เมื่อวันแห่งความรักที่ผ่านมา นักเขียนสาวจากนิวยอร์กที่ชื่อว่า โจแอนนา สมีคาวสกี ได้เขียนบทความให้สำนักข่าวบิสซิเนส อินไซเดอร์ เล่าถึงประสบการณ์การไปงานแต่งงานของคนแปลกหน้าโดยที่ตัวเองไม่ได้รับเชิญ 

จุดเริ่มต้นของ โจแอนนา มาจากการที่เธอเข้าร่วมกลุ่มในเฟซบุ๊กที่เป็นชุมชนของบรรดา “ว่าที่เจ้าสาว” ซึ่งต้องการความช่วยเหลือในวันสำคัญของพวกเธอ โจแอนนา พบบางข้อความในกลุ่มที่โพสต์โดยเจ้าสาวคนหนึ่ง ระบุว่าเธอรับสมัคร “แขก” ร่วมงานเพื่อให้ครบตามจำนวนต่ำสุดของแขกในงานตามที่สถานที่จัดเลี้ยงตั้งเงื่อนไขไว้

ในสหรัฐนั้น สถานที่จัดเลี้ยงบางแห่งจะกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมงานขั้นต่ำไว้ เพื่อใช้กำหนดเรื่องอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ในงาน พูดง่าย ๆ ว่าเป็น “แพคเกจเริ่มต้น” ที่คู่บ่าวสาวจะต้องจ่าย ไม่ว่าจะมีแขกมางานครบตามจำนวนขั้นต่ำหรือไม่ ทำให้มีคู่บ่าวสาวหลายคู่รู้สึกว่าไม่อยากจะให้อาหารและเครื่องดื่มในงานต้องเสียเปล่า ถ้าหากแขกรับเชิญของพวกเขามีไม่ถึงจำนวนขั้นต่ำ ซึ่งตรงจุดนี้เองที่เป็นช่องทางแห่งโอกาสของบรรดา “แขกไม่ได้รับเชิญ” หรือแขกแปลกหน้าที่ไม่รู้จักทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว หรือแม้กระทั่งแขกคนอื่น ๆ ในงาน

ครั้งแรกที่ โจแอนนา ไปร่วมงานแต่งงานในฐานะแขกไม่ได้รับเชิญนั้น เธอไปพร้อมกับแฟนของเธอ ทั้งคู่ได้รับการจัดให้นั่งร่วมโต๊ะกับแขกคนอื่น ๆ ซึ่งไม่มีใครรู้จักคู่บ่าวสาวเลยเช่นกัน แต่พวกเขาก็ร่วมสนุกไปกับงานได้อย่างไม่ขัดเขิน

โจแอนนา เล่าว่าเธอไปงานแต่งงานของคนแปลกหน้าในฐานะแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาแล้วถึง 4 งาน แต่ไม่เคยบอกคนอื่น ๆ ในงานว่าเธอไม่รู้จักทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เผื่อว่าเจ้าของงานจะไม่ได้บอกญาติ ๆ หรือเพื่อนฝูงของพวกเขาไว้ก่อนว่าจะมีแขกพิเศษประเภทนี้มาร่วมงานด้วย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปในงานแล้ว เธอมักจะเข้าไปแนะนำตัวกับเจ้าสาวและทำความรู้จักกันไว้ และยังคงติดต่อสานสัมพันธ์กับบางรายในเวลาต่อมา 

นอกจากนี้เธอยังนำของขวัญสำหรับบ่าวสาวไปมอบให้ที่งานเสมอ แม้ว่าคู่บ่าวสาวจะไม่ได้คาดหวังอะไรจาก “แขก” ที่แค่มาเติมที่นั่งในงานให้เต็มแบบเธอ 

หลังจากที่ โจแอนนา สวมรอยเป็นแขกไม่ได้รับเชิญครั้งแรก เธอก็เข้าร่วมกลุ่มในเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Sisterhood of the Traveling Wedding Guest, Bridesmaid, or Surrogate Mom ซึ่งเป็นกลุ่มที่บรรดาเจ้าสาวจะเข้ามาโพสต์ขอความช่วยเหลือสำหรับวันแต่งงานของพวกเธอ

นิวยอร์เกอร์สาวกล่าวว่า เธอหวังว่าจะยังคงทำตัวเป็นแขกไม่ได้รับเชิญตามงานแต่งงานแบบนี้ไปได้อีกหลาย ๆ ปี เพราะบรรยากาศแห่งความสุขของงานแต่งงานให้พลังแก่เธอ ทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาและเธอยังได้พบปะ ทำความรู้จักคนที่น่าสนใจตามงานเหล่านี้ด้วย

ที่มา : people.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES