กลายเป็นผลงานที่คอซีรี่ส์แนวแฟนตาซีดราม่ากำลังพูดถึง สำหรับ “Death’s Game” ทาง Prime Video  ที่สร้างจากเว็บตูนยอดนิยมชื่อเดียวกัน เขียนบทและกำกับโดย ฮาบยองฮุน พร้อมดึงนักแสดงมากฝีมือ พัคโซดัม ที่แฟนทั่วโลกคุ้นหน้าเธอจากหนังเกาหลีเรื่องดัง เจ้าของรางวัลออสการ์ “Parasite” มารับบท “ยมทูตสาว” ประกบคู่ ซออินกุก ที่แจ้งเกิดจากการเป็นศิลปิน ก่อนผันตัวเข้าสู่วงการนักแสดง พร้อมด้วยผลงานที่หลากหลาย ซึ่งครั้งนี้เขามารับบทเป็นหนุ่มอับโชค เจอแต่เรื่องร้าย จนเลือกปลิดชีพตัวเอง

โดย  “Death’s Game” เล่าเรื่องราวของ “ชเวอีแจ” (ซออินกุก) ชายหนุ่มผู้ประสบเคราะห์ในทุกด้านของชีวิต ทั้งตกงาน ถังแตก แฟนที่คบมา 6 ปีบอกเลิก เมื่อชีวิตต้องพบกับความล้มเหลวที่ถาโถม เขาจึงตัดสินใจควบคุมความตายด้วยการปลิดชีพตัวเอง “ยมทูต” (พัคโซดัม) จึงลงโทษ “อีแจ” ให้กลับชาติมาเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งหมด 12 ครั้ง ใน 12 ชีวิตที่แตกต่างกัน โดยที่ “อีแจ” จะต้องพยายามเอาชีวิตรอดจากความตายที่กำลังจะเกิดขึ้น! ซึ่งนอกจากพระนาง ที่สาดเคมีได้อย่างเข้ากันจนถูกใจแฟน ๆ แล้ว ในเรื่องยังอัดแน่นด้วยเหล่านักแสดงชั้นนำ ที่ต้องมารับเป็น “ชเวอีแจ” ในชาติภพต่าง ๆ นำโดย คิมจีฮุน  , ชเวซีวอน , ซองฮุน  , คิมคังฮุน  , จางซึงโจ , อีแจอุค  , อีโดฮยอน  , โกยุนจอง  , คิมแจอุค  และ โอจองเซ

ล่าสุด “ฮาอึน” มีโอกาสได้พูดคุยกับ  พัคโซดัม และ  ซออินกุก แบบสุดเอ็กซ์คลูซีพ บอกเล่าแนวคิดและมุมมองต่อความตาย และการได้แสดงเรื่องนี้ รวมทั้งยังเผยให้ฟังว่าหากได้เกิดใหม่อีก 12 ครั้ง อยากจะเกิดเป็นใครกันด้วย

Q : พูดถึงความน่าสนใจของบทบาท “ชเวอีแจ” และ “ยมทูต” ที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเล่นเรื่องนี้หน่อย?

ซออินกุก  : ผมเป็นแฟนคลับผลงานต้นฉบับที่เป็นเว็บตูนครับ ตอนที่รู้ว่าจะทำออกมาเป็นละครก็ตั้งตารอมาก ๆ ดีใจมาก ๆ ที่ได้มารับบท ‘ชเวอีแจ’ ครับ

พัคโซดัม : ตอนที่ได้อ่านบทซีรีส์เรื่องนี้ ฉันก็ตั้งคำถามกับตัวฉันเองในฐานะพัคโซดัม ที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง คิดว่าฉันใช้ชีวิตมาอย่างดีหรือเปล่า ฉันโอเคหรือเปล่า และทำให้ฉันคิดถึงคนรอบตัวที่มีความสำคัญกับฉันเยอะมาก ๆ เลยค่ะ คิดว่าผู้ชมหลายคนน่าจะดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วสามารถพูดคุยหัวข้อต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย และเชื่อมโยงไปกับมันได้อย่างมาก ตอนที่ฉันอ่านบทครั้งแรกก็เสียน้ำตาไปเยอะมาก เป็นผลงานที่ทำให้รู้สึกว่าอยากทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงความรู้สึกนี้ไปด้วยกันค่ะ”

Q : ในซีรีส์เรื่องนี้ตัวละครของคุณ “พัคโซดัม” ดูมีพลังอำนาจ แง่มุมใดของตัวละคร “ยมทูตแห่งความตาย” ที่คุณคิดว่าน่าสนใจที่สุด และคุณนำสิ่งเหล่านี้มารวมเข้ากับการแสดงของคุณได้อย่างไร?

พัคโซดัม : ตอนที่ฉันอ่านบทครั้งแรก ถึงแม้ว่าฉันจะได้รับข้อเสนอให้เล่นบทยมทูตแห่งความตาย แต่ตัวละครที่ฉันสนใจที่สุดคือ ‘อีแจ’ ค่ะ ฉันไหลไปกับความรู้สึกของอีแจ คือการตัดสินใจของอีแจ ตัวละครของฉันเป็นคนที่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นมากที่สุด และเรื่องราวมันก็เกิดขึ้นจากการที่ฉันอยากให้เขาได้ตระหนักรู้ถึงสิ่งนี้เลยลงโทษเขา บทของฉันที่จะต้องตัดสินให้เขาตายและเกิดใหม่ถึง 12 ครั้ง ก็เลยเป็นบทที่ยากมาก แต่ในความคิดฉัน ฉันรู้สึกว่าตัวละครนี้เข้าใจความรู้สึกของอีแจและสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ได้ดีกว่าใคร ถึงแม้ว่าตัวละครยมทูตแห่งความตายของฉันจะเป็นตัวละครที่ไม่สามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ คือถ้าเป็นมนุษย์ก็สามารถแสดงความรู้สึกได้ แต่ฉันเป็นยมทูตแห่งความตาย ก็เลยไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาให้เห็นภายนอกได้ แต่ตัวละครของฉันเข้าใจความรู้สึกของอีแจค่ะ ก็เลยพยายามจะไหลตามไปกับความรู้สึกของอีแจค่ะ

Q : คาแรกเตอร์ “อีแจ” ต้องเกิดใหม่ถึง 12 ชาติโดยที่จิตวิญญาณภายในยังเป็นคนเดิม อยากรู้ถึงการเตรียมตัวเบื้องหลังว่าคุณและนักแสดงคนอื่นๆ มีวิธีถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดแบบไหนให้ตัวละครออกมาสมบูรณ์ แม้จะต้องเปลี่ยนตัวนักแสดงไปเรื่อย ๆ?

ซออินกุก  : พวกเราไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกันแบบตัวเป็น ๆ เท่าไหร่ เท่าที่รู้ก็คือตอนอ่านบทก็แยกกันอ่านครับ และผู้กำกับก็จะแชร์ให้นักแสดงท่านอื่น ๆ ฟังว่าตอนถ่ายทำกับผม ‘อีแจ’ มีภาพลักษณ์แบบไหนบ้าง และก็ได้ยินมาว่าผู้กำกับก็จะช่วยกำกับว่าอยากให้ชเวอีแจในแต่ละชาติออกมาแบบไหนครับ”

Q : หากคุณ “ซออินกุก” เพิ่มชีวิตที่ 13 ซออินกุกอยากมีชีวิตแบบไหน เพราะอะไร?

ซออินกุก  : ชีวิตที่ 13 เหรอครับ ต่อให้เป็นชีวิตที่ 13ผมก็เลือกซออินกุก เพราะว่าผมรักตัวเองมาก ๆ ครับ แล้วก็ในชีวิตที่ 13 นี้ น่าจะได้มีความสุขไปกับหลาย ๆ อย่าง ไม่ได้จะบอกว่าตอนนี้ไม่มีความสุขนะครับ แต่คิดว่าถึงตอนนั้นน่าจะเข้าใจความเป็นไปของโลกใบนี้ เหตุและผลต่าง ๆ ในระดับพระโพธิสัตว์ กลายเป็นผู้บำเพ็ญเพียรแล้ว คิดว่าน่าจะปล่อยวางความต้องการต่าง ๆ ลง และอยากใช้ชีวิตไปกับคนจำนวนมากขึ้น น่าจะใช้ชีวิตแบบนั้นแล้วก็ตายไป และชีวิตที่สิบสี่ก็คงจะเริ่มขึ้นครับ

Q : ถ้าต้องเลือกระหว่างเกิดเป็นตัวเองได้อีก 12 ครั้ง กับเกิดเป็นคนอื่น 12 ครั้ง คุณทั้งคู่จะเลือกแบบไหน เพราะอะไร?

ซออินกุก  : ผมเลือกเกิดเป็นตัวเองอีก 12 ครั้งครับ ก่อนอื่นเลย ถ้าเกิดเป็นคนอื่น 12 ครั้ง ผมรู้สึกว่าต้องฝ่าฟันสิ่งใหม่ทุก ๆ ครั้งเลย ต้องเจอความยากใหม่ ๆ ถึงแม้ว่าเราก็ไม่รู้หรอกว่าชีวิตจะเป็นยังไง แต่ถ้าเกิดเป็นตัวเอง 12 ครั้ง ผมก็จะรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวผมมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง เลยคิดว่าน่าจะใช้ชีวิตได้อย่างชาญฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ครับ และผมก็รักตัวเองมากด้วยครับ

พัคโซดัม : ฉันก็เลือกเกิดเป็นตัวเองเหมือนกันค่ะ และฉันก็รักตัวเอง ต่างคนก็ต่างรักตัวเอง แต่ก็มีบางทีเหมือนกันที่ฉันไม่เข้าใจตัวเอง และมีบางครั้งที่รู้สึกเสียดายกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าได้รับโอกาสเกิดเป็นตัวเองถึง 12 ครั้ง น่าจะรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะ

Q : สิ่งยากที่สุดและชอบที่สุดในการแสดงในเรื่องนี้ คืออะไร?

ซออินกุก  : สำหรับความยากผมตอบได้แบบชัดเจนเลยครับข้อนี้ คือผมเป็นคนกลัวความสูงครับ เวลาขึ้นไปที่สูง ๆ จะรู้สึกกลัว ตอนแรกผมไม่รู้มาก่อนว่าจะกลัวหนักขนาดนี้ แต่ซีรีส์เรื่องนี้มีเล่นแอ็คชั่นติดสลิง ยกเครนขึ้นไปสูงมาก ตอนนั้นกลัวมากเลยครับ ไม่ใช่ว่าลำบากกายหรือใจ แต่การต้องก้าวผ่านช่วงเวลานั้นไปให้ได้มันยากมากเลยครับ ตอนถ่ายฉากนั้นยากที่สุด” ส่วนจุดที่ชอบนั้น ก็คือตลอดระยะเวลาที่แสดงเป็นอีแจ ผมมีความสุขมากครับ และอีแจก็เป็นตัวละครที่ผมชอบตั้งแต่ในผลงานต้นฉบับเว็บตูน ได้แสดงเป็นอีแจก็มีความสุข และได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับฮาบยองฮุนของพวกเราก็มีความสุขมากเช่นเดียวกัน ผมได้เห็นภาพผู้กำกับคอยให้คำแนะนำต่าง ๆ แบบน่ารักและมีมารยาทมาก บางทีก็มีคาริสม่าสูง ผมเลยได้ถ่ายทำอย่างมีความสุขอยู่ข้าง ๆ ครับ และในส่วนของคุณพัคโซดัมที่อยู่ข้าง ๆ ผมตอนนี้ ที่จริงแล้วตัวละครอีแจกับยมทูตแห่งความตายเป็นความสัมพันธ์ที่เกลียดกันมาก ที่เกาหลีจะเรียกว่าความสัมพันธ์แบบ “ฮย็อมกวัน” (ความสัมพันธ์ที่เกลียดกัน) แต่เวลาแสดงก็คือแสดง นอกเหนือจากนั้นพวกเราก็สบาย ๆ เอาใจใส่กันระหว่างถ่ายทำครับ ตลอดระยะเวลาที่ถ่าย  ‘Death’s Game’  ผมมีความสุขมากครับ และได้มีโอกาสมาโปรโมทซีรีส์พร้อมกับนักแสดงพัคโซดัมแบบตอนนี้เองผมก็มีความสุขมากครับ

พัคโซดัม : จุดที่ยากสำหรับฉันคือตอนที่อ่านบท รู้สึกว่าสงสารอีแจมาก อยากจะกอดเขามาก และมันก็เป็นหน้าที่ของฉันด้วย ในฐานะยมทูตแห่งความตายที่จะทำให้อีแจตระหนักได้ จากการตายและเกิดใหม่ถึง 12 ครั้ง ซึ่งจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เวลาที่เขาร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าฉัน การที่ต้องลงโทษเขาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะพัคโซดัมคนธรรมดา ฉันรู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากและสงสารด้วย น่าจะเป็นเพราะฉันอินไปกับบทซีรีส์มากด้วย ฉันชอบบทละครเรื่องนี้มากค่ะ  ส่วนจุดที่ชอบก็คือ ถึงแม้ว่าจุดเหล่านั้นจะยากก็ตาม แต่ฉันก็ดีใจที่เป็นบุคคลที่ทำให้เขาตระหนักรู้ถึงจุดนั้นได้ค่ะ

Q : ท้ายสุดก่อนหน้าที่จะเจอกับความตาย (Death) ตัวจริงในเรื่อง ทั้งสองท่านเคยจินตนาการไว้ไหมว่าถ้าความตายเป็นคนจะหน้าตาเป็นยังไง เพราะคุณ “พัคโซดัม” ที่รับบทเป็นความตาย สวยมาก?

ซออินกุก  : ที่จริงพวกเราก็เคยคุยเรื่องนี้กันเหมือนกันครับ มีภาพที่ผมคิดไว้เหมือนกัน ในซีรีส์เรื่อง  ‘Death’s Game’ นี้ หน้าตาของความตายน่าจะคล้ายกับ ‘อีแจ’ ในชาติก่อนสักชาติหนึ่ง เพราะว่าเขาบอกว่าความตายเนี่ยไม่มีรูปร่าง แค่มีอธิบายว่าเห็นได้ง่ายแบบนี้ และหน้าตาจะเปลี่ยนไปมาก น่าจะเหมือนกับชเวอีแจที่คิดว่าการตายเป็นเรื่องเล่น ๆ และใช้คำบางคำดูถูกความตายและตัดสินใจแบบสุดโต่ง เลือกการตัดสินใจที่ทำให้คนรอบข้างเจ็บปวด ก็เลยจินตนาการว่าน่าจะหน้าตาเหมือนชเวอีแจในก่อนหน้านั้นครับ

พัคโซดัม : ก่อนอื่นขอบคุณมาก ๆ ที่ชมแบบนั้น ในซีรีส์มีบทพูดที่ว่า ‘ฉันสามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้’ ค่ะ ตัวฉันเองไม่เคยลองคิดว่าความตายจะรูปร่างหน้าตาแบบไหน แต่คิดว่าจากนี้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ ถ้าคนนึกถึงความตายก็น่าจะนึกถึงฉัน ก็จะลองเอนจอยไปกับจุดนี้ดูนะคะ

 มาพิสูจน์ฝีมือการแสดงของ “พัคโซดัม” และ “ซออินกุก ” กันอีกครั้ง พร้อมเรียนรู้ความหมายของชีวิตและมุมมองต่อความตายไปพร้อม ๆ กัน

ฮาอึน