ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกาหลีใต้เกิดภาวะทางตันทางกฎหมายเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งคือวาระที่เหลือของยุน ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ “ประธานาธิบดีเป็ดง่อย” จนครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2570 ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ที่เกาหลีใต้ต้องเผชิญ ตั้งแต่เศรษฐกิจที่อ่อนแอ ไปจนถึงเรื่องเกาหลีเหนือ

ตามตัวเลขของคณะกรรมการการเลือกตั้งเกาหลีใต้ ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล และพันธมิตรพรรคเล็ก ได้รับการเลือกตั้งรวมเพียง 108 ที่นั่ง จากเดิม 114 ที่นั่ง ส่วนพรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ของนายอี แจ-มยอง ผู้นำฝ่ายค้าน และพรรคร่วม ได้รับการเลือกตั้งเพิ่มจาก 156 ที่นั่ง เป็น 174 ที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยที่ค่อนข้างสั้นของเกาหลีใต้ ยังคงไม่มีกลุ่มการเมืองใดที่สามารถครองเสียงมากถึง 2 ใน 3 ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้

จำนวนดังกล่าวมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มที่สามารถครอง 200 ที่นั่ง จากทั้งหมด 300 ที่นั่งในสภาแห่งชาติเกาหลีใต้ สามารถลบล้างการคัดค้านจากประธานาธิบดี เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือแม้แต่ถอดถอนประธานาธิบดีได้ แม้สองกรณีอย่างหลัง จำเป็นต้องได้รับการยืนยันผ่านการลงประชามติ และศาลรัฐธรรมนูญ ตามลำดับก็ตาม

แม้พรรคดีพี มีตำแหน่งที่โดดเด่น แต่การรณรงค์ในการผลักดันร่างกฎหมายที่ก่อให้เกิดการถกเถียงบางฉบับ มักจะถูกขัดขวางโดยการวีโต้ของยุน ดังเช่นกรณีล่าสุด อย่างความพยายามในการสอบสวนที่ปรึกษาพิเศษ เกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่มีต่อนางคิม คอน-ฮี สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง

นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังโจมตียุนอย่างหนักหน่วง หลังผู้นำเกาหลีใต้บอกว่า วัตถุดิบหลักในการทำอาหารเกาหลีอย่างต้นหอม มีราคาที่ “สมเหตุสมผล” แล้ว ตลอดจนหยิบยกคลิปวิดีโออื้อฉาวที่ภริยาของเขา รับกระเป๋าหรูเป็นของกำนัล มาตั้งข้อสงสัยว่า การกระทำดังกล่าวอาจผิดกฎหมายเลือกตั้ง

“การเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นคำเตือนที่รุนแรงจากสาธารณชน ซึ่งมันจะบีบบังคับให้ยุน เปลี่ยนทิศทาง และร่วมมือกับฝ่ายค้าน นอกเสียจากว่า เขาต้องการที่จะเป็นเป็ดง่อยไปจนหมดวาระการดำรงตำแหน่ง” นายแช จิน-วอน จากวิทยาลัยฮิวแมนิทัส ของมหาวิทยาลัยคยองฮี กล่าว

แม้ฝ่ายค้านไม่ได้ครองเสียงข้างมากแบบเด็ดขาด แต่ยุนยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ปลอดภัย และถ้าผู้นำเกาหลีใต้ไม่สามารถหาวิธีทำงานร่วมกับฝ่ายค้านได้ มันก็มีแนวโน้มที่เขาจะถูกถอดถอน ซึ่งบางกลุ่มในพรรครัฐบาล ก็อาจเห็นชอบ เพื่อรักษาอนาคตทางการเมืองของพวกเขาเอง.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES