ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) โธมัส บัค ยืนยันว่า โลกของกีฬากำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะการมาของ “เอไอ” หรือ “ปัญญาประดิษฐ์”

ไม่ใช่แค่วงการกีฬา แต่ในทุกวงการ ทุกอุตสาหกรรม ก็กำลังตื่นตัวและเรียนรู้กับเจ้าเอไอว่ามันคืออะไร และจะนำมาใช้ในธุรกิจหรือองค์กรของตัวเองได้อย่างไร

ในวงการกีฬา หลายคนยังนึกไม่ออกมาว่า “เอไอ” จะเข้ามามีบทบาทได้ยังไง ไอโอซี จึงได้จัดประชุมในหัวข้อนี้โดยเฉพาะที่ลอนดอน เมื่อปลายเดือนเม.ย. และมีหลายประเด็นน่าสนใจ

เริ่มที่ โธมัส บัค เขาบอกว่า วงการกีฬาเดินมาถึงทางแยก และไอโอซีเลือกจะเลี้ยวไปพร้อมกับ ไอเอ จะให้ความสำคัญ และนำเอไอ มาใช้ประโยชน์ในทุกด้าน แต่ย้ำชัดว่า สิ่งสำคัญที่สุดยังคงเป็น “นักกีฬา”

พูดง่ายๆว่าหลังจากนี้ ไอโอซี พร้อมเรียนรู้ และนำ “เอไอ” มาใช้เต็มที่

Lindsey Vonn

ในงานยังมีคนสำคัญมาร่วมหลายคน หนึ่งในนั้นคือ ลินซีย์ วอนน์ อดีตนักสกีสาวสวยชาวอเมริกัน

อดีตแฟนสาวของ “พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ บอกว่าเธอโชคดี ที่เกิดนมาในครอบครัวที่ชอบเล่นสกี ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่า เธอรักกีฬาชนิดนี้

แต่สำหรับเด็กๆหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดอะไร “เอไอ” จะเข้ามาช่วยได้

ปีที่แล้ว ไอโอซี ขนอุปกรณ์สุดไฮเทคมากมายไปประเทศเซเนกัล เพื่อทดสอบเด็ก 1,000 คน ใน 6 หมู่บ้าน เพื่อค้นหาว่าคนใดมีพรสวรรค์หรือศักยภาพทางด้านกีฬา

ปรากฏว่ามีถึง 40 คน ที่ศักยภาพสูงถึงระดับแข่งขันในโอลิมปิกได้

นี่คือสิ่งที่จะช่วยได้มหาศาลทั้งต่อตัวนักกีฬาเอง, ครอบครัว, สต๊าฟโค้ช และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

เพราะเอไอ จะคัดสรรให้เรารู้ทันทีว่าใครมีศักยภาพแค่ไหน โดยไม่ต้องเสียเวลาหลายปีเพื่อค้นหาว่าคนไหนคือของจริง

หรือสำหรับนักกีฬาอาชีพเอง ปัจจุบันก็นำ “เอไอ” หรือพูดให้ชัดก็คือระบบ “แชตบอต” มาช่วยได้มาก

ยกตัวอย่างเช่น นักกีฬาสามารถถามจากเอไอ ให้วิเคราะห์เรื่องข้อมูลหรือข้อแนะนำในการซ้อม การแข่งขันได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งทำเอง เพราะ ไอเอ แนะนำได้หมดว่าควรทำยังไง

การตรวจโด๊ปก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ

เพราะเอไอคือแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ ที่สามารถรวบรวม, วิเคราะห์ และสรุปออกมาอย่างแม่นยำได้ทันทีว่านักกีฬาคนใดใช้สารกระตุ้นตัวไหน

ไม่ต้องเสียเวลาไปสุ่มตรวจ นำผลตรวจมาวิเคราะห์เข้าแลป หรือขั้นตอนเดิมๆอีกต่อไป

สำคัญที่สุดอีกประการก็คือ “การตัดสิน”

ถ้าหากนำ เอไอ มาช่วย เราจะไม่ต้องมานั่งเถียงกันว่าใครถูกใครผิด หรือลูกนี้เข้าลูกออกอีกต่อไป

ในอนาคต เราจะมีตัวช่วยที่บอกได้ชัดเจนว่าลูกนี้เข้าหรือออก ลูกนี้ฟาวล์หรือไม่ฟาวล์ นักกีฬาและแฟนๆไม่ต้องมานั่งถกเถียงกันให้ปวดหัวอีกต่อไป

ดูแล้ว คุณประโยชน์ของ เอไอ มีมากมาย และจะมีอีกมากมายเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ในอนาคต

แต่อย่าลืมว่า ข้อเสียของมันก็มีเช่นกัน ถ้าหากพึ่งพิงมันมากเกินไป หรือพัฒนากันจนควบคุมไม่ได้ ไม่มีการกำหนดกรอบการใช้ที่ชัดเจน จากสิ่งที่จะช่วย อาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้แย่ลงไปอีกก็ได้

สุดท้าย จึงอยู่ที่มนุษย์ว่าจะนำมาใช้ให้เหมาะสม และเกิดประโยชน์มากที่สุดได้ยังไง?