สาวกซีรี่ส์แนวโรแมนติก แฟนตาซี ที่มีความคอมเมดี้เบา ๆ อย่าพลาด “My Man is Cupid” อีกซีรี่ส์ที่กำลังได้รับการพูดถึงในตอนนี้ ทาง Prime Video  โดยพระนางเคมีดี อย่าง  จางดงยุน และ  นานะ มาถ่ายเรื่องราวพรหมลิขิตระหว่างกามเทพผู้สูญเสียปีก และ สัตวแพทย์สาวผู้อาภัพรัก 

ซึ่ง “My Man is Cupid” เป็นเรื่องราวของความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและยากที่จะเป็นจริงได้ของกามเทพหนุ่มและมนุษย์ผู้หญิง “ชอนซังฮยอก” (รับบทโดย จางดงยุน) เขาคือกามเทพผู้สูญเสียปีกของตัวเองไปจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าเมื่อ 500 ปีก่อน ตั้งแต่นั้นมาเขาต้องแปลงรูปโฉมและใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์คนหนึ่งหลายต่อหลายครั้ง เพื่อที่จะได้ปีกของเขากลับคืนมา จนในที่สุดเมื่อเขาใกล้ได้ปีกกลับคืน เขาก็ได้มาพบกับ “โอแบครยอน” (รับบทโดย นานะ) สัตวแพทย์สาวแสนสวยที่ใคร ๆ ต่างพากันตกหลุมรัก แต่โชคร้ายเมื่อผู้ชายคนใดพยายามที่จะสานสัมพันธ์กับเธอ เขาเหล่านั้นกลับต้องพบกับอุบัติเหตุเหนือธรรมชาติที่ยากจะอธิบายได้  เธอไม่เคยประสบความสำเร็จในความรักและเชื่อว่าเป็นเพราะเธอถูกสาป หนึ่งเทพจำแลงและหนึ่งมนุษย์ที่ต่างอาภัพในรัก ถูกดึงดูดเข้าหากัน แต่โชคชะตาจะเข้าข้างพวกเขาหรือไม่?

 ล่าสุด “ฮาอึน” มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษ  จางดงยุน และ  นานะ ถึงเบื้องหลังการทำงาน กว่าจะออกมาเป็นซีรี่ส์เรื่องนี้ โดย นานะ  ได้เผยว่าการได้เจอกับ จางดงยุน นั้นก็เป็นเหมือนพรหมลิขิตเช่นกัน แถมการทำงานก็เคมีดีมาก ๆ  นอกจากนี้ยังได้เปิดมุมมองที่พวกเขามีต่อความรัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกามเทพ โชคชะตา รวมไปถึงสิ่งที่ทั้งคู่คิดว่าจะทำให้ความนั้นยืนยาวด้วย

Q :  ช่วยบอกเหตุผลที่คุณตัดสินใจตอบรับแสดงในซีรี่ส์เรื่องนี้  อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดคุณ?

จางดงยุน : ผมอยากจะรับบทในผลงานแนวโรแมนติกคอเมดี้ที่เต็มไปความด้วยร่าเริงสนุกสนาน ตอนที่ผมได้รับบทเรื่องนี้มาอ่าน ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ผ่อนคลาย สนุกและน่าสนใจ เป็นการเล่าเรื่องราวความรักและตีความผ่านความเป็นแฟนตาซี ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ดึงดูดใจผมมากเลย

นานะ : โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบอะไรที่เป็นโรแมนติกคอเมดี้อยู่แล้วค่ะ และบทมันก็น่าสนใจมากๆ ด้วย องค์ประกอบความแฟนตาซีที่มีก็ช่วยส่งเสริมเรื่องราวในซีรีส์ด้วย ดังนั้นฉันจึงเพลิดเพลินกับการอ่านบทมากเลย และสิ่งที่สำคัญที่สุดฉันได้ยินมาว่า ดงยุน จะรับบทเป็น ‘ชอนซังฮยอก’ ด้วย ฉันคิดว่านี่แหละเพอร์เฟกต์เลย ฉันคิดว่าดงยุนจะเหมาะกับตัวละครของเขามากๆ ส่วนฉันเองก็รักตัวละคร ‘แบครยอน’ ดังนั้นฉันเลยตกลงรับแสดงและอยากเห็นว่าเคมีของพวกเราจะเป็นยังไง

Q : วิธีพัฒนาคาแรคเตอร์ของตัวละครที่คุณแสดงอย่างไร และจุดไหนที่คุณมองว่าท้าทายมากที่สุด? คุณได้รับการแนะนำอะไรจากผู้กำกับหรือผู้เขียนบทหรือไม่?

จางดงยุน : สำหรับ ‘ชอนซังฮยอก’ เป็นตัวละครที่มีความแฟนตาซีมาก ผมจึงต้องทำการบ้านค่อนข้างเยอะว่าเขาควรจะแสดงความเป็นมนุษย์มากแค่ไหน และเขาควรแสดงความเป็นกามเทพที่มีความแฟนตาซีอย่างไร จุดที่ท้าทายส่วนหนึ่งก็คือเรื่องนี้มีคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (CG) เป็นจำนวนมาก ผมเองก็นึกภาพไม่ออกว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ดังนั้นการที่ผู้กำกับหาตัวอย่างมาให้ผมดูเป็นแนวทาง จึงมีส่วนช่วยผมในการแสดงค่อนข้างมาก

นานะ : ตัวละครของฉันเป็นสัตวแพทย์ที่มีความสามารถมากๆ มีหลายฉากที่ฉันต้องแสดงความเชี่ยวชาญออกมา เช่น การผ่าตัด ดังนั้นเราจึงต้องมีสัตวแพทย์จริงๆ อยู่ด้วยในฉากเวลาถ่ายทำ เพื่อที่ฉันจะขอคำแนะนำจากเขาได้

Q : การรับบทเป็นสัตวแพทย์ มีรายละเอียดเฉพาะเจาะจงอะไรของตัวละคร ที่คุณต้องเน้นเป็นพิเศษ เพื่อที่จะถ่ายทอดตัวละครออกมาได้อย่างสมบทบาทหรือไม่? ความสนุกในการถ่ายทำร่วมกับสัตว์ต่างๆคืออะไร หรือมีเหตุการณ์อะไรสนุกๆระหว่างถ่ายทำร่วมกับสัตว์เหล่านั้นหรือไม่?

นานะ : เนื่องจากสัตวแพทย์เป็นอาชีพเฉพาะทาง ฉันก็เลยต้องเรียนรู้คำศัพท์และความรู้เฉพาะทางหลายอย่างเลยค่ะ มีหลายฉากเลยที่ฉันต้องถ่ายทำกับลูกหมาในโรงพยาบาล สิ่งที่ฉันรู้สึกตอนที่ถ่ายทำกับพวกมันก็คือ ฉันตกหลุมรักน้องหมาพวกนี้มากๆ ฉันชอบความไร้เดียงสาของพวกมันสุดๆ มันเป็นความรู้สึกเหมือนได้ปลดล็อก ฉันรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากตอนที่ถ่ายทำกับพวกมัน

Q : มีความเหมือนหรือความแตกต่างกันอย่างไร ระหว่างตัวละครที่คุณแสดง และตัวตนจริงๆ ของคุณ?

จางดงยุน : ตัวละครของผม ‘ชอนซังฮยอก’ ค่อนข้างมีความแฟนตาซี เขาเป็นกามเทพ ในขณะที่ผมเป็นคนธรรมดา ดังนั้นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็อาจจะเป็นในส่วนนี้ แต่ส่วนที่เหมือนกันอาจจะเป็นตรงมุมมองของความรัก ชอนซังฮยอก เป็นกามเทพที่ช่วยให้คนอื่นตกหลุมรักกัน และในขณะเดียวกันเขาก็กล้าแสดงออกเพื่อความรักของตัวเองและพร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อความรัก ผมเองก็มีมุมแบบนั้นบ้างเหมือนกันครับ ถ้าเป็นเรื่องความรัก ผมก็เหมือนรถแทรกเตอร์ ที่พร้อมพุ่งชน และกวาดทุกอย่าง ผมว่านี่แหละ คือความเหมือนกันของเรา

นานะ : ส่วน ‘แบครยอน’ เป็นคนที่ร่าเริง และเต็มไปด้วยความสุข ฉันก็เป็นแบบนั้นเวลาฉันรักใครสักคน นั่นแหละความคล้ายกันของเราค่ะ และแบครยอนเป็นคนตรงไปตรงมา และกล้าหาญในเรื่องความรัก ฉันก็มีมุมแบบนั้นเหมือนกันค่ะ

Q : ช่วยเล่าเบื้องหลังกองถ่ายและเกร็ดสนุก ๆ ระะหว่างการถ่ายทำหน่อย?

นานะ : ในการถ่ายทำ มีสัตว์ต่างๆ มาเข้าฉากด้วยเยอะเลยค่ะ มันทำให้รู้สึกมีความพิเศษจริงๆ บรรยากาศเลยเต็มไปด้วยความน่ารักและวุ่นวาย อย่างพวกลูกหมาก็ช่วยสร้างบรรยากาศในกองให้รู้สึกใกล้ชิดกันด้วย เพราะทีมงานและนักแสดงจะชอบเข้ามาเล่นกับลูกหมาพวกนี้ อีกอย่างที่ตลกก็คือ พอมีสัตว์มาเข้าฉากเยอะก็จะมีกลิ่นตัวจากสัตว์เหล่านี้ไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะพยายามทำยังไง พวกเราก็จะยังได้กลิ่นอยู่

จางดงยุน : เบื้องหลังอีกอย่างคือ อาหารในกองอร่อยมากครับ พวกเราเจริญอาหารกันมากๆเลย

Q : คุณช่วยเล่าถึงฉากที่คุณประทับใจ โดยเลี่ยงสปอยล์ใด ๆ หน่อย?

จางดงยุน : จะมีฉากที่ผม นานะ และเพื่อนร่วมบ้านของเธอ ซึ่งแสดงโดยกงมินจอง ได้เข้าฉากด้วยกัน เป็นฉากที่เราสามคนเจอกันที่บ้านของแบครยอน มันน่าจดจำสำหรับผมนะเพราะตอนถ่ายทำเราสนุกกันมากๆ ในฉากเราดื่มมักกอลลีด้วยกันด้วย

นานะ : ฉันก็ชอบฉากนี้เหมือนกันค่ะ มันสนุกมากๆเลย อยากให้รอติดตามกันดูว่าเกิดอะไรขึ้นในเรื่องบ้าง และภาพที่ออกมาจะสนุกเหมือนเวลาพวกเราถ่ายทำมั้ย รอดูกันให้ได้นะคะ

Q : เคมีการแสดงของพระเอกและนางเอก ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะทำให้ซีรีส์โรแมนติคสักเรื่อง ประสบความสำเร็จได้ คุณคิดว่าเคมีของพวกคุณเป็นธรรมชาติมั้ย? คุณทำงานร่วมกันอย่างไรในการทำให้คนที่ดูเชื่อ ในความเชื่อมโยงของตัวละคร?

นานะ : เราแทบไม่ต้องพยายามทำอะไรเลย เคมีของเราทั้งคู่ดีอยู่แล้วตั้งแต่นอกจอ ทำให้ส่งผลต่อเคมีของตัวละครเราทั้งสองในจอด้วย สำหรับฉันเลยคิดว่ามันไม่ยากและมันก็มีความเป็นธรรมชาติมากๆเลยค่ะ

จางดงยุน : เราทั้งคู่มีประสบการณ์ในการแสดงแนวโรแมนติกคอเมดี้อยู่แล้ว ดังนั้นเราแค่เชื่อใจกันและกัน เรามีความศรัทธา 100% เต็ม ในการแสดงของแต่ละคน ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในการถ่ายทำเลย

Q : คุณคิดว่ามีความเหมือนหรือความแตกต่างอย่างไร ระหว่างเคมีตัวละครทั้งสองของคุณในเรื่อง กับเคมีระหว่างพวกคุณเองในการถ่ายทำ?

นานะ : มันมีความแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ ในชีวิตจริงเรามีเคมีระหว่างกันที่ออกไปทางเพื่อนพ้อง จริงๆ แล้ว จางดงยุนเด็กกว่าฉันนะ แต่เด็กกว่าแค่ปีเดียว ดังนั้นฉันว่าเราเลยดูเป็นเพื่อนกันมากกว่า

จางดงยุน : ในซีรีส์เคมีช่วงแรกของเราจะดูมีความป่วนเล็กๆครับ ในซีรีส์นี้ ‘โอแบครยอน’ เป็นตัวละครที่ซุ่มซ่าม เงอะงะมาก เป็นคนที่อาจจะเมาแล้วลืมทุกอย่าง แต่ระหว่างเรื่องราวดำเนินไปอยากให้ติดตามกันครับว่าเคมีของพวกเราจะไปทางไหน ส่วนเคมีในชีวิตจริงก็อย่างที่เธอว่า เรามีความเป็นเพื่อนและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆ บางครั้งก็เหมือนพี่น้อง มีบางครั้งที่เธอเรียกผมว่าน้องชายด้วย (หัวเราะ)

Q : ภาพจำของกามเทพคือ เทพชาวกรีกมีปีก ที่ทำให้คนตกหลุกรักกันด้วยลูกศรแห่งความรัก แล้วถ้าคุณต้องเป็นกามเทพยุคใหม่ เครื่องมือหรือวิธีการอะไรที่คุณคิดว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม?

จางดงยุน : ผมไม่ได้คิดว่ามันจะต้องเป็นอุปกรณ์อะไร แต่มันน่าจะเป็นอะไรบางอย่างที่ผมสามารถเอามาใช้กับตัวเองได้ด้วย ผมอยากทำให้คนที่ผมรัก มาหลงรักผม (หัวเราะ) ดังนั้นเราจะยิงลูกศรใส่กันและกัน ผมจะยิงลูกศรใส่คนที่ผมรัก เพื่อทำให้เขาหลงรักผม หลังจากนั้นผมจะยิงลูกศรใส่ตัวเองเพื่อทำให้เรารักกัน และมีความสุขด้วยกันยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม แต่มาคิดดูอีกทีมันอาจจะกลายเป็นไม่มีความสุขก็ได้นะ เพราะผมกำลังโกงให้คนอื่นรักผม ถ้าอย่างนั้นผมขอเลือกวิธีแบบเดิมก็ได้ครับ แต่อยากให้แน่ใจว่าเลือกคนที่มีใจตรงกัน แต่ไม่กล้าบอกกันอะไรประมาณนี้

Q : ถ้าคุณได้เป็นคิวปิดจริงๆ คุณจะทำอะไรเป็นอย่างแรก คุณจะใช้ชีวิตแบบไหน? และจะทำอย่างไรให้คนสองคนตกหลุมรักกัน?

จางดงยุน : ผมเป็นคนคิดเยอะมากครับ ดังนั้นผมคิดว่าผมคงจะนั่งคิดแบบจริงจังมากๆ ว่าใครควรจะรักกับใคร และพวกเขาจะเหมาะสมกันจริงๆไหม ผมจะไม่ยิงธนูแบบส่งเดช เพราะผมมีหน้าที่ทำให้คนจำนวนมากสมหวังในความรัก ผมจะคิดคำนวณอย่างดีเพื่อให้ทุกอย่างลงตัว แต่ว่าอย่างแรกเลยคือผมจะต้องทำให้ความรักของตัวเองสมหวังก่อน

Q : คุณเชื่อเรื่องกามเทพหรือพรหมลิขิตมั้ย และในชีวิตเคยเจอเรื่องราวเหมือนพรหมลิขิตบ้างหรือเปล่า?

นานะ : ฉันเชื่อเรื่องพรหมลิขิต แต่คิดว่ามันไม่ได้จำกัดอยู่แค่รูปแบบของคนรัก แต่เป็นผู้คนที่เราจะได้พบเจอและได้ผูกพัน ฉันคิดว่าการที่ฉันได้พบเจอดงยุน ได้ทำงานด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพรหมลิขิต การที่ฉันคิดแบบนี้ มันทำให้ฉันเห็นคุณค่าของทุกคนที่ฉันพบเจอในชีวิต ฉันเชื่อว่าพรหมลิขิตเป็นเรื่องสำคัญมาก

จางดงยุน : ผมให้คุณค่าความตั้งใจ มากกว่าพรหมลิขิตนะ ที่จริงผมเชื่อในพรหมลิขิต แต่ผมเป็นคนที่เชื่อด้วยว่าความตั้งใจแน่วแน่ จะสามารถก้าวข้ามและเอาชนะพรหมลิขิตได้

Q : เรื่องราวในซีรี่ส์ “My Man is Cupid” นั้นเกี่ยวกับความรัก อยากรู้ว่า ทั้งคู่คิดว่าสิ่งที่ทำให้ความรักยืนนาน คืออะไร?

นานะ : ไม่ยอมแพ้ มั่นคงในความรัก พยายามรักษาความสัมพันธ์ไว้ นั่นคือทุกอย่างแล้ว

จางดงยุน : ผมก็คิดไม่ต่างกัน โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ได้คิดว่าการตกหลุมรักหรือช่วงเริ่มต้นความสัมพันธ์เป็นส่วนสำคัญที่สุดของความรักนะ ทุกคนล้วนประหม่าและตื่นเต้นกับมัน มันคือช่วงเวลาที่ดีสำหรับทุกคน แต่ผมว่าสิ่งที่ดีกว่าและทำได้ยากกว่า คือการก้าวผ่านอุปสรรคและรักษาความสัมพันธ์ไว้ การที่เราจะมีความรักที่ยืนยาว เราควรจะรักใครสักคน โดยที่ไม่สูญเสียตัวตนของเราไป เราอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุง แต่ต้องไม่ฝืนจนไม่เป็นตัวเอง เพราะสุดท้ายเราก็จะมีขีดจำกัด ผมคิดว่าการไม่พยายามเปลี่ยนตัวตนอีกคนและเคารพในสิ่งที่เขาเป็น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก

Q : แล้วคิดว่าความรักหรือโชคชะตาที่มีผลมากกว่ากัน อย่างเช่น รักกันได้เพราะลูกศรของกามเทพ หรือจะเป็นเพราะความทุ่มเทและความพยายาม?

จางดงยุน : ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของความพยายาม ความพยายามเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า

นาน : โชคชะตาพามาให้พบกัน และต้องสานต่อกันด้วยความพยายาม

Q : สำหรับ “โอแบครยอน” เป็นตัวละครที่ต้องพบกับความผิดหวังในความรักเพราะความโชคร้ายเสมอๆ ถ้าในชีวิตคุณมีชะตากรรมแบบเดียวกันกับเธอ คุณจะยอมแพ้ให้กับโชคชะตาและยอมอยู่คนเดียว หรือยังมองหาความรักต่อ และทำไมถึงคิดแบบนั้น? คุณจะพูดอะไรกับโอแบครยอนถ้าได้เจอเธอในชีวิตจริง?

นานะ : ฉันจะไม่ยอมหมดหวังและมองหาความรักต่อค่ะ ถ้าฉันได้เจอแบครยอนในชีวิตจริง ฉันอยากจะบอกเธอว่า วันหนึ่งเธอจะค้นพบโชคชะตาของตัวเองอย่างแน่นอน

Q : อยากให้แฟน ๆ ที่ได้ดู My Man is Cupid  ได้รับ Message อะไรกลับออกไปมากที่สุด?

จางดงยุน : ผมหวังว่าทุกคนจะไม่หมดหวังกับความรักครับ

นานะ : ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ครอบครัว และทุกคนในชีวิต พวกเขาล้วนมีความพิเศษและสำคัญมากต่อตัวคุณ เรื่องราวในซีรีส์ของเราจะทำให้คุณตระหนักถึงความสำคัญของความสัมพันธ์เหล่านั้น ฉันหวังว่าคุณจะรู้สึกได้ถึงสิ่งต่างๆ รอบตัวคุณ ด้วยหัวใจที่อบอุ่นยิ่งขึ้น ผ่านเรื่องราวของเราค่ะ

Q : ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอเมดี้มีเยอะมากในตลาดปัจจุบัน บอกเราหน่อยว่าสิ่งที่ทำให้เราควรเลือกซีรีส์เรื่องนี้มาดูคืออะไร?

นานะ : เรื่องนี้เป็นรอมคอมในแบบที่ไม่เหมือนเรื่องไหน ฉันไม่คิดว่าจะมีเรื่องไหนเหมือนซีรีส์เรื่องนี้ของพวกเรานะ มันเป็นเรื่องราวความสนุกสนานที่สดใหม่สำหรับผู้ชม เป็นซีรีส์อารมณ์ดีที่สามารถดูได้ทั้งครอบครัว ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของเรื่องนี้

จางดงยุน :  เป็นซีรีส์ที่ดูแล้ว จะต้องหัวเราะแน่นอนเลยครับ

Q :   ท้ายสุดมีอะไรอยากฝากถึงแฟน ๆ ชาวไทยที่รอชมซีรีส์ “My Man is Cupid” บ้าง?

จางดงยุน : มีองค์ประกอบหลายอย่างที่คุณคาดหวังได้จากซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอเมดี้ และผมคิดว่าซีรีส์ของเราเรื่องนี้ มีทุกอย่างที่คุณคาดหวังครับ

มาดื่มด่ำเรื่องราวของ “พรหมลิขิต” และ “ความรัก” ผ่านเคมีและฝีการแสดงของ จางดงยุน และ  นานะ  มาลุ้นกันว่ากามเทพหนุ่มและสัตวแพทย์สาวที่ได้โคจรมาเจอกันด้วยเรื่องราวความรักที่โชคชะตาดลให้ต้องพบกับอุปสรรคในความสัมพันธ์ พวกเขาจะสามารถเอาชนะและมีความรักที่สมหวังได้หรือไม่?

ฮาอึน