นั่นแสดงให้เห็นถึงความ “ไม่พร้อม” ของขุนพล “ช้างศึกหนุ่ม” ในการลุยศึกฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่มองโกเลีย

รายชื่อเพิ่งสะเด็ดน้ำ เพียง 3 วันก่อนเดินทาง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่งจะประกาศ นับเป็นทีมสุดท้ายของกลุ่มที่เปิดชื่อ เพราะทั้ง มาเลเซีย, ลาว หรือแม้แต่เจ้าภาพ มองโกเลีย โชว์ขุนพลก่อนแล้ว

สำหรับไทย จะว่าสะเด็ดน้ำก็ไม่ได้ เพราะเปิดโผกว้างๆ 27 นักเตะ และสุดท้ายต้องส่งชื่อ 23 คน

ชุดนี้จะเรียกว่าไม่ได้ซ้อมกันเลยก็ว่าได้ แคมป์แรกเมื่อต้นเดือน ก.ย. นักเตะแทบทั้งหมดไม่ติดทีม ดังนั้นจะบอกว่าเป็นการซ้อมที่เกือบจะไม่ได้อะไรเลย

การเตรียมตัวจึงไปหวังที่มองโกเลีย เดินทางวันที่ 18 ต.ค. จะมีเวลาเต็มๆ 6 วัน ก่อนเตะนัดแรก วันที่ 25 ต.ค. กับเจ้าภาพ

นักเตะกระจัดกระจายจากหลายสโมสร โดยจาก 27 คน มาจาก 19 สโมสร ทั้งจาก ไทยลีก 1-3 และ จากต่างประเทศ

สโมสรที่ติดมาเยอะสุด คือ ทรู แบงค็อก 4 คน ขณะที่ บุรีรัมย์ มา 3 คน, ชลบุรี 2 คน ขณะที่ เชียงใหม่ เอฟซี กับ ราชประชา 2 ทีม จากไทยลีก 2 ที่สนิทสนมกับ บีจี ติดมาทีมละ 2 คน นอกนั้นเฉลี่ยทีมละ 1 คน

คาดว่าเป็นการกระจายกันไป เพื่อให้แต่ละสโมสรได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

จากแคมป์แรก ที่เคยเรียก 28 นักเตะมาซ้อม ถึงตอนนี้มีติดมาไม่กี่คน กฤษณพล บุญชารี, กัณตภณ คีรีแลง, อนุศักดิ์ ใจเพชร, เกียรติศักดิ์ ชาวดร, สิทธา บุญหล้า, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย

ดาวดังในไทยลีก 1 แทบไม่มีมาเลย ไม่ว่าจะ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, เอกนิษฐ์ ปัญญา, กฤษดา กาแมน, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, นพพล ละครพล, เมธี สาระคำ, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท ฯลฯ เพราะมีโปรแกรมแข่งกับสโมสร

ถ้าจะมีเด่นๆ จากไทยลีกที่ติดเข้ามาก็คือ กรวิชญ์ ทะสา, จตุรพัช สัทธรรม, อิรฟาน ดอเลาะ

กระนั้นก็ตาม คนที่ได้ลงเล่นในช่วงต้นฤดูกาลบ่อยๆ ก็มีแค่ จตุรพัช, กรวิชญ์, จักรกริช พาละพล ขณะที่นักเตะจากแข้งเทพ แม้ติดมา 4 ราย แต่จนถึงก่อนแมตช์สุดสัปดาห์ล่าสุด ไม่มีใครได้สัมผัสเกมเลย

เมื่อในไทย ขาดผู้เล่นเกรด A ดังนั้น ดูเหมือนความหวังจะไปฝากที่นักเตะต่างชาติ 4 คน

ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ใช่ทางลัดที่ง่ายขนาดนั้น และเหมือนไปตายเอาดาบหน้ามากกว่า

“กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กับ เบนจามิน เดวิส 2 คนนี้โอเค เห็นฟอร์มแล้ว สอบผ่านสบาย รายแรกขึ้นชั้นไปเล่นชุดใหญ่แล้ว ส่วน เบน นั้น เมื่อต้นปีก่อน ที่มาเล่นยู23 เอเชียในไทย ถือว่าสอบผ่าน

แต่กับอีก 2 คน ยังเป็นปริศนา ทั้ง โจนาธาน เข็มดี เจ้าของความสูง 190 เซนติเมตร และ โอเวน ชาร์ลี แบ๊กจาก เบลเยียม

เชื่อว่าสตาฟฟ์โค้ชยังไม่เคยเห็นฟอร์มเต็มๆ ต้องไปดูในการซ้อมที่มองโกเลีย ซึ่งการที่พวกเขาเล่นในยุโรป ไม่ได้การันตีว่า จะทำได้ดีในการเล่นทีมชาติไทย ไหนจะเรื่องการปรับตัวอีก

ดังนั้น จึงจะฝากความหวังตั้งแต่หัวน้ำไม่ได้ มันต้องไปดูกันในสนาม

หันไปดูคู่แข่ง 3 ทีม

ด่านแรกของไทย “มองโกเลีย” คุมทัพโดยโค้ชชุดใหญ่ ชูอิจิ มาเสะ ประกาศชื่อมา มีนักเตะชุดใหญ่ 7 คน โดยมีนักเตะที่เล่นต่างแดน 1 คน คือ กันบายาร์ กันโบลด์ ตัวรุกดาวรุ่งวัย 20 ปี

ด้าน ทีมชาติลาว โชว์ความพร้อม ยกทัพไปมองโกเลีย ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. เพื่อปรับตัวเข้ากับอากาศหนาวเย็น

และสุดท้าย “เสือเหลือง” มาเลเซีย ที่ว่ากันว่าเป็นกระดูกชิ้นโตของทุกทีม คุมโดย แบรด มาโลนีย์ กุนซือชาวออสเตรเลีย ที่อยู่กับทีมมายาวนาน

ชุดนี้ว่ากันว่า เป็นความหวังของชาติ เป็นโปรเจ็คต์ใหญ่ของ สมาคมลูกหนังเสือเหลือง อยู่ด้วยกันตั้งแต่รุ่น 12 ปี ฟูมฟักกันมาเรื่อย จนถึงบัดนี้

นอกจากคู่แข่ง 3 ทีม โจทย์ข้อใหญ่ของทีมชาติไทย คือ การไปเล่นในสภาพอากาศหนาวเย็น เลขตัวเดียว และการเล่นในสนามหญ้าเทียม ซึ่งคงจำกันได้ กับซีเกมส์ ครั้งล่าสุด ที่แม้เราจะขนทัพใหญ่ไฟกระพริบ แต่ก็ล้มเหลว ตกรอบแรก

และก็ย้อนไปถึงปัจจัยภายใน ในเรื่องการไม่ได้นักเตะดีสุด และระยะเวลาการซ้อมที่น้อยมาก

ศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ซึ่งถ้าเตะกันในสภาวะปกติ เตรียมไปพร้อมๆ น่าจะเป็นทางผ่านของไทย

แต่หนนี้ด้วยปัจจัยต่างๆ จึงดึงลงมาให้ต้องลุ้นกันหนัก

ลุ้นกันหนัก ทว่าไม่ได้หมายถึงโอกาสมีน้อย

แม้ไม่ใช่นักเตะดีสุด แต่ขุนพล “ช้างศึก” เท่าที่มี ก็ยังแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง ด้วยดีกรีนักเตะลีกสูงสุด ลีกรอง หลายคน เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว ตามหน้าเสื่อน่าจะเข้ารอบไปได้

สมรภูมิดินแดนเจงกิสข่านหนนี้โอกาสได้ชัยชนะ ไม่ได้ยากเกินไป อยู่ไกลมือคว้า

เพียงแต่ ต้องลงทุน ลงแรงแบบจัดๆ เค้นพลังกันเต็มที่

เพราะนี่ก็จะไม่ใช่สงครามที่จะเผด็จศึกง่ายๆ ที่อาจต้องต่อสู้แบบยืดเยื้อถึงนาทีสุดท้ายเลยทีเดียว.

*** วุฒินล ***