากยาว”ต่อไป โดยมี”ตัวประกันทุกชาติเป็นเหยื่อ” ก็เป็น”กำลังใจให้กับครอบครัวของแรงงานงาน” และ”เร่งรัด” ให้”เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ดำเนินการทุกอย่างแบบ”เกาะติด” เพื่อการนำ”ตัวประกัน” กลับมายังประเทศไทยด้วยความปลอดภัย…..

@เรื่อง”เงินดิจิตัล 10,000 บาท” ที่เป็นโครงการ”แจกเงินให้ประชาชน” เพื่อการ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” เพื่อหวังให้เกิด”สึนามิในการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ” คงจะ”กระจ่างและจบ” หลังจากที่”เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงข่าวด้วยตนเอง” วันนี้ทุกคนที่”รับรู้ข่าวสาร” จะไม่ต้องถามไถ่ว่า ใครบ้างที่อยู่ใน”ข่ายได้เงินดิจิตัล” และใครบ้างที่อยู่”ในข่ายชวดเงินดิจิตัล 10,000 บาท” รวมทั้งจะได้”รับรู้” ว่า เรื่อง”เงินดิจิตัล” เป็นเรื่อง”ทำจริง” ของพรรคเพื่อไทย ส่วนเงินจำนวน 500,000 ล้าน รัฐบาล จะเอามาจากที่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป…..  แต่ที่น่าแปลกสำหรับความรู้สึกของ ประชาชน เรื่อง”เงินดิจิตัล”ไม่”ปัง” อย่างที่คิด เพราะแม้แต่คนที่เป็นคน”ระดับล่าง”ของสังคม ยังปฏิเสธ ไม่ไต้ ว่าเงิน”10,000 บาท ที่รัฐบาลให้ เพราะสงสารประเทศไทยที่ต้อง”เป็นหนี้เป็นสิน” ระยะยาว เรื่องนี้”เพื่อไทย”ไม่ได้”คะแนนนิยม” อย่างที่คาดหวัง ในขณะที่ “ผู้ที่เห็นต่าง” ก็ยัง”ไม่หยุดนิ่ง” ยังมีการ”ชักแม่น้ำทุกสาย” มา”สาธยาย” แสดงความไม่เห็นด้วย  จนสุดท้ายแล้ว โครงการแจกเงินดิจิตัล 10,000 อาจมีการ”ฟ้องร้อง” ต้องการ”ชี้ขาด” จาก องค์กรที่เกี่ยวข้อง และการ”และทำให้”โครงการแจกเงิน” ไม่เป็นไปตามที่”เพื่อไทย” กำหนด ในขณะที่”พรรคร่วมรัฐบาล” ก็มี”ท่าที่เหล่ๆ” กับโครงนี้เช่นกัน…..

@เรื่องการ”ไล่ล่า เสี่ยแป้ง” เชาวลิต ทองด้วง” นักโทษหลบหนีเรื่องจำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งหลังการ”รุดโซ่ตรวน” หลบหนีจากโรงพยาบาลนครศรีธรรมราช” เจ้าตัวยังวนเวียน” ในพื้นที่”บ้านตระ” รอยต่อระหว่าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กับ อ.นาโยง จ.ตรัง โดยมี”คนในพื้นที่” ซึ่ง”เสี่ยแป้ง” เคยให้การช่วยเหลือ เป็น”เกราะกำบัง” ที่สร้างความ”ปวดเศียรเวียนเกล้า” ให้กับ” ตำรวจ” ที่”ไล่ต้อนเสี่ยแป้งไม่จนมุม” เรื่องนี้ แสดงให้เห็นถึง”ประสิทธิภาพและขีดความสามารถของตำรวจภูธร”ในพื้นที่ จ.พัทลุง ที่ “พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี”  ผบช..ภ.9  ต้องมีการ”ปรับแก้” เพราะพื้นที่ของ จ.พัทลุง ณ วันนี้ ยังมี”ผู้มีอิทธิพล” แบบ”เสี่ยแป้ง” อีกจำนวนหนึ่ง ที่สำคัญ “พัทลุง” เป็นถิ่นที่มีผู้มี”อิทธิพล” เป็นจำนวนมาก “ซุ้มมีปืน” และ”อาวุธสงคราม” ใน”พัทลุง” ก็ถือว่า”เป็นหนึ่ง” ในภาคใต้ตอนล่าง ที่สำคัญไม่ว่าใครจะมาเป็น”ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง” ก็ไม่เคยแก้ปัญหาของ”พัทลุง”ได้…..และล่าสุด หลังมีการ”ปรับเปลี่ยน” ผู้นำหน่วยคนใหม่ ก็มีข่าวว่ามีการ”ตั้งเป้า” ในการ”เก็บ” จาก”ลูกน้อง”เพิ่มกว่าเดิมอีกเท่าตัว ก็ถือว่า”เสดสา” สำหรับพื้นที่”ห่างไกล” การที่จะต้อง”ทำยอด” สุดท้ายก็”เปิดบ่อน” และ”ตั้งด่าน สังคม” และ”ประชาชน” คือผู้รับกรรม…..อีกเรื่องสำหรับ”พัทลุง” ที่เกิดขึ้น เมื่อ”ตชด. มีการ”ตั้งด่าน” จับกุมรถขนส่งเอกชน ตรวจยึด”บุหรี่เถื่อน”ได้จำนวนมาก และมีผู้”แอบอ้าง” โทรไปหา”เจ้าของสินค้า”เพื่อ”คืนของ” และ”จ่ายเงิน” ตั้งแต่รายละ 5,000 -10,000 บาท แล้วแต่”ของกลางมากน้อย”  เรื่องนี้ ฝากให้ ผบช. ตชด.ภาค 4 คนใหม่  ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงด้วย…..

@จับตาความเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ “องค์กรภาคประชาสังคม”หลายองค์กร จัดกิจกรรมรำลึกเนื่องในวันครบรอบ 238 ปีเหตุการณ์”ปาตานีเสียกรุง” เมื่อปี พ.ศ. 2328  นี่คือการแสดงให้เห็นถึงการใช้”ประวัติศาสตร์” ในการ”ปลุกระดม” ให้มีความรู้สึกที่เป็น”ปรปักษ์ต่อรัฐ ”โดยอ้างว่า”สยามเป็นผู้รุกราน นอกจากนั้น ในรอบ 1 เดือน ที่ผ่านมา “หลายองค์กร” โดยเฉพาะที่เป็น”ปีกทางการเมือง” ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” ต่างก็ออกมา”เคลื่อนไหว” ในกรณีการทำสงครามระหว่าง”อิสราเอล-ปาเลสไตน์” ซึ่งล้วนเป็นผลกระทบทางด้าน”ความมั่นคง” ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เป็นหน้าที่ของ” พล.ท. ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4/ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 และ พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 ที่ต้อง”ติดตามสถานการณ์” ที่เกิดขึ้น เพราะ”องค์กรภาคประชาสังคม” เหล่านี้มี”เป้าหมาย” ที่ต้องการเห็นความ”เปลี่ยนแปลง” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตาม”ธง”ของตนเอง……ส่วนสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ณ วันนี้ยังมี”การก่อเหตุ”เกิดขึ้นเป็น”ระยะๆ “ โดยเฉพาะใน จ.นราธิวาส ที่ยังมีความถี่ของการเกิดเหตุ ทั้งการ”วางระเบิดแสดงเครื่อง” และ”ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่”และ อื่นๆ ซึ่งก็ต้องถาม พล.ต. เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ว่าจะมี”นโยบาย” อย่างในการลด”เหตุรุนแรง” ทำไม “กำลังทหาร” ในพื้นที่จึงไม่สามารถ”หยุดการเคลื่อนไหว” ของ”กองกำลังติดอาวุธ”ในพื้นที่ได้ ทั้งที่”กองกำลังติดอาวุธ” มีจำนวนไม่มากนัก  ที่สำคัญ”ชายแดนไทย-มาเลเซีย” วันนี้ยังมี”ช่องว่าง” ให้”กองกำลังติดอาวุธ” ข้ามไป-มา ได้อย่าง”อิสระ” ปัญหานี้จะแก้อย่างไร แผนการ”ซีลชายแดน” ฝั่ง จ.นราธิวาส จะทำอย่าไร จึงได้ผล…..

@ได้ใจของ”คนไทยพุทธ” เมื่อ” พ.ต.อ.ทวี สองส่อง” รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า “ทหาร”ยังมีความจำเป็น สำหรับการดูแล”ไทยพุทธ” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะวันนี้ “ไทยพุทธ” ในพื้นที่ยังอยู่ในความ”ถดถอย”ในทุกด้าน เพราะแม้แต่”การพัฒนา” ก็ยังไปไม่ถึงไหน ครั้งนี้ก็ได้แต่หวังไว้ว่าเมื่อ” พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์” เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) จะเป็นผู้ที่นำพาความเปลี่ยนแปลงมาสู่ชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเมื่อ ศอ.บต.  ปลอดจากคำสั่ง “คสช. ทั้ง 3 ฉบับ ในสมัยที่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็น นายกรัฐมนตรี การ”ก้าวเดิน”ใน”มิติการพัฒนาและสังคมจิตวิทยา” คงจะไปได้ดีขึ้น…..ส่วนในเรื่องการ”สานต่อ”การ”พูดคุยสันติภาพ”ระหว่าง “รัฐบาล” กับ”บีอาร์เอ็น” โดยมี” มาเลเซีย” เป็นผู้อำนวยความสะดวก เชื่อว่าในปีนี้ คงจะไม่มีอะไรที่เป็นความคืบหน้า และอาจจะมีการ”เปลี่ยนแปลง” จากการ”พูดคุยที่เปิดเผย” มาเป็นการ”พูดคุยในทางลับ” ซึ่งอาจจะได้ผลมากกว่าการ”พูดคุยแบบเปิดเผย” อย่างที่ผ่านมาก็เป็นไปได้  โดยเฉพาะ”รัฐบาล” ต้องมีการ”พูดคุย”ในทางลับกับผู้นำประเทศมาเลเซีย เพราะหาก”มาเลเซีย” ยังคง”สนับสนุน” ให้”กองกำลังของบีอาร์เอ็น” อยู่ใน”บางรัฐของมาเลเซียอย่างที่เป็นอยู่ ” การที่จะ”ยุติ” ปัญหาการ”แบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนภาคใต้” คงเกิดขึ้นไม่ง่ายนัก ทั้งหมดทั้งปวง ก็ต้องติดตามว่า”นายกรัฐมนตรี” เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็น”ผู้ถืออำนาจ” ในด้านของความมั่นคง  โดยที่ไม่มีการมอบอำนาจให้ “รองนายกรัฐมนตรี” คนไหน จะดำเนินการอย่างไรในเรื่องของจังหวัดชายแดนภาคใต้…..

@ก็ต้องชื่นชม “นิพนธ์ คนขยัน” สส.จังหวัดบึงกาฬ นักการเมืองจาก”ที่ราบสูง” ที่”อภิปราย” เรื่องของ”ที่ดินทุ่งเลี้ยงสัตว์” กว่า 20,000 ไร่ ใน จ.พังงา ที่รัฐบาลเตรียมใช้ในการสร้างสนามบินที่ภูเก็ต  2 เพราะ”ขยายการเติฐโตของการท่องเที่ยว” เพราะ ที่ดินใน”ทุ่งเลี้ยงสัตว์” แห่งนี้ มี”นายทุน” เข้าไป ครอบครอง และมีการออก”เอกสารสิทธิ์”ไปแล้วบางส่วน ซึ่งอยู่ในการ”ถือครอง”ของคนใน”ตระกูลใหญ่” ในพื้นที่ และเกี่ยวข้องกับนักการเมืองบางพรรค   นักการเมืองจาก”ที่ราบสูง” เห็นถึงปัญหาของ”ทุ่งเลี้ยงสัตว์”แห่งนี้ แต่”นักการเมือง” ในพื้นที่ภาคใต้กลับ”เงียบฉี่” กับปัญหาที่เกิดขึ้น  ไม่มีข้อมูล หรือ”เกรงใจคนกันเอง”    ล่าสุดข่าวว่า เจ้าของที่ดิน มีการ”ต่อรอง” กับบางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับเรื่อง”ราคาที่ดิน” ที่จะต้องมีการ”เวนคืน” เพื่อเรียกร้องให้ได้ราคาแพงๆ……เรื่องที่ดิน”ทุ่งเลี้ยงสัตว์” ที่”รัฐบาล” จะใช้ในการ”สร้างสนามบิน” ต้องเริ่มต้นที่การตรวจสอบว่าการออก”เอกสารสิทธิ์” ของผู้ที่”ถือครอง” ว่าเป็นออก”เอกสารสิทธิ์” ที่ถูกต้อง หรือ”ผิดกฎหมายหรือไม่” ถ้าเป็นการออกที่ผิดกฎหมาย นอกจากต้อง”เพิกถอน” คืนที่ดินให้กับ”รัฐบาล” แล้ว ยังต้อง”เอาผิด” กับ เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ครอบครองด้วยด้วย นี่คือสิ่งที่ถูกต้องและรัฐบาลต้องทำให้เป็นจริง  ก็เชื่อว่า”นิพนธ์ คนขยัน” ที่นอกจากเป็น สส. จ.บึงกาฬ แล้ว ยังเป็น “เลขานุการของคณะกรรมาธิการ ปปช.อีกด้วย ก็ต้องใช้ “บทบาท” ของ “เลขานุการ ปปช.ในการ”ตรวจสอบ”เรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเป็นการ”ทุจริต” ขนาดใหญ่……

@โยกย้ายครั้งนี้ พ.ต.อ.ภัทรวิชญ์ คีตะโมทนียกุล รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้ขยับขึ้นเป็น พล.ต.ต. ทำหน้าที่”ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง” ในฐานะที่”คลุกคลี” ในพื้นที่ เป็นเวลานาน ก็หวังว่า คงจะทำหน้าที่ ในการแก้ปัญหาเรื่อง”อาชญากรรม” ที่ยังเกิดขึ้นสูงในพื้นที่ได้ดีขึ้น ส่วนที่ “กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต” นี้ได้ พล.ต.ต. สินเลิศ สุขุม ผบก.สันติบาล 3  มาทำหน้าที่ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต  ก็เหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งมี”ชาวต่างชาติ” ที่เป็น”นักลงทุน” และเป็น”นักท่องเที่ยว”เข้ามาอยู่ใน ภูเก็ต เป็นจำนวนมาก  จะได้ใช้ความรู้ในการเป็น”ตำรวจสันติบาล” มาใช้ประโยชน์กับปัญหาของจังหวัดภูเก็ต  และ ยินดีด้วยกับ”พล.ต.ต.วิสูตร นาคจู “ผบก.พิสูจน์หลักฐาน 9 ที่ ขยับขึ้นไปสู่ตำแหน่ง รอง ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เป็นสายงานเดิมๆที่ทำมาโดยตลอดและคงจะได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ของ ภาคใต้ในเรื่องงานพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเป็นงานสำคัญ ในการ”เอาผิด” กับกลุ่มก่อการ้าย เพื่อจะได้นำ”คนผิดเข้าซังเต”มากขึ้น…..พูดถึง”การท่องเที่ยว” ที่ ประเทศไทยยัง”หวังเป็นอย่างยิ่ง” ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมา ถึงกับในคนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว บางคน เสนอ”ไอเดีย” แสนจะบรรเจิด ให้ “รัฐบาลไทย” นำตำรวจจีนเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อสร้างความความ”มั่นใจ” ให้กับ นักท่องเที่ยวจีน เรื่องนี้”แค่คิดก็ผิดแล้ว” จึงเห็นด้วยกับ”พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่ รีบออกมา”คัดค้าน” ความเห็นในเรื่องนี้ หรือจะให้ยุบ” กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว” แล้วไปเอา”ตำรวจจากจีน จาก รัสเซีย เข้ามา เพื่อดูแล นักท่องเที่ยว จะประเทศเหล่านั้น  ถามเถอะ คิดได้แค่นี้จริงๆหรือ….

@กระทรวงมหาดไทยโดย “อนุทิน ชาญวีรกุล” รัฐมนตรีว่าการ และ รองนายกรัฐมนตรี   มีนโยบายในเรื่อง”จัดระเบียบการขายใบกระท่อม –น้ำกระท่อม” ที่”เกลื่อนกลาด” ทั้งใน ตลาด ในชุมชน และ สองข้างถนนในทุกภาค ทั่วประเทศ  เพื่อให้มีการ ปฏิบัติตามกฎหมาย ก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า”ผู้ว่าราชการจังหวัด” แต่ละจังหวัด จะตอบสนอง นโยบายเรื่องการ”จำหน่ายพืชกระท่อม”ได้แค่ไหน….ที่ จ.สงขลา ถนนสาย “สนามบินหาดใหญ่” และ”ถนนสายเอเชีย” หาดใหญ่ –พัทลุง ที่เป็นถนน”สายหลัก” ก็เต็มไปด้วยการ จำหน่าย”น้ำกระท่อม” ที่เป็นการ”ต้มขายกันเอง” และไม่รู้ว่ามีการ”ผสมยาแก้ไอ” หรือ”สารอะไรลงไปบ้าง ก็ขอฝากเป็น”การบ้าน” ไปยัง” สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา ให้ดำเนินการกับถนนทั้ง 2 สาย ให้เป็นตัวอย่าง ให้เป็น”ถนนปลอดน้ำกระท่อม” ที่”ผิดกฎหมาย”…..ที่สำคัญ วันนี้  “เขตทางหลวง” ทั้ง 2 ด้าน มีการ”บุกรุก” ทั้งการตั้ง”ซุ้มขายของ” และการ”ปักป้ายโฆษณาสินค้า” เต็มไปหมด  โดยที่ปล่อยให้มีการ”รุกล้ำ” ตามใจชอบ เหมือนกับบ้านเมือง ไม่มี”กฎระเบียบ” ซึ่ง”สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา ต้องมีการ”บูรณาการ” กับ “แขวงทางหลวง” ให้เข้ามาดำเนินการให้ถูกต้อง นอกจากทำ”กฎหมาย” ให้เป็น”กฎหมาย” แล้ว ยังเป็นการจัดระเบียบ”บ้านเมือง” ให้ดู”สวยงาม”ด้วย……

@เห็นด้วยนะกับการที่ “”ฝ่ายปกครอง” สั่งให้ “สถานบันเทิง” ในจังหวัดสงขลา “ปิด-เปิด” ตามที่กฎหมายกำหนด หลังจากที่ปล่อยให้”หย่อนยาน” กฎหมายไม่เป็นกฎหมายมาเป็นเวลาหลายปี เมื่อฝ่ายปกครองที่เป็น” เจ้าของเรื่องเอาจริง” ตำรวจก็ต้องทำตาม “  สภ. เมือง,หาดใหญ่,คอหงส์ “ และ” สภ.สะเดา” จ.สงขลา คือ 4 อำเภอ ที่มี “สถานบันเทิง” ตั้งอยู่เป็นจำนวนมากคงต้อง”หวานๆร้อนๆ” เพราะอยู่ในช่วง”พิจารณาโยกย้าย” บรรทัดนี้ ยินดีกับ พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ” ผกก.สภ.เมือง สงขลา ที่ โรงพักเมืองสงขลา” ได้รับการ “คัดเลือก” เป็น “สถานีตำรวจดีเด่น” ข่าวว่า “โยกย้ายเที่ยวนี้”  พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ” จะได้”ขยับเข้ามาเป็น”ผกก.ที่ โรงพักใหญ่ ของ จ.สงขลา …..

@เรื่องที่ยังแก้ไม่ตก ในจังหวัดชายแดนภาคใต้คือเรื่อง”คนเถื่อน”ที่”ยิ่งจับยิ่งมาก” แสดงให้เห็นว่าเป็นการ”เกาไม่ถูกที่คัน” เพราะถ้าการ”จับกุม” เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด จำนวน”คนเถื่อน” จาก”เมียนมา” จาก”กัมพูชา,อินเดีย, คงจะไม่”ทะลักทลาย” ให้ถูกจับกุมอย่างทุกวันนี้ ล่าสุด” พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว”  ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส” มีการจับกุม”ชาวอินเดีย” และ”ปากีสถาน” ได้จำนวนมาก  ในตัวเมือง สุไหงโก-ลก  มีทั้งที่มี หนังสือเดินทางแต่”โอเวอร์สเตย์” และที่ไม่มี”หนังสือเดินทาง”ในข้อหา หลบหนีเข้าเมือง …..และที่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ก็จับกุม” ชาวอินเดีย” ที่ “เข้าเมืองผิดกฎหมาย” มีการใช้”ดวงตราปลอม” ในหนังสือเดินทาง  วันนี้ “ชาวอินเดีย” เข้ามา”ท่องเที่ยว” ในประเทศไทย และ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ค่อนข้างมาก ซึ่ง “เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง” ต้องมี”มาตรการ” ในการ”ตรวจสอบ” เพราะจาก”รูปการณ์ที่เกิดขึ้น” แสดงให้เห็นว่ามี”คนเถื่อน”ที่เป็นชาวอินเดีย แอบแฝงเข้ามาโดยผิดกฎหมายของเข้าเมือง ที่สำคัญคือเข้ามาเพื่อ”ก่ออาชญากรรม” และการทำ”ธุรกิจผิดกฎหมาย” ไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยว……

@ทุกข์ของชาวบ้านกับหน้าที่ของ”ผู้แทนราษฎร์ ที่เป็นของคู่กัน ชาวบ้านท่าหรั่ง ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เดือดร้อนจากการที่”ค่าเวนคืนที่ดิน” แนวถนนสายเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ ไม่มีความคืบหน้า ล่าสุด “เดชอิศม์ ขาวทอง” ( นายกชาย ) สส.เขต 5 สงขลา  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ควงแขน”มาดามน้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล” สส.เขต 6  ลงพื้นที่พบกับ กลุ่มชาวบ้าน โดยรับปากจะ ประสานกับ”รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม” เพื่อให้ ชาวบ้านมั่นใจว่า จะได้รับค่า”เวนคืนในปี 67 นี้…..เมืองท่องเที่ยวอย่าง จ.ภูเก็ต มีปัญหา ล่าสุด “ผู้ประกอบอาชีพกลุ่มร่มหลากสี”ที่เป็น ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลกะรน  ที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะ”ผู้บริหารท้องถิ่น” อนุญาตให้มีเอกชนเพียงกลุ่มเดียวที่ทำมาหากินริมหาดได้  เข้ายื่นหนังสือถึง “โสภณ สุวรรณรัตน์” ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความ”ช่วยเหลือ” ในการประสานงานกับ”ท้องถิ่น” เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับเรื่อง”ร่มและเตียง” ในการให้บริการนักท่องเที่ยว ก็ต้องคอยดูว่า” พ่อเมืองภูเก็ตคนใหม่” จะดำเนินการปลอดทุกข์ให้ชาวบ้านได้ผลหรือไม่ …..

@ค่าแรง ขึ้นแน่แต่ไม่ใช่ 400 บาท นี่คือคำพูดของ “ พิพัฒน์ รัชกิจประการ”  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้”สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว” ส่วนจะขึ้นได้เท่าไหร่ ต้องรอความเห็นความหลายภาคส่วน โดยต้องรอ”สภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ” กับธนาคารแห่งประเทศไทย” เพื่อ สรุปสภาวะ “เงินเฟ้อ” และ”การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เห็นด้วยกับ”เสนาบดีกระทรวงแรงงาน” เรื่องการขึ้น”ค่าแรง” ต้องมีสูตรและต้องเป็นตาม”ขั้นตอน” และ”ขั้นบันได” เพราะเกี่ยวกับ” เจ้าของกิจการ” และ”นักลงทุน”ด้วย ไม่ใช่เรื่องของ”ผู้ใช้แรงงาน”เพียงอย่างเดียว “บรรทัดสุดท้าย” ได้ขึ้น”ค่าแรง” แต่”ตกงาน” กับยัง”งานทำ” แต่ค่าแรงไม่ถึง 400 จะ เลือกอย่างไหน…..และหลังขึ้น”ค่าแรง” ค่าสินค้าอุปโภค บริโภค จะมีการปรับขึ้นจาก”กลุ่มทุนผู้ผลิตสินค้าหรือไม่” เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ” ภูมิธรรม เวชยชัย”เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์ ในการ มิให้”กลุ่มผู้ผลิตสินค้า”ขึ้นราคาสินค้าเพื่อ รับกับ”ค่าแรง” ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นอย่างนั้นทุกครั้งที่มีการ”ขึ้นค่าแรง” ที่สุดท้าย”ค่าแรงที่แรงงาน”ได้รับก็จะกลายเป็นของ”กลุ่มทุน” จากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น นั่นเอง…….

@ส่วนเรื่อง “ปืนเถื่อน” และการ”พกพาอาวุธปืน” ที่ “อนุทิน ชาญวีรกุล” มท. 1 ให้ นโยบายว่า ปี 2567 จะมีการ”จัดระเบียบ” กับเรื่องของ” อาวุธปืน” ก็ดีนะ เพราะ หลังจากเรื่อง”กราดยิงที่พารากอน” ไม่มีการพูดถึง เรื่องการ”จัดการกับปืนเถื่อน”และเรื่องการ”ครอบครองอาวุธปืน” ก็ค่อยๆ “เลื่อนหายจากสังคมไทย” ปืนสวัสดิการ” ของ”กรมการปกครอง,ของสำนักงานตำรวจ และ หน่วยงานอื่นๆ นั่นแหละ”ตัวดี” ที่มีการ”ซื้อสิทธิ์-ขายสิทธิ์” ให้กับ”บุคคลภายนอก” จน”เลอะเทอะ”ไปหมด “นายอำเภอ ที่เป็น”นายทะเบียนอาวุธปืน” ต้องมีการ”ควบคุมให้รอบครอบ”…..เรื่อง”น้ำท่วมซ้ำซาก”ในทุก พื้นที่ของ ทุกจังหวัด เป็นเรื่องที่ “รับรู้กัน” ทั้ง”ฝ่ายปกครอง,ท้องถิ่น”  และ”บรรเทาสาธารณภัย” จึงขึ้นอยู่กับการ”บูรณาการ” ของ”ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้การ”ดูแลช่วยเหลือ” เป็นไปอย่างมี”ประสิทธิภาพ” ที่ จ.สงขลา “สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา ลงพื้นที่ เพื่อตรวจดู”พื้นที่ท่วมซ้ำซาก”ไปแล้วในหลายอำเภอ เป็นการ”รับมือ” ก่อนที่”อุทกภัย” จะมาเยือน…..

@ส่วนที่  จ.ปัตตานี “พาตีเมาะ สะดียามู” ผู้ว่าหญิงแกร่ง ก็ ลงพื้นที่ด้วยตนเอง รวมทั้งสั่งการให้”นายอำเภอ” ทุกอำเภอ มีความพร้อมในการช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับที่ จ.ยะลา “อำพล พงศ์สุวรรณ” ผู้ว่าราชการจังหวัด แม้จะเป็น”มือใหม่” แต่มีประสพการเป็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดมาหลายจังหวัด ประสบการณ์ในการ” รับมือน้ำท่วม” โชกโชน  เชื่อว่าถ้าเกิด”อุทกภัย” ขึ้นในพื้นที่ ไม่มีคำว่า”เอาไม่อยู่” แน่นอน…..เหลือแต่ที่ จ.นราธิวาส ที่ยังไม่มี”ผู้ว่าราชการจังหวัดตัวจริง” มีเพียง “ปรีชา นวลน้อย” รอง ผวจ.รักษาการ  ปัญหาเรื่องของ”ฝีมือ” ไม่เป็นสองรองใคร แต่การที่”ไม่ใช่ตัวจริง” การสั่งการอาจจะมีปัญหา  แต่ จ.นราธิวาส กำลัง”ทหาร” ของ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ามีความเข้มแข็ง และยังมี”หน่วยนาวิกโยธินภาคใต้” ของ”ค่ายจุฬาภรณ์” ที่มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน ที่พอจะ”อุ่นใจ”ได้อยู่…..

@“คลื่นลมกลางอ่าวไทยเงียบสงบ” เรือน้ำมันเถื่อนทางทะเลมีการทอดสมอ ”หยุดเคลื่อนขบวน”เป็นการชั่วคราว …..แต่ “น้ำมันเถื่อนทางบก” ที่”ขนโดยรถกระบะ รถเก๋ง ดัดแปลง” และจาก” บรรดารถบรรทุกหัวลากระหว่างประเทศ” ยังมีการขนน้ำมันเถื่อนอย่าง”เป็นล่ำเป็นสัน” เจ้าของพื้นที่ ช่วยกัน “จับกุม” เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศหน่อยนะ…..ก็เหมือนกับที่ผ่านมา การเลือกตั้ง “ตัวแทนเกษตรกร” ของภาคใต้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มี”เกษตรกร” ออกมาใช้สิทธิ์ในการ “เลือกตัวแทน”ของตนเองน้อยมาก สาเหตุเป็นอย่างไร 1 ไม่เข้าใจไม่มีการ “ประชาสัมพันธ์” ให้ เกษตรกรรับทราบอย่างทั่วถึง หรือ 2 ไม่ สนใจ เพราะไม่มีใคร”มาจ้าง” ให้ไป ลงคะแนน เพราะ ณ วันนี้ในความรู้สึกของประชาชน เรื่องการ”เลือกตั้ง” ไม่ว่าจะเป็น แบบไหน อย่างไร ต้องมี”ค่าจ้าง” จึงจะออกไปเลือกตั้ง…..แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า  สวัสดีครับ 

———————————————————–

ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล 

ลงพื้นที่.  พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ อ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง ต.ตะโหมด  อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ติดตามสถานการณ์ ไล่ล่า เชาวลิต ทองด้วง นักโทษหนีคดี โดยมี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ 

แลกเปลี่ยนข้อมูล.  พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาฯศอ.บต.พบปะทีมผู้บริหารเทศบาลนครยะลา เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อมูลการดำเนินงานของเทศบาลนครยะลา ในการร่วมกันพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานเทศบาลนครยะลา ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ สำนักงานเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา 

ติดตามความคืบหน้า.  สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ติดตามการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและรั้วอีเล็กทรอนิกส์ ที่ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดย  พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.กอ.รมภาค 4   และ ปรีชา นวลน้อย รอง ผวจ.นราธิวาส ให้การต้อนรับ 

บิดาฝนหลวง.    จิรวิทย์ แซ่เจ็ง ประธานผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและคริบครัวฯ จังหวัดยะลา ร่วมพิธีวันพระบิดาฝนหลวง ณ ศาลานิบง เทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา 

ถอดบทเรียน. พ.ต.อ.ทวี สองส่อง รมต.กระทรวงยุติธรรม เป็นประธานพิธีปิดการ บรมถอดบทเรียน เพื่อพัฒนาขององค์กรสตรี ณ ห้องประชุมโรงแรมซีเอส ปัตตานี  โดยมี รศ.อภิญญา เวชยชัย ที่ปรึกษาสมาคมนักสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และคณะให้การต้อนรับ 

ห่วงใย.  พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.มอบหมาย นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง รองเลขาธิการ ศอ.บต.เยี่ยมครอบครัว อส.พท. เสรี หะซา ที่เสียชีวิต จากสถานการณ์ความไม่สงบ ณ บ้านพัก ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 

กฐินสามัคคี.  สุพิศ พิทักษ์  อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นประธานทอดกฐินสามัคคี ณ วัดสองพี่น้อง  ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา  จ.  สงขลา โดยมี สมนึก พรหมเขียว ผวจ.สงขลา ร่วมในพิธี 

ป้องกันการทุจริต.  ณ ห้องประชุมเทศบาลคลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง บัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต และชมรมตรังต้านโกง ลงพื้นที่ประชุม ติดตามหาแนวทางการดำเนินการตามข้อเสนอแนะ เพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับรถบรรทุกน้ำหนักเกินในจังหวัดตรัง ร่วมกับ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 7 , สถานีตรวจสอบน้ำหนักรัษฎา  อำเภอรัษฎา , สถานีตำรวจภูธรรัษฎา และนายกเทศบาลตำบลคลองปาง โดยให้มีการบังคับใช้กฎหมายให้เอาผิดและลงโทษกับผู้ประกอบการที่บรรทุกน้ำหนักเกินในฐานะผู้ใช้จ้างวาน ตามมาตรา 84 

รับมอบ.   ที่โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ทรงกลด สว่างวงศ์ รอง ผวจ.ตรัง รักษาราชการแทนผวจ.ตรัง เป็นประธานในพิธีรับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้แก่โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ ตามโครงการ “KING POWER THAI POWER พลังคนไทย” พร้อมกล่าวขอบคุณฯ โดยมี ธีรชาติ ธนสารกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดโครงการฯ 

เสวนา.  สมนึก พรหมเขียว  ผวจ.สงขลา เป็นประธานประชุม เสวนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการดำเนินงานของโครงการกองเกษตร อบจ.สงขลา ณ โรงแรมลากูน่าแกรน์แอนสปา อ.เมือง จ.สงขลา โดยมี ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา ให้การต้อนรับ 

ลงนามเอ็มโอยู.  ไพเจน มากสุวรรณ์นายก อบจ.สงขลา ได้ร่วมลงนามข้อบันทึกความร่วมมือระหว่าง อบจ.สงขลากับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนประจำตำบลที่โอนย้ายมาขึ้นกับ  อบจ. ณ โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ต  อ.สิงหนคร  จ.สงขลา 

ครอบครัวสุขสันต์.  อำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา เปิดโครงการ “ครอบครัวสุขสันต์ ใส่หมวกกันน็อคกันทุกคน” มอบหมวกกันน็อคให้กับอำเภอเสี่ยงสูง โดยมี วีรวัฒน์ ศิริกุลพิพัฒน์ หน.ปภ.ยะลา ณ ห้องประชุมโรงเรียนพัฒนาวิทยา เมือง จ.ยะลา 

เยี่ยมประชาชน.   สมศักดิ์​ ทิพย์​มณี​ นายอำเภอ​ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนพบปะประชาชน และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต บางปู และต้องการความช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพ ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.บางปู จากนั้นนายอำเภอยะหริ่งได้พบปะและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือในการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม ณ หมู่ที่ 2 ตำบลยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี 

ปิดการแข่งขัน.   ซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ ได้รับมอบหมายจาก ฯพณฯวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ให้เป็นประธานพิธีปิดการแข่งขันฟุตบอล YAHA F.A. Cup  2023 ครั้งที่ 2 LAKOR  CONSTRUCTION  X PANG  SPORT  By ทีมงานอะไรก็ได้ และเป็นตัวแทนมอบถ้วยรางวัลของ พณฯวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ให้กับทีมชนะเลิศ ณ สนามที่ว่าการ อ.ยะหา จ.ยะลา 

เลือกตั้ง.   จรูญศักดิ์ หมาดเท่ง นายอำเภอรามัน จังหวัดยะลา พร้อมด้วย ยืนยง คิดถูก ปลัดอาวุโสอำเภอรามัน และ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง เข้าตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรฯ พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำหน่วยเลือกตั้ง ณ ใต้หอประชุมพระเศวตสุรคชาธาร ที่ว่าการอำเภอรามัน จ.ยะลา 

สร้างไม่เสร็จ  ทิ้งร้าง  โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ เทศบาลนครตรัง  อาคาร 4 ชั้น ใช้งบประมาณ 34,950,000 บาท (สามสิบสี่ล้านเก้าแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) กำหนดสร้าง 30 กันยายน 2564  แล้วเสร็จ  29 กันยายน 2565 นี่เลยเวลาที่กำหนดมาปีกว่า ยังไม่มีความเคลื่อนไหว  คืบหน้า  เห็นเพียงแต่โครงสร้าง ที่ไม่มีความคืบหน้า 

ผู้แทนเกษตรกร.   เจริญกิจ มีศิริ อนุกรรมกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.สงขลา ลงพื้นที่ติดตามการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรตัวแทนภาคใต้ณศาลา SML.ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ  จ.สงขลา 

สัมมนา.   มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา พร้อมด้วย  รุ่งกานต์ สิริรัตน์เรืองสุข รอง ปลัด อบจ.ยะลา รักษาราชการแทนปลัด อบจ.ยะลา ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข ผู้อำนวยการกองคลัง ผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สิน ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ ตัวแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัด เข้าร่วมโครงการอบรมสัมมนาวิชาการ เรื่อง “หนึ่งปีกับการถ่ายโอน สอน. และ รพ.สต. สู่ อบจ. “ เพื่อสรุปประเด็นปัญหา-อุปสรรค ณ ห้อง เคที แกรนด์คอนเวนชั่น โรงแรมเคทีพาเลซ แอนด์คินเวนชั่น แจ้งวัฒนะ กทม.