“สงกรานต์ก็ต้องเปียก แต่ถ้าเธอไม่รังเกียจ อยากชวนมาเปียกด้วยกัน…ไม่กล้าสาดไปโดนตัว เพราะกลัวพลาดไปโดนใจ”

เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวอยู่ข่าวหนึ่งที่เกี่ยวกับตำรวจ และที่สำคัญเป็นข่าวที่เป็นเชิงบวก ท่ามกลางข่าวสารเชิงลบมากมายของวงการสีกากี แต่ก็ทำให้รู้สึกอดชื่นชมในการใช้ไหวพริบหูตาว่องไวเพื่อช่วยชีวิตคนๆหนึ่งไว้ได้เลย

เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ขึ้นเมื่อภาพจากกล้องวงจรปิดที่ห้องสอบสวนของ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ จับภาพได้ในขณะที่ ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ ได้นำตัว นายวิมล อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน มาสอบปากคำ และกำลังจะให้ผู้เสียหายมาชี้ยืนยันตัว

แต่ในขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้อยู่นั้น ปรากฏว่า นายวิมล ผู้ต้องหา ซึ่งในขณะนั้นถูกใส่กุญแจมืออยู่ด้วย เจ้าตัวได้เอื้อมไปคว้าขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่วางอยู่บนโต๊ะของพนักงานสอบสวน ต่อหน้าต่อตาตำรวจ ก่อนจะนำขวดเครื่องดื่มชูกำลังทุบที่พื้น เพื่อให้ขวดแตกแล้วใช้ขวดดังกล่าวพยายามจะปาดคอตัวเองและแทงคอตนเองหลายครั้ง

ชั่ววูบนั้น ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ไม่รอช้าปรี่ใช้เท้าถีบเข้ากลางอกผู้ต้องหาทันทีจนหงายท้องเสียหลักพิงกับเก้าอี้ ก่อนจะเข้าล็อกมือและแย่งขวดดังกล่าวออก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในโรงพักอีก 2 นาย พากันเข้ามาระงับเหตุ จากนั้นจึงควบคุมตัวจะกลับห้องขัง แต่พบว่าผู้ต้องหามีบาดแผลที่คอเล็กน้อยและเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายถูกแก้วบาดจนมีแผลด้วยกัน

ตำรวจจึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าปฐมพยาบาล พบว่ามีบาดแผลไม่ลึกและไม่ถูกอวัยวะสำคัญจึงนำตัวผู้ต้องหารายนี้กลับเข้าห้องขัง ท่ามกลางความตื่นตกใจของผู้มาใช้บริการที่ สภ.สำโรงเหนือแห่งนี้

สำหรับผู้ต้องหารายนี้นั้น หลังจากที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายมาโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ และสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ จึงแจ้งตำรวจให้ไปรับตัว แต่ในระหว่างที่กำลังสอบปากคำเพิ่ม ปรากฏว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุจะทำร้ายตัวเอง

ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดไปก่อเหตุในท้องที่ของ สน.บางนา พอถูกเจ้าของทรัพย์หรือตำรวจจับกุมตัวได้ ก็จะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันด้วยการทำร้ายตัวเองเพื่อเรียกร้องให้ผู้เสียหายใจอ่อนสงสารไม่เอาความ

ที่สำคัญได้ผลมาแล้วหลายครั้งด้วย รวมถึงครั้งล่าสุดที่สน.บางนา เนื่องจากมูลค่าความเสียหายไม่มาก กระทั่งล่าสุดมาก่อเหตุในท้องที่สำโรงเหนือซ้ำอีกจนถูกจับได้และก็พบว่าพยายามก่อเหตุทำร้ายตัวเองเพื่อหวังให้ผู้เสียหายใจอ่อน

โดยเหตุการณ์นี้ ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ผู้ใช้เท้าถีบผู้ต้องหาเพื่อช่วยชีวิต เปิดใจว่า ตอนนั้นก็กำลังสอบปากคำผู้ต้องหาตามปกติ ถามข้อมูลชื่อและเรื่องของกลาง ตอนนั้นตัวผู้ต้องหาก็ไม่ได้มีท่าทางเครียดแต่อย่างใด ตอนแรกที่เห็นทางผู้ต้องหาคว้าขวด คิดว่าเขาจะเอามาทำร้ายเราด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นท่าไม่ดีเลยลุกขึ้น เพราะตอนนั้นเขาก็ถือขวดที่ทุบแตกแล้วหันมาทางเราด้วย แต่เขากลับเอาไปทำร้ายตัวเอง จึงตัดสินใจใช้เท้าถีบออกไป เพราะคิดว่ามีรองเท้าใส่อยู่ แก้วแตกจากขวดคงไม่สามารถที่จะทำให้ขาบาดเจ็บได้ และด้านหลังก็มีเก้าอี้รองรับอยู่ ตัวผู้ต้องหาเองเมื่อล้มลงไป ก็คงไม่เป็นอันตรายอะไร

“พอเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผมก็ต้องทำตามหน้าที่ ช่วยเหลือผู้ต้องหาเอาไว้ แต่มันไม่มีวิธีอื่นแล้ว ก็ต้องขอโทษด้วยที่ต้องใช้เท้า ผมเป็นตำรวจ ต้องคิดและระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าผู้ต้องหาคิดจะทำไรบ้าง”

ผู้ต้องหาคนนี้เจ้าหน้าที่เคยจับมาหลายคดีแล้ว ส่วนครั้งนี้ได้รับแจ้งว่าผู้ต้องเข้าไปขโมยพระเครื่อง ขณะกำลังขโมยแล้วเดินออกมา ก็เจอกับเจ้าของบ้านที่กลับมาจากข้างนอกพอดี ก็เลยเรียกชาวบ้านมาช่วยกันจับ นอกจากนี้ยังมีอีกคดีที่ไปงัดห้องอยู่ที่ซอยแบริ่ง 56 อีกหนึ่งคดี ซึ่งร้อยเวรกำลังจะขอออกหมายจับ ก็เลยมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มไป

เมื่อสอบถามตัวมารดาและญาติๆถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาดูแล้ว ก็ได้ความว่า ผู้ต้องหาเป็นคนที่มีนิสัยชอบลักขโมย เพราะเคยมีคดีแบบนี้ แล้วเข้าออกเรือนจำมาแล้วหลายครั้ง ครั้งก่อนที่เคยเอาตัวมา ผู้ต้องหาก็ขอตัวเข้าห้องน้ำแล้วก็มีพฤติกรรมแบบนี้ เหมือนกับว่าเรียกร้องความเห็นใจจากผู้เสียหาย โดยการดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำ

เคยเช็กไปที่โรงพักอื่นก็มีพฤติกรรมแบบนี้จริง จนผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เพราะส่วนหนึ่งตอนที่จับได้ พวกของกลางผู้ต้องหายังไม่ได้เอาไปไหนเลยทำให้เหยื่อใจอ่อน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งญาติไปแล้วว่ายังไงก็ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

แหม..ถ้ามีนิสัยชอบสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้เสียหายขนาดนี้ รอบนี้จึงต้องดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ เอาไปเลย 4 ข้อหา 1.ลักทรัพย์ในเคหสถาน 2.ทำให้เสียทรัพย์ 3.ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ และ4.ทำร้ายเจ้าหน้าที่ .

ข่าวสารตำรวจ

แก้ปัญหาจราจร
พ.ต.ท.พัชร์พิสิฐ บุญสิงห์ใจ รอง ผกก.ป. สภ.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี พ.ต.ท.พลา กร ตราชูนิตย์ สวป. พ.ต.ต.สุทัด กลมกูล สวป.(ชส.) ร.ต.ต.สุทัศน์ ทองวิชัย รอง สว.(จร.) ร้อยเวร 60 ร่วมกับ นายไมตรี ประเสริฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนหัวฬ่อ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงาน และเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศ บาลตำบลดอนหัวฬ่อ ร่วมติดตั้งเสาจราจรล้มลุก และไฟกระพริบ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ บริเวณแยกโซนี่ และในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลดอนหัวฬ่อ เมื่อวันก่อน

มอบเกียรติบัตร
พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มอบหมายให้ ร.ต.อ.ภานุพันธุ์ สุพันทวี รองสวป.สภ.ชุมแพ ร่วมพิธีมอบเกียรติบัตร ให้แก่เด็กนักเรียน โรงเรียนเอี่ยมอินทร ที่ผ่านการอบรม ตามโครงการ การศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน (D.A.R.E. ประเทศไทย)

เล่นพนันประเภท 2 โจ๋งครึ่ม
มีนักท่องเที่ยวเขาร้องเรียนมาว่าภายในงานเกษตรแฟรร์ที่ จ.ระยอง มีการเล่นการพนันประเภท 2 อาทิ ปาโป่ง ปาเป้า บิงโก แกะฉลากเบอร์ฯ อย่างโจ๋งครึ่ม แถมยังมีเด็กและเยาวชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ต้องเข้าไปตรวจสอบ แต่ชุดตำรวจที่เข้าไปตรวจสอบกลับต้องผงะออกมา เมื่อทางผู้จัดงานได้นำขออนุญาตเล่นการพนัน ยิงเป้า ปาหน้าคน ปาหน้าสัตว์ บิงโก มาโชว์ให้ดู ออกโดยอำเภอเมืองระยอง ทำให้ตำรวจที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาทั้ง 6 นาย ต้องเดินทางกลับด้วยความมึนงง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก้ยิ่งแปลกเพราะไม่ตรงกับนโยบายที่ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง เคยประกาศเอาไว้ว่าในระยองต้องไม่มีบ่อนการพนัน แต่ในงานนี้กลับมีการเล่นที่แฝงการเล่นการพนันมอมเมาประชาชน แล้วทำไมถึงยังออกใบอนุญาตให้ได้อีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วยแล้วกัน.

*********************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป