“น้ำยาหล่อเย็น” คงเป็นคำที่คนใช้รถเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง แต่หลายๆคนคงจะสงสัยไม่ใช้น้อย ว่าน้ำยาหล่อเย็นนั้นมีความจำเป็นแค่ไหน หรือสามารถใช้น้ำธรรมดาแทนได้หรือไม่? วันนี้ “รู้ก่อนเหยียบ” ขอไขข้องใจถึงปัญหาดังกล่าวกันครับ

“น้ำยาหล่อเย็น” (COOLANT) หน้าที่หลัก ๆ ตามทฤษฎีก็คือ ช่วยป้องกันการแข็งตัวของน้ำในหม้อน้ำ และระบายความร้อนไม่ให้เกิดความร้อนขึ้นสูงจนโอเวอร์ฮีท ช่วยลดการเกิดสนิมและตะกรัน ซึ่งเป็นต้นตอของการอุดตันภายในหม้อน้ำ

ประเภทของน้ำยาหล่อเย็น
รูปแบบของน้ำยาหล่อเย็นในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ทั่วไปมีหลักๆอยู่ 2 ชนิด คือ แบบที่ผสมแล้วพร้อมใช้งาน และแบบเข้มข้น
-แบบที่ผสมแล้วพร้อมใช้งาน วิธีใช้เพียงแค่ถ่ายน้ำยาหล่อเย็นของเดิมออกจนหมด และจึงใส่น้ำยาหล่อเย็นแบบผสมเรียบร้อยเข้าไปแทนที่
-แบบเข้มข้น ผู้ใช้ต้องนำมาผสมเองกับน้ำที่อยู่ในระบบหล่อเย็นอยู่แล้ว ซึ่งต้องผสมในอัตราส่วนที่กำหนดไว้ นั้นหมายถึงไม่ควรเติมมาก หรือน้อยจนเกินไป เพราะการผสมหรือการเติมน้ำยาหล่อเย็นในอัตราส่วนที่ไม่ถูกต้องนั้น อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหากับอุปกรณ์ ชิ้นส่วน ในระบบหล่อเย็นในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ “น้ำยาหล่อเย็น” ที่ได้คุณภาพไม่ว่าจะเป็นสูตรเข้มข้นที่ต้องผสมน้ำหรือสูตรผสมเสร็จใช้เติมได้เลย จะมีสารเคมีที่ชื่อว่า “เอทิลีน ไกลคอล” (ETHYLENE GLYCOL) เป็นส่วนประกอบ โดยคุณสมบัติของเจ้า “เอทิลีน ไกลคอล” นั้นมีจุดเดือดสูงกว่าน้ำธรรมดาเกือบสองเท่าตัวที่ 196 องศาเซลเซียส แต่ในน้ำยาหล่อเย็น “เอทิลีน ไกลคอล” จะถูกทำให้เจือจางลง ให้มีจุดเดือดอยู่ที่ประมาณ 120 องศาเซลเซียส เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้ในรถยนต์ นอกจากนี้น้ำยาหล่อเย็น ที่ได้คุณภาพ ยังมีคุณสมบัติ ลดการเกิดสนิม และการกัดกร่อน ซึ่งเป็นต้นตอของการอุดตันและรั่วซึมของหม้อน้ำ ขณะที่สีสันของ น้ำยาหล่อเย็น ทำให้สังเกตจุดน้ำรั่วซึมได้ง่าย

จากข้อมูลข้างต้นขอตอบว่า ไม่จำเป็นเสียทีเดียวที่จะต้องใช้ “น้ำยาหล่อเย็น” เพราะน้ำสะอาดธรรมดาก็สามารถใช้เติมหม้อน้ำรถยนต์ได้ทุกยี่ห้อรุ่น ส่วนน้ำยาหล่อเย็นมีข้อดีตรงช่วยเพิ่มจุดเดือดของน้ำให้สูงกว่าน้ำปกติ ช่วยลดการเกิดสนิม-ตะกรันและสีสันอันฉูดฉาดมีระโยชน์ในการสังเกตจุดรั่วซึม ฉะนั้นจึงอยู่ที่ความพึงพอใจในการเลือกใช้งานของเจ้าของรถครับ…

………………………..
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ
โดย “ช่างเอก”
ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ [email protected]