ล่าสุด กระทรวงการคลัง โดย ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล หรือดร.ออฟ เลขานุการรมว.คลัง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไว้ชัดถ้อยชัดคำ ว่า กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เตรียมที่จะทบทวนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ใหม่อีกครั้ง
เรื่องของเรื่อง…การจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในปีนี้ ปี 2567 จากเดิม…ต้องถือว่าเป็นปีที่ต้องจัดเก็บแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่ 100% ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆให้กับใคร ๆ ทั้งสิ้น
เพราะที่ผ่านมาได้ลดหย่อนให้แล้วถึง 15% ถือว่าผ่อนปรนกันมาพอสมควรแล้ว ที่ตามไทม์ไลน์แล้ว ก็จะต้องเริ่มเสียภาษีกันในช่วงเดือนมิ.ย.นี้นั่นแหล่ะ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/03/Eco-11-03-67-04.jpg)
ทั้งนี้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.2562 และได้เริ่มเก็บภาษีกันไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 แต่ด้วยเหตุการณ์โควิด ทำให้รัฐบาลต้องยอมปรับลดอัตราภาษี มาตั้งแต่ปี 63 จนถึงปี 66 ที่มีการลดอัตราภาษีให้ถึง 90% (ในปี 63 – 65) และลดให้อีก 15% ในปี 67
ก็ปฏิเสธกันไม่ได้ว่า ทุกวันนี้ สภาพ!! เศรษฐกิจ ก็ยังลุ่ม ๆ ดอนๆ ใช่ว่าจะทะยานขึ้นสูงปรี๊ด มีเงินมีทองใช้กันถ้วนหน้า ต่อให้มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารนานกว่า 6 เดือนแล้วก็ตาม
ต้องยอมรับกันว่า สารพัดปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งภายใน ภายนอกประเทศ ก็เป็นข้อจำกัดสำคัญ ที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ประชาชนคนไทยต้องหืดจับกันไม่น้อยเช่นกัน
**ด้วยเหตุนี้…รัฐบาลจำเป็นที่ต้องไม่สร้างภาระ ต้องไม่ซ้ำเติมให้ประชาชนเดือดร้อน เพิ่มเติมมากขึ้นไปอีก จากภาษีที่ดินฯ ซึ่งกาปรับปรุงหรือการทบทวนในรอบนี้ ดร.ออฟ บอกว่า จะทำทั้งในแง่ประสิทธิภาพในการจัดเก็บและในเรื่องของอัตราภาษี เพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุด
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/03/Eco-11-03-67-03.jpg)
ส่วนการทบทวน จะออกมาในรูปแบบใด ในเวลานี้ยังไม่สามารถบอกในรายละเอียดได้ แต่เบื้องต้น ก็ต้องดูทั้งเรื่องของเวลา และเรื่องของอัตรา ที่ต้องไม่ซ้ำเติมผู้เสียภาษี
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ ประเภทที่อยู่อาศัย ประเภทพาณิชยกรรม ประเภทเกษตรกรรม และประเภทที่ดินรกร้างว่างเปล่า
ขณะเดียวกันที่ดินฯ แต่ละประเภทก็มีอัตราภาษีที่ไม่เท่ากันตามประเภทของการใช้งาน ถ้าเป็นประเภทที่อยู่อาศัย ก็ถูกเก็บในอัตราที่ต่ำกว่า แต่ถ้าไม่มีการใช้งานหรือใช้งานในเชิงพาณิชย์หรือสามารถใช้หารายได้ ก็ต้องเสียภาษีเข้ารัฐเพิ่มสูงขึ้น
ในกรณีของบ้านหลังหลักที่คุณๆท่านๆเป็นเจ้าของที่ดินและตัวบ้าน จะได้รับการยกเว้น ภาษี หากมูลค่าไม่เกิน50 ล้านบาท แต่ถ้ามีราคาตั้งแต่ 50-75 ล้านบาท ก็เสียภาษีในอัตราล้านละ 300 บาท หากมีราคา 75-100 ล้านบาท ก็เสียภาษีล้านละ 500 บาท หากเป็นมหาเศรษฐีมีบ้านราคามากกว่า 100 ล้านบาท ก็เสียภาษีในอัตราล้านละ 1,000 บาท
แต่ถ้าเป็นแค่เจ้าของบ้าน ที่ดินเป็นของคนอื่น รวมไปถึงกรณีที่เป็นคอนโดมีเนียม ก็ได้รับการยกเว้นในช่วง 10 ล้านบาทแรกเท่านั้น หากมีราคาตั้งแต่ 10-50 ล้านบาท ก็เสียภาษีล้านละ 200 บาท ราคา 50-75 ล้านบาท ก็เสียภาษีล้านละ 300 บาท 75-100 ล้านบาท จะเสียล้านละ 500 บาท หากเกิน 100 ล้านบาท ก็เสียในอัตราล้านละ 1,000 บาท เช่นกัน
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/03/Eco-11-03-67-01.jpg)
หากเป็นบ้านหลังที่ 2 3 4 5 เป็นต้นไป ก็ต้องเสียภาษีเช่นกัน ไม่ได้รับการยกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าไม่เกิน 50 ล้านบาท ก็เสียภาษีล้านละ 200 บาท แล้วไล่มาล้านละ 300 บาท 500 บาท และ1,000 บาท เช่นกัน
ที่สำคัญหากเป็นคอนโดมีเนียม ที่ปล่อยเช่า ก็ต้องเสียภาษีล้านละ 200 บาท ไล่ไปเช่นกันค่ะ 300 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท ล้อกันไปเช่นนี้
ขณะที่ประเภทพาณิชยกรรมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในประเภทนี้ ก็ประเภทที่ไม่ได้มีไว้เพื่ออยู่อาศัย เช่น การทำการค้าทุกประเภททั้ง ร้านค้า ปั๊มน้ำมัน อพาร์ทเมนท์ เป็นต้น ก็จะถูกเก็บภาษีสูงกว่าที่อยู่อาศัยถึง 10 เท่า
ส่วนประเภทเกษตรกรรม ในปี 2566 จะยกเว้นภาษีที่ดินฯ ให้กับบุคคลธรรมดาที่ใช้ที่ดินทำเกษตรกรรมในมูลค่า 50 ล้านบาทแรกเท่านั้น ส่วนที่เกินจากนี้จะใช้อัตราภาษี ล้านละ 1,000 บาท เรื่อยไปจนถึง 7,000 บาท หากมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท ขึ้นไป
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/03/Eco-11-03-67-02.jpg)
แต่ถ้าเป็นที่ดินเปล่า ไม่ได้ทำประโยชน์ ประเด็นที่น่าสนใจ อยู่ที่ว่า หากปล่อยให้ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ก็จะเสียภาษีพอ ๆกับ ประเภทพาณิชยกรรม
ที่สำคัญ…หากปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าติดต่อกัน 3 ปี จะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 0.3% ในปีที่ 4 และจะถูกเก็บเพิ่มขึ้น 0.3% ทุก ๆ 3 ปี หากยังไม่ได้นำมาทำประโยชน์
แต่ทั้งหมดการจัดเก็บภาษีที่ดินฯกำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 3% เท่านั้น!!
เอาเป็นว่า… ณ เวลานี้ แม้ประชาชนคนไทยต้อง “แห้ว” ไปกับเรื่องของการแจกเงินดิจิทัล ไปแล้ว ก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่า รับบาลจะหยิบยื่นโอกาสในเรื่องภาษีที่ดินฯนี้อย่างไร?.
……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”