2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ช่างเป็นเวลาที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับแฟนบอล ลิเวอร์พูล

ก่อนหน้านั้น ลิเวอร์พูล อยู่ในสถานการณ์ที่ดีมาก พวกเขาไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ในฐานะจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก โดยนำอันดับ 2 อยู่ 2 คะแนน

หลังจากนั้น มีคิวเตะยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก กับ อตาลันตา ในบ้าน ซึ่งดูแล้วไม่ยาก

แถมเส้นทางยังสะดวกสดใส ถ้าผ่านไปได้ จะเข้าไปพบผู้ชนะระหว่าง มาร์กเซย หรือ เบนฟิกา ในรอบตัดเชือก

โอกาสคว้า 3 แชมป์เปิดกว้าง

แต่ผ่านไปแค่ 12 วัน สถานการณ์พลิกผันจนแทบตั้งตัวไม่ทัน ลิเวอร์พูล หล่นลงมาอยู่ที่ 3 ของลีก โดยตามจ่าฝูง แมนฯ ซิตี 2 คะแนน หลังทำได้แค่เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ที๋โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และแพ้ คริสตัล พาเลซ คาบ้าน

ส่วนในยูโรป้า นัดแรก แพ้คาแอนฟิลด์ 0-3 แม้นัด 2 จะบุกชนะ 1-0 แต่ก็ตกรอบด้วยประตูรวม 1-3 หมดลุ้นไปอีก 1 รายการ

ลิเวอร์พูล ได้แชมป์คาราบาว คัพ ไปแล้ว 1 รายการ แต่ตอนนี้เหลือลุ้นแค่แชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลส่งท้าย เจอร์เกน คลอปป์

“มันหนักมากสำหรับพวกเขา ผมเห็นทีมที่ต้องลงเล่นภายใต้ความกดดันตลอดเวลา” ดอน ฮัทชิสัน อดีตมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล แสดงทัศนะถึงทีมเก่า

“พวกเขาคือทีมที่อยู่ภายใต้ความกดดัน พวกเขาพยายามจะทำผลงานให้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ เพื่อส่งท้ายให้ เจอร์เกน คลอปป์”

Jurgen Klopp

นับตั้งแต่วันที่ คลอปป์ ประกาศอำลาตำแหน่งตอนจบฤดูกาล เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 67 จนกระทั่งถึงก่อนเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ลิเวอร์พูล ทำผลงานติดลมบนมากๆ

พวกเขาได้แชมป์คาราบาว คัพ และเก็บได้ถึง 22 จาก 27 คะแนนในลีก มีแค่ตกรอบเอฟเอ คัพ ด้วยฝีมืออริเก่าอย่าง ผีแดง เท่านั้น ที่เป็นจุดผิดพลาด

เหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ผลงานดร็อปลงก็คือการจบสกอร์

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อาจจะยิงจุดโทษให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ อตาลันตา ตั้งแต่นาทีที่ 7 ของเกมรอบ 8 ทีม ยูโรป้า ลีก นัดที่ 2 แต่หลังจากนั้น พวกเขาไม่สามารถแย่งชิงโมเมนตั้มกลับมาได้

ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิงแค่ 2 ครั้งในครึ่งหลัง และตอนนี้ ลิเวอร์พูล ทำประตูจากโอเพ่น เพลย์ ไม่ได้มายาวนานถึง 360 นาที ในทุกรายการ

ลูกทีมของ คลอปป์ มีโอกาสถึง 15 ครั้ง ในครึ่งแรก ของเกมแดงเดือดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และมีโอกาสถึง 26 ครั้ง ในเกมที่แพ้ พาเลซ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว

แต่กลับเก็บได้แค่แต้มเดียว และมันคือหายนะที่แท้จริง

Mohamed Salah

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ยังเหลือลุ้นแชมป์อีก 1 รายการ ซึ่งเป็นรายการสำคัญที่สุดอย่างพรีเมียร์ลีก และตอนนี้ พวกเขาตามหลังจ่าฝูงแค่ 2 คะแนน

ถ้าหากกลับมาเข้ารูปเข้ารอยได้ โอกาสยังเปิดกว้างเสมอ

ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมไปเยือน ฟูแลม ในวันอาทิตย์นี้ ก่อนไปเยือน เอฟเวอร์ตัน กับ เวสต์แฮม ในอีก 9 วันต่อมา

2 จาก 3 แมตช์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นก่อนที่ แมนฯ ซิตี จ่าฝูง จะลงเล่นพรีเมียร์ลีก นัดต่อไป หมายความว่า ถ้าหากชนะได้หมด ลิเวอร์พูล จะมีแต้มนำเรือใบสีฟ้า 4 คะแนน แม้จะเตะมากกว่า 2 นัดก็ตาม

โมเมนตั้มอาจจะกลับมา

“เราต้องโฟกัสในลีก และมันคือสิ่งที่เราจะทำหลังจากนี้” คลอปป์ ยืนยัน “เราจะทุ่มเทหมดทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเกมที่เหลือเหล่านี้”

ส่วน เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม บอกว่า “เราเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาด้วยกัน ดังนั้น การแสดงให้เห็นถึงบุคลิก และความสามัคคี คือกุญแจสำคัญในตอนนี้”

“ตอนนี้ เราต้องการทุกคนเพื่อช่วงสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก หวังเป็นอย่างสูงว่าแฟนๆจะอยู่ตรงนั้นกับเรา เพราะว่าตอนนี้ เราต้องการพวกเขามากที่สุดกว่าที่ผ่านมา”

“ทุกอย่างยังเป็นไปได้”

ป.ล. จากการคำนวณของ Opta ลิเวอร์พูล มีโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 12% ขณะที่ Euro Club Index บอกว่าพวกเขามีโอกาส 10%.