เติบโตและพัฒนาศักยภาพอีกขั้น ในทุกผลงานใหม่ ๆ สำหรับ บอยแบนด์สุดฮอต “NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น)”  ที่ล่าสุดทั้ง 9 หนุ่มสมาชิกนำโดย แทยง , แทอิล, จอห์นนี, ยูตะ, โดยอง, แจฮยอน, จองอู, มาร์ค และ แฮชาน ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 สุดจี๊ด Sticker (สติกเกอร์)”  พร้อมทำลายสถิติเดิมของตัวเอง ด้วยยอดสั่งจองอัลบั้มล่วงหน้าที่ทะลุ 2.12 ล้านชุด!  ตั้งแต่ก่อนคัมแบ็ก

และเร็ว ๆ นี้ NCT 127  ยังสร้างสถิติอันดับที่ดีที่สุดของตัวเอง จากการที่อัลบั้ม “Sticker” ได้เดบิวต์ในอันดับที่ 3 บนชาร์ตระดับโลก Billboard 200  ซึ่งก่อนหน้านี้หนุ่ม ๆ เคยติดอันดับที่ 86 ด้วยอัลบั้มเต็มชุดแรก “NCT #127 Regular-Irregular” เมื่อปี 2018 , อันดับที่ 11 ด้วยมินิอัลบั้มชุดที่ 4 “NCT #127 We Are Superhuman” เมื่อปี 2019 และอันดับที่ 5 ด้วยอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 “NCT #127 Neo Zone” เมื่อปี 2020 ตามมาด้วยการติดอันดับที่สูงที่สุดของตัวเอง คืออันดับที่ 3 ด้วยอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 “Sticker”  นับเป็นการประสบความสำเร็จที่มีความหมาย กับการอยู่บนชาร์ต Billboard 200  ติดต่อกันถึง 4 อัลบั้ม พร้อมทำลายสถิติเดิมของตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดบิวต์เข้าสู่อันดับท็อป 3 ของ NCT 127  นั้น ถือเป็นสถิติอันดับที่สูงที่สุดของอัลบั้มศิลปินเคป็อป ที่มีชื่อติดในชาร์ต Billboard 200 ของปีนี้ด้วย

รวมถึงอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ‘Sticker’ ยังประสบความสำเร็จอีกมากมาย อาทิ คว้าอันดับ 1 บนชาร์ตอัลบั้มประจำสัปดาห์ของเกาหลีได้ถึง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ทั้ง HANTEO CHART, HOTTRACKS และ Gaon Retail Album  รวมถึงอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงดิจิทัลและอัลบั้มของเกาหลี , ชนะ 3 รางวัลจากรายการเพลงเกาหลี , การติดท็อป 40 บนชาร์ตออฟฟิเชียลอัลบั้มของอังกฤษ , คว้าอันดับ 1 บนชาร์ตดิจิทัลอัลบั้มของ QQ Music ที่จีน , ครองอันดับ 1 บนชาร์ตอัลบั้ม TOP 100 ของ LINE MUSIC ที่ญี่ปุ่น, อันดับ 1 บนชาร์ตเรียลไทม์ของ Rakuten Music ที่ญี่ปุ่น เป็นต้น  ซึ่งทั้งหมดพิสูจน์ให้เห็นถึงอิทธิพลระดับโลกของวงบอยแบนด์นี้ 

ที่พิเศษสุดฮาอึน ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงข่าวออนไลน์เปิดตัวอัลบั้มนี้ จึงไม่พลาดนำบทสัมภาษณ์สุดคูลของทั้ง 9 หนุ่มส่งตรงจากเกาหลี ที่ได้มาเล่าถึงเบื้องหลังการทำงานในอัลบั้มนี้ เส้นทางการเติบโต และเปิดเคล็ดลับความสำเร็จที่หนุ่ม ๆ ยกเครดิตให้กับแฟนคลับ ที่คอยซัพพอร์ทอย่างเหนียวแน่น ใครที่คิดถึง NCT 127 อย่าพลาดบทสัมภาษณ์นี้เลยทีเดียว!

Q : ช่วยเล่าเกี่ยวกับอัลบั้ม ‘Sticker’ ?

แทยง : อัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ‘สติกเกอร์’ ของพวกเรา มีทั้งหมด 11 เพลง รวมเพลงไตเติล ‘สติกเกอร์’ ด้วยครับ ผมรู้ว่าหลายคนชื่นชอบเพลง ‘คิก อิท (Kick It)’ จากอัลบั้มเต็มชุดที่ 2   ดังนั้น พวกเราเลยมีความกังวลว่าจะสามารถนำเสนอสิ่งที่ดียิ่งกว่า และโชว์ให้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมากขึ้นกว่าเดิมได้มั้ย ท่ามกลางทุกสิ่งอย่าง นั่นคือทางที่เราหาเพลง ‘สติกเกอร์’ เจอครับ เราพยายามกันอย่างหนักเพื่อแสดงให้เห็นว่า เราเติบโตขึ้นมากแค่ไหน และร่วมกันหาเพลงที่จะถ่ายทอดสีสันของพวกเราออกมาได้เป็นอย่างดีครับ

Q :  พูดถึงเพลงไตเติล ‘Sticker’ หน่อย?

 มาร์ค : สำหรับ ‘สติกเกอร์’  คือเพลงไตเติลจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของพวกเรา และเป็นเพลงที่มาพร้อมเสียงขลุ่ยพิรีอันมีเอกลักษณ์ติดหูมาก ๆ  ซึ่งผมคิดว่ามันจะต้องติดหูทุกคนเมื่อได้ฟังเพลงนี้ครับ อีกทั้งยังเป็นการแสดงสไตล์ใหม่ที่พวกเราไม่เคยทำมาก่อน และคุณจะได้เห็นอีกด้านทั้งหมดของเอ็นซีที วันทูเซเว่น  ครับ ซึ่งโปรดิวเซอร์ ‘ยูยองจิน (Yoo Young Jin)’ ก็ได้ร่วมทำงานเพลงนี้กับพวกเราในเกือบทั้งหมดของเพลงเลย ตั้งแต่แต่งทำนองไปจนถึงการเขียนเนื้อร้อง รวมถึงส่วนอื่น ๆ ครับ

แทยง : ครั้งแรกที่ผมได้ฟังเพลงไตเติล ผมรู้สึกว่ามันคงจะเป็นเพลงที่สดใสเหมือนกับเพลง ‘ทัช (TOUCH)’ แต่เมื่อได้ฟังเสียงขลุ่ยที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ผมรู้ได้เลยว่าเพลงนี้คือเพลงของพวกเราครับ มันไม่ง่ายเลยในตอนแรก และเราใช้เวลากันเยอะมากในการคิดส่วนของการแสดงเพลงนี้ โปรดิวเซอร์ ‘ยูยองจิน’ ยังให้โอกาส มาร์คและผมในการมีส่วนร่วมแต่งท่อนแร็ป เพื่อเพิ่มสีสันของเอ็นซีที วันทูเซเว่น  เข้าไปในเพลงมากขึ้นครับ ดังนั้นพวกเราเลยได้ทำงานร่วมกันในส่วนนั้นครับ

 มาร์ค : มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยม และพวกเราก็ได้มีส่วนร่วมมากจริง ๆ  พี่แทยงและผมใช้เวลาค่อนข้างมากในการพูดคุยถึงว่าเราอยากจะแสดงสีสันของทีมเราออกมาอย่างไร และผมคิดว่าแฟน ๆ จะชื่นชอบกันนะครับ

Q : ช่วยเล่าเกี่ยวกับเพลง “เลมอนเนด (Lemonade)” หน่อย?

 จอห์นนี่ : สำหรับเพลง ‘เลมอนเนด’ เป็นเพลงที่ทรงพลังมากกว่าที่คุณคิดเมื่อดูจากชื่อเพลงครับ มีคำพูดที่ว่า ‘เมื่อชีวิตให้มะนาวมา จงทำมันให้กลายเป็นน้ำมะนาว’ และเหมือนเป็นแบบนั้น ที่ทั้งหมดอยู่ที่การรับเอาสิ่งต่าง ๆ เข้ามาในชีวิต และการทำให้มันดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ผมต้องบอกว่า มันเป็นเพลงที่คุณสามารถเรียกว่าเพลง “ขี้เกียจ” ได้ครับ เพราะมันผ่อนคลายมากครับ เท่าที่เรารู้จักการแสดงของเรามา มันจะต้องน่าทึ่งมากและพวกเราก็ตื่นเต้นที่จะได้แสดงให้ทุกคนชมครับ

Q : ช่วยเล่าเกี่ยวกับเพลง “같은 시선 โฟกัส (Focus)” หน่อย?

 ยูตะ : ในส่วนเพลง ‘โฟกัส’ เป็นเพลงแนวอาร์แอนด์บี ที่มีเรื่องราวความรักเกิดขึ้นที่มหาสมุทรครับ มันแสดงถึงการดำดิ่งลงไปในสายตาของกันและกัน ราวกับการมุ่งไปใต้พื้นน้ำครับ ยิ่งคุณตกหลุมรักลึกแค่ไหน ก็ยิ่งเกิดเป็นความรักมากขึ้นเท่านั้นครับ!

แทยง : ทำนองมีเสน่ห์ดึงดูดใจมาก ๆ  ทำให้ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างมาก เพราะว่ามันไม่ง่ายเลยครับ ผมรู้สึกว่ามันออกมายอดเยี่ยมมาก ผมเลยพึงพอใจมากครับ

 โดยอง : ใช่ครับ มันเป็นเพลงที่คุณต้องเล่นอะไรสักนิดกับทำนองครับ!

 แจฮยอน : ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเพลงนี้มีความง่ายหน่อยครับ เพราะว่าผมชอบเพลงที่มีจังหวะดึงดูดเหมือนอย่างเพลง ‘โฟกัส’ ครับ

Q :  ช่วยเล่าเกี่ยวกับเพลง “Bring The Noize (บริ๊ง เดอะ น๊อยซ์)”

จองอู : เพลง ‘บริ๊ง เดอะ น๊อยซ์’ เป็นเพลงที่ผสมผสานระหว่างแนวแทร็ปกับฮิปฮอป  พร้อมด้วยท่อนแร็ปในแบบเฉพาะตัวที่น่าประทับใจ มันเกี่ยวกับการไม่สนใจในสิ่งที่คนอื่นคิด และมุ่งไปตามเส้นทางของตัวเองเพียงเท่านั้น พวกเราหวังว่าเพลงนี้ จะมอบกำลังใจและความเข้มแข็งให้กับทุกคนครับ!

แทยง :  สำหรับเพลงนี้ พวกเราทำงานร่วมกับ ‘ฮิทช์ไฮเกอร์ (Hitchhiker)’ คนที่มีส่วนร่วมทั้งในอัลบั้มเต็มชุดแรกและอัลบั้มเต็มชุดที่สองของพวกเรา คุณฮิทช์ไฮเกอร์เป็นที่รู้จักอย่างดีในเรื่องของการสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่ดึงเอาสีสันเฉพาะตัวของพวกเราออกมาได้ และมีไม่กี่เพลงในอัลบั้มนี้ที่มีกลิ่นอายแบบนีโอ ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเลยหวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับ

Q : ช่วยแนะนำเกี่ยวกับเพลง “다시 만나는 날 Promise You (พรอมิส ยู)”?

 โดยอง : เพลง ‘พรอมิส ยู’ เป็นเพลงป๊อบจังหวะกลาง ๆ  เนื้อเพลงจะแสดงถึงหัวใจอันซื่อตรงของความรัก ที่มีต่อการได้พบกันอีกครั้งกับคนรักที่เลิกราไปครับ สิ่งนี้สะท้อนความรู้สึกของพวกเราที่มีต่อแฟน ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ พวกเรารอคอยเสมอที่จะได้กลับมาเจอกับทุกคนอีกครั้ง และผมรู้สึกว่าเนื้อเพลงนี้ ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ยอดเยี่ยมมากครับ

Q : มีส่วนอื่นที่อยากให้รอติดตามจากการแสดงเพลง ‘Sticker’ เป็นพิเศษมั้ย?

แจฮยอน : คุณจะได้เห็นความเป็นนีโอที่ยังคงเต็มไปด้วยพลังของพวกเราผ่านท่าเต้น เพลงนี้มีความทรงพลังแถมยังติดหู และก็มีท่าเต้นกลุ่มอันยอดเยี่ยมอีกมากมายที่จะแสดงสิ่งเหล่านี้ออกมาครับ

Q :  มีท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของ ‘Sticker’ บ้างรึเปล่า?

จองอู :   เหมือนชื่อเพลงไตเติล ‘Sticker’  ท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ ท่ามือที่ดูเหมือนว่าคุณกำลังติดสติกเกอร์อยู่ครับ!

Q : ความพิเศษเกี่ยวกับมิวสิกวิดีโอเพลง ‘Sticker’ ที่อยากนำเสนอ คืออะไร?

 แจฮยอน : พวกเราเพิ่มการเปลี่ยนแปลงแบบนีโอ (แปลกใหม่)ให้กับภาพยนตร์สไตล์ตะวันตก และเน้นไปที่เอฟเฟกต์พิเศษเยอะมากครับ เช่น แสง, ซีจี และอื่น ๆ เพื่อที่จะสร้างบรรยากาศแบบอนาคตครับ

 แทอิล : มีลูกสุนัขน่ารัก ๆ มาปรากฏในมิวสิกวิดีโอครับ และแน่นอนว่าเป็นจุดที่น่ารักที่อยากให้ดูกัน

 โดยอง :  มีฉากที่เป็นพายุทรายในช่วงท้ายของมิวสิกวิดีโอครับ ผมจำได้ว่าพวกเราต้องทำงานกันด้วยจำนวนทีมงานที่น้อยที่สุด พวกเราเลยพยายามที่จะถ่ายให้เสร็จภายในเทคเดียว และทีมงานบอกพวกเราว่ามันจะดูดีมาก  ซึ่งมันก็ออกมาเท่มาก ๆ เลย ดังนั้น วังว่าทุกคนจะให้ความสนใจกับฉากนั้น ๆ เยอะ ๆ นะครับ

Q :  หลังจากเปิดให้สั่งจองอัลบั้มล่วงหน้าเพียงแค่วันเดียว ยอดก็ทะลุ 1.3 ล้านชุด และตอนนี้ยอดก็เกิน 2.12 ล้านชุดไปแล้ว “NCT 127” สร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเองและได้รับความสนใจตั้งแต่ก่อนการคัมแบ็กของพวกคุณ คุณได้คาดหวังการตอบรับเช่นนี้ไว้มั้ย และรู้สึกกันยังไงบ้าง?

 แทยง : ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นได้เพราะว่าการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากแฟน ๆ ของเราครับ เราค่อนข้างกังวลและตื่นเต้น เพราะว่าพวกเราไม่ได้คัมแบ็กมานาน ตราบใดที่พวกเรายังได้รับความรักและการตอบรับที่ดีเยี่ยมมากมาย พวกเราก็พร้อมที่จะทำงานให้หนักขึ้นและพยายามที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นผมหวังว่าทุกคนจะก้าวเดินไปพร้อม ๆ กับพวกเรานะครับ!

Q : พวกคุณอยู่ที่นี่พร้อมกับอัลบั้มชุดใหม่หลังจากผ่านไปประมาณปีครึ่ง อะไรคือเสน่ห์ หรือด้านใดของ “NCT 127” ที่อยากจะแสดงให้เห็นผ่านอัลบั้มนี้?

 แฮชาน : เหมือนอย่างอัลบั้มเต็มชุดแรกและอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ของเรา  อัลบั้มนี้มีแนวเพลงที่หลากหลาย และคุณจะได้เห็นความสามารถในการร้องเพลงและการแร็ปของพวกเราในรูปแบบต่าง ๆ เช่นกัน มีเพลงที่เหมาะกับการฟังมากขึ้น และมีเพลงที่ควรค่าแก่การรับชมทั้งภาพและการแสดง ดังนั้นผมคิดว่ายังมีอีกหลายอย่างที่จะแสดงและสนุกไปกับอัลบั้มนี้ได้ครับ

Q : คุณให้ความสำคัญกับอะไรที่มากที่สุด ในระหว่างที่เตรียมสำหรับอัลบั้มเต็มชุดนี้?

 โดยอง : เป็นเวลานานมากแล้วที่พวกเราได้คัมแบ็ก พวกเราคิดกันเยอะมากเกี่ยวกับสิ่งที่แฟน ๆ อยากจะเห็น หรือชอบมากที่สุดครับ พวกเราอยากลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่แตกต่างไปจากคอนเซปต์ที่เราเคยทำมาก่อน เพื่อให้สามารถแสดงสีสันใหม่ ๆ ได้ และผมคิดว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับอัลบั้มนี้ ต่างก็พยายามหนักมากเพื่อทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งผลที่ออกมาก็ยอดเยี่ยมมาก และพวกเราพอใจกันมากครับ

Q : เพลงที่สมาชิกแต่ละคนชอบในอัลบั้มนี้ คือเพลงอะไร ?

จอห์นนี่ : ผมอยากตอบคำถามนี้ครับ เพราะอยากเป็นคนแรกที่ตอบเพลง ‘พรอมิส ยู’  ผมชอบตัวเพลงและความหมายของเนื้อเพลงนี้มาก เพราะมันคือข้อความอันจริงใจจากเราถึงแฟน ๆ ของเราครับ มันแสดงให้เห็นว่าเรารู้สึกอย่างไร และผมคิดว่ามันเป็นส่วนสำคัญของอัลบั้ม  มันสื่อว่าในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมานั้นเรารู้สึกอย่างไรบ้าง ดังนั้นมันเป็นเพลงที่ผมรักมากครับ

แฮชาน : ช่วงนี้ผมชอบฟังเพลง ‘เมจิก คาร์เพ็ท ไรด์ (Magic Carpet Ride)’ ครับ! ผมไม่ได้ชอบแค่อารมณ์ของเพลงนะแต่ยังรวมถึงเนื้อเพลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงร้องของสมาชิกเราครับ

 มาร์ค : สิ่งที่ทำให้อัลบั้มของพวกเราน่าสนใจคือ ในแต่ละวันจะมีเพลงที่ผมชอบแตกต่างกันไปครับ แต่ในตอนนี้เพลงที่ผมชอบคือ เพลง  ‘พรอมิส ยู’  ครับ

แจฮยอน : ทุกครั้งที่ผมได้รับคำถามนี้ คำตอบของผมมักจะเปลี่ยนไปครับ ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะได้ยินเพลง ‘พรอมิส ยู’ จากคลิปสั้น ๆ แต่ก็ยังอยู่ในใจผม ดังนั้นมันจึงเป็นเพลงที่ผมเลือกครับ

 แทยง : ผมมักจะตอบเพลง ‘พรอมิส ยู’ เสมอ แต่หลังจากที่ได้ยินไฮไลท์เมดเล่ย์เมื่อสักครู่นี้ ผมขอเลือกเพลง ‘โฟกัส’ ครับ มันเป็นเพลงที่เข้าถึงทั้งคุณและผม ผมประทับใจมากกับความสามารถของสมาชิกเรา รวมถึงสีสันและความสามารถในการถ่ายทอดท่วงทำนองอันแสนหวานนี้ครับ

 ยูตะ : ผมเลือกเพลง ‘เลมอนเนด’ ครับ! เป็นเพลงที่ยังคงสีสันและอารมณ์ที่แท้จริงของเอ็นซีที วันทูเซเว่น  ดังนั้นคุณสามารถฟังได้ง่าย ๆ เลยครับ

 แทอิล : เพลงโปรดของผมคือ เพลง ‘เดอะ เรนนี่ ไนท์ (The Rainy Night)’  เพลงนี้ค่อนข้างแตกต่างจากเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม และผมรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดมากครับ

 จองอู :  ผมเลือกเพลง ‘ดรีมเมอร์ (Dreamer)’ ครับ! ผมรู้สึกว่าเป็นเพลงที่ดีที่จะใช้เป็นอัลบั้มในยามเช้า เพราะมันให้ความรู้สึกที่สว่างสดใส  มันมีเพลงอื่น ๆ อีกที่ให้ความรู้สึกถึงพลังมากกว่านี้เล็กน้อย แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังง่ายครับ

 โดยอง : ผมจะตอบเพลงไตเติลของพวกเรา ‘สติกเกอร์’ ครับ! มันเป็นครั้งแรกที่พวกเราลงลึกไปกับคุณยูยอง  จริง ๆ และผมรู้สึกว่ามันแสดงสีสันของเอ็นซีที วันทูเซเว่น   ในแบบที่ยอดเยี่ยมมากครับ!

Q : เนื่องจากเพลงไตเติลคือ ‘Sticker’ ดังนั้น  “NCT 127” คิดว่าอยากที่จะถูกติดไว้กับที่ไหน?

 แทยง : ที่นี่ ตอนนี้เลยครับ!

 แจฮยอน : อาจจะเป็นในระหว่างตารางงานที่ยุ่งวุ่นวาย ผมอยากที่จะติดอยู่กับเตียงของผมให้นานกว่าเดิมสักหน่อยครับ

 จอห์นนี่ : งานคอนเสิร์ตครับ! ผมอยากจะได้เจอกับแฟน ๆ ของพวกเราเร็ว ๆ และผมก็เฝ้ารอให้วันนั้นมาถึงสักทีครับ

 Q :  คุณถือได้ว่าประสบความสำเร็จในสายอาชีพอย่างมากตั้งแต่อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 เมื่อปีที่แล้ว ทั้งการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะในแถบอเมริกาเหนือ คุณคิดว่าอะไรคือ เหตุผลเบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้?

 แทยง : น่าจะเป็นทัวร์คอนเสิรต์ครั้งแรกของพวกเราครับ ช่วงก่อนสถานการณ์โรคระบาด พวกเรามีโอกาสได้เดินทางไปพบปะกับแฟน ๆ ทั่วโลกของเรา  พวกเราได้โชว์ให้พวกเขาเห็นการแสดงของเราว่าเราเป็นใคร และผมรู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นไปได้เพราะความรักและการสนับสนุนที่แฟน ๆ มอบให้พวกเรา และทั้งหมดที่พูดมานี้ พวกเราตั้งตารอคอยจริง ๆ ที่ได้จะได้พบกันอีกเร็ว ๆ นี้ครับ

Q :  นอกเหนือจากตัวเลข  มันมีอย่างอื่นอีกที่คุณให้ความหมายยิ่งใหญ่มากขึ้น สิ่งนั้นคืออะไร?

 มาร์ค :  เหมือนที่พี่จอห์นนี่ บอกไปครับ นี่คืออัลบั้มเต็มแรกของพวกเราที่ปล่อยออกมาหลังจากเกิดสถานการณ์โรคระบาด เพราะเหตุนี้หัวใจที่พวกเรามีต่อแฟน ๆ ของเราเลยแตกต่างออกไป พวกเรามีความมุ่งมั่นมากขึ้นในการปล่อยอัลบั้มที่ดียิ่งขึ้นไปอีก และใช้เวลากับมันอย่างมากเพื่อที่จะทำให้สิ่งนั้นเป็นจริง พวกเราทำมันขึ้นมาได้เพราะพวกเราคิดถึงแฟน ๆ ของเราจริง ๆ ครับ

Q : NCT 127 เดบิวต์ในปี 2016 และตอนนี้ก็เป็นปีที่ 5 ของพวกคุณแล้ว ยังมีแนวคิด หรือทัศนคติที่คุณพยายามจะรักษาไว้ทั้งในตอนนั้นและตอนนี้บ้างมั้ย สิ่งนั้นคืออะไร?

 แจฮยอน : ผมคิดว่าถ้าไม่มีทุกคนรอบข้างที่คอยช่วยเหลือพวกเรา รวมถึงแฟน ๆ ของพวกเรา มันก็คงเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเราที่กลายมาเป็นเราอย่างทุกวันนี้ และเติบโตมาเป็นแต่ละคนอย่างในตอนนี้ครับ ปีที่ 5 ของพวกเราอาจ แตกต่างออกไปเล็กน้อย แต่ผมหวังว่าพวกเราจะระลึกถึงความรักและความรู้สึกขอบคุณ ที่มีต่อแฟนๆ ของพวกเราและทุกคนรอบข้างเราอยู่เสมอ เหมือนอย่างที่เราทำมาตลอด 4 ปีครับ

 โดยอง : สำหรับ 5 ปี ไม่ใช่ระยะเวลาที่สั้นเลยครับ เรามีประสบการณ์มากมายในฐานะ เอ็นซีที วันทูเซเว่น  แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากจุดเริ่มต้นจนถึงตอนนี้ก็คือ ความผูกพันที่พวกเรามีกับแฟน ๆ ของเรา คือสิ่งที่พวกเราคอยสนับสนุนกันและกันอย่างเต็มที่ และพยายามที่จะรักษาความคิดนั้นไว้ครับ

Q : หนึ่งในเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จกับอัลบั้มนี้ คืออะไร?

 โดยอง : พวกเราคัมแบ็กในรอบปีครึ่ง ดังนั้นเมื่อการโปรโมตอัลบั้มนี้จบลง พวกเราหวังว่าแฟน ๆ จะมองย้อนกลับมาแล้วพูดว่า อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ยอดเยี่ยม และเป็นอัลบั้มที่พวกเขาอยากจะจดจำมันไปนานแสนนาน  ผมหวังว่านี่จะเป็นช่วงเวลาที่พวกเราเอ็นซีที วันทูเซเว่น   สามารถมอบทุกอย่างให้กับแฟน ๆ ของเราได้ครับ

แทยง : ผมอยากให้ทุกคนสนุกไปกับอัลบั้มนี้ครับ! พวกเราทุ่มเทอย่างหนัก ทั้งเวลาและความคิดลงไปในการแสดง รวมถึงทุกคอนเทนต์ที่พวกเราตื่นเต้นที่จะได้แบ่งปันกับทุกคนครับ ในช่วงนี้ผมหวังว่า คอนเทนต์ของพวกเราจะนำเสียงหัวเราะและความสุขมาให้กับทุกคนนะครับ!

ต้องบอกว่าเป็นอีกศิลปินที่สร้างสีสันให้วงการเพลงตลอด สำหรับ “เอ็นซีที วันทูเซเว่น”  ที่ต้องบอกว่าทั้งความมุ่งมั่นไม่หยุดพัฒนา บวกกับ “กล้า” ในการทำดนตรีใหม่ ๆรวมทั้งความรักแฟนเพลงเพลงทั่วโลก ที่ทำให้หนุ่ม ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในบอยแบนด์แห่งทศวรรษได้อย่างน่าภูมิใจ

ฮาอึน