เอ็ดเวิร์ด กีน หรือ เอ๊ด กีน อาจมีชื่อเสียงในฐานะฆาตกรต่อเนื่องไม่มากเท่า เท็ด บันดี ที่นิยมล่าเหยื่อสาว ๆ แต่ชีวิตและพฤติกรรมการก่อคดีของเขาอยู่เบื้องหลังแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ตัวละครโรคจิตสุดโหดเหี้ยมในภาพยนตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “นอร์แมน เบตส์” จาก Pshycho, “บัฟฟาโล บิลล์” จาก The Silence of The Lambs และ “เลเธอร์เฟซ” จาก Texas Chainsaw Massacre และล่าสุด ซีรี่ส์ดังเรื่อง Monster ก็นำชีวิตของเขามานำเสนอในซีซั่นที่ 3 

คาดว่ากีนก่อคดีฆ่าโหดในช่วงทศวรรษ 1950 ไว้หลายคดี แต่มีเพียง 2 คดีเท่านั้นที่สามารถยืนยันได้ว่าเขาเป็นผู้ลงมือทำ กระนั้น สาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องคนสำคัญก็ไม่ใช่จำนวนคนที่เขาลงมือสังหาร แต่เป็นพฤติกรรมการปฏิบัติต่อศพของเหยื่อที่สะท้อนความวิปริตแห่งจิตใจของเขา

กีนมีชื่อเต็มว่า เอ็ดเวิร์ด ธีโอดอร์ กีน เกิดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2449 ที่เมืองลาครอสส์ รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา จอร์จ พ่อของเขาเป็นคนติดเหล้าและชอบทุบตีภรรยาขณะที่ ออกัสตา แม่ของเขาเป็นคนเคร่งศาสนาอย่างสุดโต่ง กีนเติบโตมาพร้อม ๆ กับพี่ชายของเขาชื่อว่า เฮนรี ท่ามกลางการพร่ำสอนของแม่ให้เชื่อเรื่องบาปอันเนื่องมาจากความใคร่และความปรารถนาทางกาย

ประมาณปี 2458 ออกัสตาและครอบครัวย้ายไปอยู่ในฟาร์มนอกหมู่บ้านเพลนฟิลด์ กีนใช้ชีวิตอยู่แต่ในฟาร์ม ยกเว้นเวลาที่ต้องไปโรงเรียน

ออกัสตา แม่ผู้เคร่งศาสนาของกีน

เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตในปี 2483 กีนและพี่ชายเริ่มออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว อีก 4 ปีต่อมา ระหว่างที่สองพี่น้องช่วยกันเผาพุ่มไม้ในเขตที่ดินของบ้าน ไฟก็เกิดลุกลามและเฮนรีเสียชีวิต ในตอนแรกสันนิษฐานว่าเขาตายเพราะไฟไหม้ แต่ต่อมาภายหลัง พฤติกรรมของกีนทำให้เกิดความสงสัยว่าเขาอาจเป็นคนลงมือสังหารพี่ชายตัวเอง

กีนรักและทุ่มเทให้แม่ของเขาอย่างสุดหัวใจ เขาไม่เคยมีแฟนหรือออกเดทกับผู้หญิงเลย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิตในช่วงปลายปี  2488 เขาก็เริ่มมีพฤติกรรมผิดเพี้ยน ทั้งบ้านมีเขาอยู่เพียงคนเดียวโดยปล่อยให้บ้านทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ แต่ยังคงเก็บรักษาห้องของแม่เขาไว้อย่างดี นอกจากนี้ เขายังแสดงความสนใจหนังสือเกี่ยวกับกายวิภาคอีกด้วย

ตลอดเวลาหลายปีก่อนจะโดนจับกุม กีนหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างเป็นช่างซ่อมสารพัดนึกและเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ขณะเดียวกันก็มีคนในละแวกใกล้เคียงหายตัวไปอย่างลึกลับ 2-3 คน หนึ่งในนั้นคือ แมรี โฮแกน วัย 54 ปี ผู้จัดการบาร์เหล้าที่กีนไปเที่ยวบ่อย ๆ เธอหายตัวไปในเดือนธ.ค. 2497

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2500 มีรายงานว่า เบอร์นิซ วอร์เดน วัย 58 ปีหายตัวไปจากร้านค้าอุปกรณ์ก่อสร้างของเธอในเพลนฟิลด์พร้อมกับเงินสดในเครื่องเก็บเงินประจำร้าน มีรอยเลือดเปื้อนเป็นทางไปยังด้านหลังของร้าน 

แฟรงก์ ลูกชายของวอร์เดนเป็นรองนายอำเภอในตอนนั้น เขาสงสัยว่ากีนคือคนที่ลงมือทำร้ายแม่เขา หลังจากนั้นไม่นาน กีนก็โดนจับกุมที่บ้านของเพื่อนบ้านคนหนึ่ง

กีนหลังจากโดนจับกุม

หลัจากนั้น การสืบสวนคดีฆาตกรรมวอร์เดนนำไปสู่การค้นพบอันน่าสยดสยองว่า กีนได้รวบรวมชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์จากเหยื่อหลายรายเพื่อนำมาตัดเย็บเป็นชุดและทำเครื่องประดับ

ในคืนที่บุกค้นบ้านของกีน ทีมเจ้าหน้าที่พบหลักฐานสุดสยองหลายชิ้น เช่น ร่างไร้ศีรษะของวอร์เดนที่โดนแขวนไว้กับเพดานโดยที่มีลำไส้ห้อยคาอยู่ ต่อมา เจ้าหน้าที่ก็พบศีรษะของเธออยู่ในถุงกระสอบ ชิ้นส่วนหัวใจอยู่ในถุงพลาสติก นอกจากนี้ยังพบอวัยวะมนุษย์ในขวดโหลหลายขวด หัวกะโหลกคนที่กีนนำไปใช้เป็นที่วางสบู่และเข็มขัดที่ทำจากชิ้นส่วนหัวนมจากศพมนุษย์

เจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างค้นหาหลักฐานในห้องครัวที่บ้านของกีน ซึ่งต่อมาภายหลังพบชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์เป็นจำนวนมาก

กีนซึ่งอายุ 51 ปีในตอนนั้น รับสารภาพระหว่างการสอบสวนว่า เขาฆ่าวอร์เดนและฆ่าโฮแกนเมื่อ 3 ปีก่อนโดยใช้ปืนยิง เพราะผู้หญิงทั้งสองคนมีหน้าตาเหมือนแม่ผู้ล่วงลับของเขา

แอนโธนี เพอร์กินส์ รับบทเป็น “นอร์แมน เบตส์” ฆาตกรโรคจิตติดแม่จากเรื่อง Pshycho ซึ่งนำบุคลิกบางส่วนของกีนมาใช้

นอกจากนี้ กีนยังสารภาพว่าเขาขุดศพขึ้นมาหลายศพเพื่อตัดชิ้นส่วนร่างกาย ร่วมประเวณีกับศพ และนำผิวหนังศพมาตัดเย็บเป็นหน้ากากและชุดหนังมนุษย์เอาไว้สวมใส่ในบ้าน 

เจ้าหน้าที่พยายามเชื่อมโยงเขาเข้ากับการฆาตกรรมและการหายตัวไปของคนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในกรอบเวลาเดียวกันโดยอาศัยหลักฐานที่พบในบ้านของเขา แต่ไม่สามารถสรุปผลที่ชัดเจนได้

กีนได้รับฉายาว่า “คนขายเนื้อแห่งเพลนฟิลด์” จากพฤติกรรมหั่นชิ้นส่วนศพของเขา หลังจากเขาได้รับการตัดสินในศาลว่ามีความผิดจริงในข้อหาฆาตกรรมวอร์เดนในปี 2511 เขาก็เข้ารับการบำบัดจิตในสถาบันจิตวิทยา เนื่องจากศาลตัดสินว่าเป็นการฆาตกรรมระหว่างที่เขามีอาการป่วยเป็นโรคจิตเภท

กีนเสียชีวิตมื่ออายุได้ 77 ปี ​​ด้วยอาการแทรกซ้อนจากโรคมะเร็งปอดและโรคทางเดินหายใจในวันที่ 26 ก.ค. 2527

ที่มา : biography.com, nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES